Pi เปิดตัวพอร์ตใหม่ มองหุ้นไทยเสี่ยงน้อยกว่าหุ้นต่างประเทศ

ไม่กี่ปีมานี้ ตลาดหุ้นไทยเรียกได้ว่าเจอมรสุมหลายอย่าง อย่างเช่น เศรษฐกิจที่เติบโตช้า ความไม่แน่นอนทางการเมือง ไปจนถึง ความโปร่งใสของบริษัทจดทะเบียน

มาวันนี้ เริ่มมีนักลงทุนบางกลุ่ม มองหุ้นไทยว่าอยู่ในจุดที่น่าลงทุน จากมูลค่าที่ไม่แพงเกินไป และ ปันผลในระดับที่ดี

ซึ่งทาง บล. พาย จำกัด (มหาชน) ก็เริ่มมองเห็นโอกาสตรงนี้เช่นเดียวกัน มาดูกันว่าทาง Pi มองโอกาส ความเสี่ยง ของตลาดหุ้นไทยตอนนี้อย่างไร และมีพอร์ตการลงทุนอะไรมานำเสนอ

เริ่มกันที่โอกาส

จากประสบการณ์ของคุณ กวี ชูกิจเกษม ประธานเจ้าหน้าที่สายการบริหารพอร์ตการลงทุน บล. พาย จำกัด (มหาชน) มองว่าตอนนี้ตลาดหุ้นไทย (SET) ปรับตัวลงมา -30% แล้ว

โดยปกติแล้วถ้าเกิดวิกฤติเศรษฐกิจตลาดหุ้นจะปรับตัวลง -50% แปลว่าตอนนี้ตลาดหุ้นไทยเหลือความเสี่ยงขาลงอีก 20% ถือว่าไม่มากและเป็นโอกาส

อีกประเด็นก็คือ ตอนนี้หุ้นไทยมองมุมไหนก็ถูกมีค่า P/BV หรือราคาหุ้นเทียบมูลค่าทางบัญชีต่อหุ้นอยู่ที่ 1.2 เท่า เรียกว่าถูกพอกันกับช่วงที่เกิดวิกฤติซัพไพร์ม และ โควิด-19 เลยทีเดียว

นอกจากนั้นหุ้นไทยตอนนี้ยังมีอัตราเงินปันผลตอบแทนอยู่ที่ 4% ซึ่งถือว่าสูงเลยทีเดียว

สรุปก็คือตอนนี้หุ้นไทยโดนนักลงทุนทำโทษลงมามากซึ่งถ้าเทียบกับสถิติในอดีตก็ถือได้ว่าเหลือความเสี่ยงอีกไม่มาก

นอกจากนั้นยังมีเรื่องมูลค่าที่ไม่แพง และ เงินปันผลที่น่าดึงดูดอีกด้วย

มาต่อกันที่ความเสี่ยง

ตลาดหุ้นไทยตอนนี้ ถึงแม้ความเสี่ยงขาลงจะจำกัด แต่ก็ต้องยอมรับว่ามีความเสี่ยงมากมายคอยกดดันอยู่ ไม่ว่าจะเป็น 

- เศรษฐกิจไทยที่ปีนี้คาดว่าจะเติบโตไม่ถึง 3%

- สงครามการค้า และ เทคโนโลยี

- ความขัดแย้งในตลาดโลก 

- ความเสี่ยงที่หุ้นอเมริกามีราคาแพงทำจุดสูงสุดต่อเนื่อง โดยหุ้นเทคโนโลยีถูกซื้อขายด้วยค่า P/E ที่สูงถึง 60-70 เท่า

- ความเสี่ยงเรื่องเศรษฐกิจชะลอตัวที่ยุโรปเริ่มส่งสัญญาณแล้ว การเติบโตในสหรัฐอเมริกาเลยเป็นคำถาม

ซึ่งถ้าตลาดหุ้นโลกปรับตัวลง ตลาดหุ้นไทยก็มีความเสี่ยงที่จะปรับตัวลงตามไปด้วย โดยจุดที่จะทำให้หุ้นฟื้นตัวขึ้นได้ คือ จุดที่เศรษฐกิจหดตัวแล้วฟื้น และ ดอกเบี้ยไม่ลดลงไปอีก

แต่ถึงอย่างนั้นตลาดหุ้นไทยก็ยังมีความเสี่ยงน้อยกว่าหุ้นโลก ด้วยมูลค่าที่ไม่แพงสวนทางกับตลาดโลก ทำให้หุ้นไทยมีโอกาสที่จะหยุดลง ถึงแม้จะไม่ฟื้นตัวทันทีก็ตาม

โดยธีมหุ้นกลุ่มที่น่าสนใจก็จะมีหุ้นเฮลธ์แคร์ ท่องเที่ยว ที่เคยเติบโตดีในอดีต ส่วนหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ กลุ่มธนาคารตอนนี้มีราคาไม่แพง

โดยกลยุทธ์การลงทุนก็คือเริ่มลงทุนในหุ้นกลุ่มพวกนี้ก่อน แล้วค่อยลงทุนหุ้นเติบโต กับ หุ้นที่ราคาแบกระดินตามมาทีหลัง

ด้วยความเสี่ยงที่ขาลงที่จำกัดของตลาดหุ้นไทย ทาง บล. พาย เลยมองว่าตอนนี้เป็นจังหวะที่ดีที่จะเปิดตัวพอร์ตการลงทุนใหม่ เพื่อให้นักลงทุนได้รับผลตอบแทนภายใต้ความเสี่ยงที่รับได้

ซึ่งพอร์ตนี้ก็คือ Value Investment Portfolio ที่เน้นจัดสัดส่วนการลงทุนระหว่าง หุ้น และ เงินสด เลือกหุ้นที่ราคาต่ำกว่าพื้นฐานสอดคล้องกับสถานการณ์ตอนนี้

นอกจากนั้นก็ยังมีพอร์ตการลงทุนอื่นที่น่าสนใจอีก เช่น Value Averaging Portfolio หรือพอร์ตที่ DCA ตามมูลค่าหุ้น 

และ Asset Allocation Portfolio ที่ลงทุนผ่านกองทุนทั่วโลก เหมาะสำหรับคนไม่มีเวลา ไม่ต้องซื้อขายกองทุนเอง ปรับพอร์ตให้แบบอัตโนมัติรายเดือน

โดยพอร์ตการลงทุนทั้งหมดทาง บล. พาย ให้คำมั่นไว้ว่า จะเน้นไปที่ผลประโยชน์ของนักลงทุนเป็นหลัก ไม่ออกผลิตภัณฑ์ตอนตลาดขึ้นแล้วเชียร์ขาย ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้นักลงทุนติดดอยขาดทุนได้

อ่านมาถึงตรงนี้ ก็คงเห็นแล้วว่า ตอนนี้ตลาดหุ้นไทยมีความสี่ยงขาลงจำกัด ทำให้น่าลงทุนมากกว่าต่างประเทศ

แต่ถึงอย่างนั้น ก็ต้องบอกว่า ตลาดหุ้นไทยก็อาจจะไม่ใช่ตลาดที่เติบโตสูงเป็นการลงทุนในเชิงมูลค่าที่น่าดึงดูดมากกว่า อีกทั้งยังมีความเสี่ยงอีกหลายปัจจัยที่ยังคอยกดดันตลาดอยู่..