SPOTLIGHT จะพามาหาคำตอบกับผู้บริหารของ บริษัท กรุงไทยคาร์เร้นท์ แอนด์ ลีส จำกัด (มหาชน) หรือ KCAR ผู้ให้บริการสัญญาเช่ารถยนต์เพื่อการดำเนินงาน (Operating Lease) ซึ่งเป็นสัญญาเช่าระยะเวลาตั้งแต่ 1 ปี ถึง 5 ปี โดยให้บริการแก่ลูกค้าประเภทองค์กร อาทิ หน่วยงานรัฐ รัฐวิสาหกิจ และบริษัทเอกชน ตลอดจนลูกค้าบุคคลทั่วไป นอกจากนี้ ยังให้บริการเช่าระยะสั้น (Short Term Rental) ทั้งการเช่าแบบรายวัน รายสัปดาห์ และรายเดือน
โดย คุณพิชิต จันทรเสรีกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท กรุงไทย คาร์เร้นท์ แอนด์ ลีส จำกัด (มหาชน) ได้ให้สัมภาษณ์กับ SPOTLIGHT ถึงภาพรวมตลาดรถเช่าและตลาดรถยนต์มือสองว่า “ ในไตรมาส 1 ไตรมาส 2 ภาพรวมตลาดยังไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่เชื่อว่าในไตรมาส 3 จะปรับตัวดีขึ้น จากการแข่งขันของรถยนต์ใหม่ไม่สูงมากนัก และเชื่อว่าสถาบันการเงินจะมีการผ่อนเกณฑ์ในการปล่อยกู้รถยนต์มือสองได้ง่ายขึ้น ในภาวะที่ตลาดยังมีรถยึดอยู่จำนวนมาก”
ภาพรวมตลาดรถยนต์มือสองในไตรมาส 1 และในไตรมาส 2 ภาพรวมยังไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก แต่เชื่อว่าในไตรมาส 3 จะปรับตัวดีขึ้น สถานการณ์รถใหม่การแข่งขันไม่ได้สูงมากนัก เนื่องจากยอดขายรถยนต์ใหม่ไม่ได้สูงมากนัก ต่ำกว่าประมาณการ ทำให้ผู้ประกอบการปล่อยสินเชื่อรถยนต์มือสองจะกลับมายืดหยุ่นในการปล่อยสินเชื่อเพิ่มมากขึ้น หลังจากเป้าหมายสินเชื่อไม่ได้ตามที่ประมาณการไว้
สถานการณ์รถยึดในปี 2567 จะลดลง เนื่องจากได้มีการยึดรถมาจำนวนในปี 2566 และเข้าสู่กระบวนการประนอมหนี้ ซึ่งปี 2567 จะใกล้เข้าสู่ภาวะปกติ รถยึดก็ยังมีอยู่ จึงเชื่อว่าสถานการณ์รถยึดจะปรับตัวดีขึ้น
ตลาดรถเช่าปี 2567 คงปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากมีการยืดอายุสัญญากันมาพอสมควรแล้ว คงจะเริ่มเปลี่ยนรถ และเชื่อว่ารถที่ใกล้หมดอายุสัญญาในปีนี้จะมีการต่ออายุสัญญา เพื่อเป็นการลดต้นทุน ภาพรวมตลาดรถเช่าโตขึ้นเล็กน้อยประมาณ 1-2% ในมูลค่าตลาดระดับหมื่นล้านบาท ซึ่งมองว่าการแข่งขันของธุรกิจรถเช่ามีภาวะการแข่งขันกันโดยสมบูรณ์แล้ว ปีนี้ผู้ประกอบการรายหลาย ประสบปัญหารถที่ครบสัญญาขายออกได้ต่ำกว่าที่ประมาณการไว้ เรื่องราคาที่เสนอมีการปรับต้นทุน
คุณพิชิต กล่าวว่า ในปีนี้ KCAR คาดว่าอัตราการเติบโตของรายได้ใกล้เคียงกับปีก่อน เติบโตราว 1-2% ซึ่งเป็นไปตามภาวะตลาด ส่วนยอดขายรถยนต์มือสองปีนี้ จะพยายามขายรถทำให้ได้ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา
ถึงแม้ว่าไตรมาสแรกปีนี้ยอดขายจะน้อยลงไปบ้าง เนื่องจากเป็นไปตามสภาวะตลาดของรถยนต์มือสองไม่ค่อยดีนัก แต่เรามีสต็อกรถที่มีคุณภาพไว้จำนวนมากพอสมควร แต่ถ้าสถาบันการเงินมีการปล่อยเกณฑ์การปล่อยสินเชื่อ ก็เชื่อว่าจะสามารถเพิ่มยอดขายได้ไม่ยากนัก ปีที่แล้วได้ขายได้ประมาณ 1,000 คัน
