ช่วงนี้กระแสหม้อไฟหมาล่ากำลังมาแรงในไทย ไม่ว่าจะเดินไปทางไหนก็เห็นร้านหม้อไฟหมาล่าเต็มไปหมด หลายคนถึงกับต้องเช็กอินเทรนด์นี้ให้ได้ เพื่อลิ้มลองความเผ็ดร้อนอันเป็นเอกลักษณ์ของหม้อไฟหมาล่า แต่แท้จริงแล้ว หม้อไฟหมาล่ามีต้นกำเนิดมาจากที่ไหน และทำไมถึงครองใจคนไทยในเวลานี้ วันนี้เราชาว spotlight จะพาท่านผู้อ่านไปเจาะถึงต้นกำเนิด กระแสความนิยมหมาล่าในไทย เคล็ดลับความสำเร็จของธุรกิจหม้อไฟหมาล่า รวมไปถึง กลยุทธ์การตลาดสำหรับธุรกิจหม้อไฟหมาล่าในปี 2024
จุดเริ่มต้นของกระแสหมาล่าในประเทศไทยเกิดขึ้นในช่วงปี 2018 โดยร้าน "Hai Di Lao" ร้านหมาล่าหม้อไฟชื่อดังจากประเทศจีนที่เข้ามาเปิดสาขาที่ประเทศไทย ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีตั้งแต่วันแรกที่เปิดร้าน ทำให้ตลาดร้านอาหารในประเทศไทยมีเมนูที่นำหมาล่าเข้ามาเป็นส่วนประกอบและก็ยังมีร้านหมาล่าหม้อไฟใหม่ ๆ เข้ามาลงเล่นในตลาดอีกด้วย ในช่วงปีที่ผ่านมาจนถึงปีนี้ เมื่อทุกคนมองไปทางไหนก็จะเห็นแต่หมาล่าสายพาน ซึ่งร้านที่เป็นต้นกำเนิดหมาล่าสายพานที่ฮิตกันทั่วเมืองนั่นก็คือ "สุกี้จินดา" ร้านหมาล่าหม้อไฟที่เพิ่มสายพานเข้ามาเป็นกิมมิค และการกินหม้อไฟที่เป็นแบบหม้อเดี่ยวมีราคาที่เข้าถึงได้ง่าย โดยร้านคิดราคาเป็นไม้ไม้ละ 5 บาท ไปจนถึง 50 บาท จนหลายคนยอมต่อคิวรอเป็นชั่วโมงเพื่อให้ได้เข้าไปกิน ความนิยมของหมาล่าในประเทศไทยนั้นเกิดจากปัจจัยหลายประการ ประการแรกคือรสชาติที่เผ็ดชาอันเป็นเอกลักษณ์ของหมาล่า ซึ่งหลายคนชื่นชอบ ประการที่สองคือความหลากหลายของวัตถุดิบที่นำมาใช้ประกอบอาหารหมาล่า ซึ่งสามารถนำมาปรุงอาหารได้หลากหลายเมนู ประการที่สามคือความคุ้มค่าของราคา โดยร้านหมาล่าหลายร้านมีโปรโมชั่นและส่วนลดมากมาย ด้วยความนิยมที่เพิ่มขึ้นของหมาล่าในประเทศไทย คาดว่ากระแสหมาล่าฟีเวอร์จะยังคงร้อนแรงต่อไปอีกในระยะยาว
ด้วยรสชาติเผ็ดร้อน ชาลิ้น แต่มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว จึงเป็นที่นิยมของคนไทยที่ชื่นชอบอาหารรสจัดจ้าน ลิ้นของคนไทยคุ้นชินกับการรับประทานอาหารในหลากหลายรสชาติ เนื่องมาจากวัฒนธรรมการกินของไทยได้รับอิทธิพลทั้งจากอาหารตะวันออกและตะวันตก เห็นได้จากร้านอาหารประเภทฟิวชันที่ได้รับความนิยม นอกจากนี้ คนไทยยังนิยมใช้สมุนไพรที่มีกลิ่นเฉพาะตัวเป็นวัตถุดิบในการปรุงอาหาร ไม่ว่าจะเป็นขิง ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด หรือมะแขว่น ลูกระมาศ ซึ่งมีรสชาติคล้ายคลึงกับฮวาเจียว เครื่องเทศหลักของหมาล่า นอกจากนี้ อาหารไทยเองยังมีรสชาติครบครัน ไม่ว่าจะเป็นเปรี้ยว เค็ม หวาน รวมไปถึงรสชาติขม และรสฝาด จึงทำให้คนไทยเคยชินกับการบริโภคอาหารทุกรสชาติ โดยเฉพาะอาหารที่ออกรสจัดจ้าน ด้วยปัจจัยเหล่านี้ จึงทำให้หมาล่าได้รับการตอบรับอย่างดีจากคนไทย ในปัจจุบันมีร้านอาหารหมาล่าเปิดให้บริการในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ มีทั้งร้านอาหารแบบดั้งเดิมและแบบฟิวชันที่ปรับเปลี่ยนรสชาติให้เข้ากับคนไทยมากขึ้น
สำหรับในปัจจุบันธุรกิจหมาล่าในประเทศไทยสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักๆ ดังนี้
