ไฮไลท์สำคัญของตลาดคริปโตครึ่งแรกของปี 2024 ย่อมหนีไม่พ้นการอนุมัติให้มีการจัดตั้ง Bitcoin Spot ETF ของ ก.ล.ต. สหรัฐฯ ตลอดจนการเกิด Bitcoin Halving ที่เวียนมาครบอีกครั้งในรอบ 4 ปี แต่หลังจากผ่านไตรมาสแรกความร้อนแรงของตลาดก็ลดลง
ผลจากสองเหตุการณ์สำคัญดังกล่าวทำให้ราคา Bitcoin สร้างจุดสูงสุดใหม่ที่ระดับ 74,000 ดอลลาร์ ซึ่งไม่เคยเกิดเหตุการณ์ที่ราคา Bitcoin สร้างจุดสูงสุดใหม่ก่อนการเกิด Halving มาก่อน แต่หลังจากนั้นเป็นเวลาเดือบสามเดือนแล้วที่ Bitcoin เคลื่อนไหวแบบ Sideway Down ลงมาทำจุดต่ำสุดที่ 56,000 ดอลลาร์
แม้ว่าช่วงต้นเดือนมิถุนายน ก.ล.ต.จะสร้างเซอร์ไพร์สเล็กๆด้วยการอนุมัติให้มีการจัดตั้ง Spot Ethereum ETF ประกอบกับหลายชาติอย่างฮ่องกงและออสเตรเลียก็ได้มีการอนุมัติให้เกิด Bitcoin Spot ETF แต่ไม่ได้ทำให้ตลาดตอบรับเชิงบวกอย่างต่อเนื่องมีเพียงแค่การพุ่งขึ้นในระยะสั้นเท่านั้น ทั้งที่ข่าวเชิงลบในครึ่งปีแรกมีเพียงแค่การถูกตัดสินจำคุก 4 เดือนของ Chao Peng Zao ผู้ก่อตั้ง Binance เท่านั้น
ทางด้าน Altcoin ส่วนใหญ่ยังสร้างผลตอบแทนได้ต่ำกว่า Bitcoin แต่มีเหรียญบางกลุ่มที่สามารถสร้างผลตอบแทนได้ดีกว่าภาพรวมตลาดนั้นคือพวก Meme Coin ที่ถูกเก็งกำไรขึ้นมาทำให้ตลาดมีความคึกคักอยู่ช่วงหนึ่ง รวมถึงเหรียญในกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับเอไอที่ปรับตัวขึ้นมาพร้อมกับกระแสการใช้งานเอไอทั่วโลก
อีกกลุ่มหนึ่งคือเหรียญที่เกี่ยวข้องกับ Real World Asset ซึ่งเป็นการนำบล็อกเชนเข้ามาทำงานร่วมกับสินทรัพย์การเงินดั้งเดิม นอกเหนือจากนั้นไม่ว่าจะเป็นเหรียญในกลุ่ม Blockchain Layer1 และ Layer2 ,กลุ่ม DeFi,Metaverse และ NFT ที่เคยเป็นกระแสในช่วงตลาดขาขึ้นครั้งก่อนยังไม่กลับมาเป็นขาขึ้น นักเทรดจึงยังต้องรอการเกิด Altcoin Season ไปก่อน
ภาพรวมของตลาดคริปโตครึ่งแรกของปี 2024 แม้ส่วนใหญ่จะเป็นข่าวดี แต่ตลาดในภาพรวมอาจยังไม่สามารถที่จะบอกได้เต็มตัวว่าตลาดอยู่ในภาวะกระทิง (Bullish) ตามที่คาดหวังว่าหลังการเกิด Halving ตลาดจะกลับมาเป็นกระทิง
อย่างไรก็ตามครึ่งปีหลังต้องมาติดตามว่าจะมีปัจจัยอะไรที่จะทำให้ตลาดกลับมาเป็นกระทิงเต็มตัว
ขณะที่ Narrative หรือเทคโนโลยีใหม่ที่จะเป็นดาวเด่นในตลาดขาขึ้นรอบนี้นอกเหนือจาก Real World Asset และ AI ที่เริ่มเห็นภาพไปแล้ว อาจยังมีเทคโนโลยีอื่นที่ถูกเก็งไว้ก่อนหน้านี้อย่างเช่น SocialFi หรือสื่อสังคมออนไลน์และกระจายศูนย์และยังมี Depins (Decentralized Physical Infrastructure Networks) หรือเครือข่ายโครงสร้างพื้นฐานกายภาพแบบกระจายอำนาจ หรืออาจจะมีเทคโนโลยีใหม่เกิดขึ้นได้อีก
ภาพรวมตลาดคริปโตครึ่งปีหลังต้องรอข่าวดีและปัจจัยบวกเข้ามาช่วยพลิกตลาด ขณะที่ปัจจัยลบยังไม่เห็นภาพที่ชัดเจนมากนัก แต่อาจต้องระวังปัจจัยที่คาดไม่ถึงหรือ Blackswan ที่อาจเกิดขึ้นได้เช่นกัน อย่างเช่นการกลับลำมาคุมเข้มตลาดคริปโตของสหรัฐฯหรือความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ที่อาจมีผลต่อตลาดการเงินทั้งหมด
สรุปแล้วเรายังคาดหวังได้ถึงตลาดกระทิงเต็มตัว แต่อาจต้องรอให้เกิดปัจจัยบวกที่คาดไม่ถึง (Positive Surprise) ที่จะทำให้ตลาดกลับตัวเท่านั้น
ประธานเจ้าหน้าที่ปฎิบัติการ บริษัท เมตาที จำกัด และ นายกสมาคมสินทรัพย์ดิจิทัลไทย