“ ขณะที่รายได้ค่าเช่าปีนี้ คงเติบโตขึ้นเล็กน้อย ส่วนเรื่องรถยนต์มือสองบวกลบเล็กน้อย ขึ้นอยู่กับการผ่อนปรนการปล่อยสินเชื่อรถมือสองของสถาบันการเงิน ถ้าผ่อนปรนเร็วก็จะทำให้ยอดขายรถยนต์มือสองอาจดีขึ้นกว่าปีที่แล้ว แต่ถ้าผ่อนเกณฑ์ปล่อยสินเชื่อได้ช้าก็จะส่งผลให้ยอดขายลดลงจากปีนี้เล็กน้อย”
สำหรับกำไรปีนี้คาดว่าจะลดลงจากปีก่อนเล็กน้อย เนื่องจากบริษัทใช้นโยบายการตัดค่าเสื่อมราในลักษณะ conservative จากการที่ปีที่ผ่านมามีการซื้อรถยนต์เข้ามาจำนวนมาก ส่งผลให้มีการตัดค่าเสื่อมค่อนข้างมาก
แต่อย่างไรก็ตาม หากภาพธุรกิจยนต์มือสองปรับตัวดีขึ้นมา ก็เชื่อว่าจะส่งผลให้มาร์จิ้นของ KCAR มีการก้าวกระโดดขึ้นมา ซึ่งบริษัทจะรักษาอัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin : NP) ให้อยู่ที่ระดับ 4% นั้น ด้วยกลยุทธ์การแข่งขันด้านราคาน้อยลง แต่ให้บริการที่ดีกว่าและแตกต่าง เข้าถึงลูกค้าและปรับบริการให้เหมาะสมกับลูกค้าแต่ละราย บริหารต้นทุน ควบคุมค่าใช้จ่าย ด้วยการเปิดธุรกิจมือสองจำหน่ายเอง แต่เชื่อว่า KCAR น่าจะดีกว่าผู้ประกอบการรายอื่นในตลาด
สถานการณ์ตลาดรถยนต์มือสองในไตรมาส 1/2567 มียอดขายสูงเป็นพิเศษจากภาวะการขาดแคลนอุปทานของรถยนต์มือสอง ประกอบกับตลาดรถยนต์มือสองได้รับผลกระทบจากสถาบันการเงินที่เข็มงวดในการอนุมัติสินเชื่อจากปัญหาหนี้เสีย และเศรษฐกิจที่ชะลอตังลง ราคารถยนต์มือสองปรับตัวลดลง จากปริมาณรถยนต์มือสองในตลาดมีจำนวนมาก แต่คาดว่าตลาดรถยนต์มือสองในปีนี้จะฟื้นตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป
คุณพิชิต จันทรเสรีกุล ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ บริษัท กรุงไทย คาร์เร้นท์ แอนด์ ลีส จำกัด (มหาชน) โดยมีความเชี่ยวชาญในการดำเนินธุรกิจในอุตสาหกรรมรถเช่าและรถมือสองมานานกว่า 20 ปี
สำเร็จการศึกษาปริญญาตรีคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญและปริญญาโทคณะบริหารธุรกิจ University of Toledo ประเทศสหรัฐอเมริกา และผ่านการอบรมหลักสูตรพิเศษจากองค์กรชั้นนำมากมาย อาทิ การอบรมหลักสูตร Director Accreditation Program (DAP), Director Certification Program (DCP), อบรมหลักสูตรธุรกิจครอบครัว กำกับดูแลอย่างไรให้ยั่งยืน (FBS) ฯลฯ
ปัจจุบัน คุณพิชิตยังคงเดินหน้าลงทุนไปกับพัฒนาองค์กรและทีมงานอย่างต่อเนื่อง โดยมีแผนการพัฒนาบริการและนวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อความก้าวหน้าของอุตสาหกรรมรถยนต์ของเมืองไทย ด้วยความเชี่ยวชาญและความน่าเชื่อถือด้านการพัฒนาบริการอันโดดเด่นและระบบการจัดการที่ดี ทำให้ KCAR กลายมาเป็นกลุ่มยายนต์ชั้นนำของประเทศ และได้รับการประกาศคงอันดับทริสเรทติ้งที่ระดับ A- ซึ่งเป็นระดับสูงที่สุดสำหรับผู้ประกอบธุรกิจให้เช่ารถยนต์ในประเทศไทย