ธุรกิจหม้อไฟหมาล่า เป็นประเภทธุรกิจที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในประเทศไทย มีลักษณะเป็นร้านอาหารที่ให้บริการหม้อไฟหมาล่า โดยลูกค้าสามารถเลือกวัตถุดิบต่างๆ มาปรุงในหม้อไฟที่มีน้ำซุปหมาล่า ธุรกิจหม้อไฟหมาล่าในประเทศไทยแบ่งออกเป็น 2 ประเภทย่อยๆ ดังนี้
ธุรกิจอาหารหมาล่า เป็นประเภทธุรกิจที่ให้บริการอาหารหมาล่าแบบต่างๆ โดยลูกค้าสามารถเลือกรับประทานได้โดยไม่ต้องปรุงเอง ธุรกิจอาหารหมาล่าในประเทศไทยแบ่งออกเป็น 2 ประเภทย่อยๆ ดังนี้
นอกจากนี้ ยังมีธุรกิจหมาล่าประเภทอื่นๆ ที่น่าสนใจ เช่น ธุรกิจเครื่องสำอางค์หมาล่า ธุรกิจเครื่องดื่มหมาล่า และธุรกิจสินค้าหัตถกรรมหมาล่า เป็นต้น
โซเชียลมีเดีย |
จำนวนข้อความ | จำนวน Engagement |
---|---|---|
455 | 175,225 | |
2,691 | 4,875 | |
281 | 95,804 | |
YouTube | 270 | 39,657 |
TikTok | 210 | 10,000 |
จากการเก็บข้อมูลผ่านเครื่องมือ DXT360 เพื่อฟังเสียงในสังคมออนไลน์ (Social Listening) พบว่า ในช่วงวันที่ 31 สิงหาคม – 11 กันยายน 2566 มีการพูดถึงคำว่า "หมาล่า" บนโซเชียลมีเดียมากถึง 3,697 ข้อความ โดยมี Engagement มากถึง 315,561 ครั้ง
จำนวนการพูดถึงที่เพิ่มขึ้นแสดงให้เห็นว่า หมาล่าเป็นเทรนด์อาหารที่ได้รับความนิยมอย่างมากในสังคมออนไลน์ โดยมีการพูดถึงในหลากหลายแง่มุม ไม่ว่าจะเป็นการรีวิวร้านอาหารหมาล่า การแชร์สูตรอาหารหมาล่า หรือแม้แต่การโพสต์ภาพถ่ายอาหารหมาล่า
เมนู | เปอร์เซนต์ (%) | จำนวน Search |
---|---|---|
หมาล่าชาบูหม้อไฟ | 60 | 360,000 |
สุกี้หมาล่า | 30 | 180,000 |
หมาล่าสายพาน | 20 | 120,000 |
หมาล่าแบบเสียบไม้ | 10 | 60,000 |
หมาล่าแบบเผ็ดน้อย | 5 | 30,000 |
หมาล่าแบบคีบ | 5 | 30,000 |
หมาล่าแบบ Delivery | 5 | 30,000 |
จากข้อมูลของเว็บไซต์ DXT360 พบว่า เมนูอาหารหมาล่าที่คนไทย Search หามากที่สุดแบบคิดเป็นเปอร์เซนต์และจำนวน Search ในช่วงเดือนสิงหาคมปี 2566 ที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่าคนไทยนิยมรับประทานหมาล่าชาบูหม้อไฟมากที่สุด โดยมีจำนวน Search สูงสุดถึง 360,000 ครั้ง รองลงมาคือสุกี้หมาล่า โดยมีจำนวน Search 180,000 ครั้ง โดยภาพรวมแล้ว เมนูอาหารหมาล่าที่คนไทย Search หามากที่สุดในเดือนสิงหาคมปี 2566 ยังคงเป็นเมนูหมาล่าชาบูหม้อไฟและสุกี้หมาล่า ซึ่งยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง โดยหมาล่าสายพานก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเช่นกัน แสดงให้เห็นว่าคนไทยเริ่มหันมาสนใจอาหารหมาล่าในรูปแบบใหม่ๆ มากขึ้น
นอกจากนี้ เมนูหมาล่าแบบ Delivery ก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเช่นกัน เนื่องจากเป็นเมนูที่สะดวกและสามารถรับประทานได้ที่บ้าน จึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้บริโภคในปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม จะเห็นได้ว่าเมนูหมาล่าชาบูหม้อไฟมีจำนวน Search ลดลงจากเดือนก่อนหน้า อาจเป็นเพราะคนไทยเริ่มเบื่อหน่ายกับเมนูเดิมๆ และหันมาสนใจเมนูอื่นๆ มากขึ้น เช่น สุกี้หมาล่าและหมาล่าสายพาน