ความยั่งยืน

ปูนเก็บไฟฟ้า มาเปลี่ยนบ้านให้เป็นแบตเตอรี่ อนาคตพลังงานสะอาดที่ยั่งยืน

7 ก.ค. 67
ปูนเก็บไฟฟ้า มาเปลี่ยนบ้านให้เป็นแบตเตอรี่ อนาคตพลังงานสะอาดที่ยั่งยืน

เมื่อบ้านทั้งหลัง...คือแบตเตอรี่? ฟังดูเหมือนเรื่องเหลือเชื่อ แต่นี่คือสิ่งที่นักวิจัยจาก MIT กำลังพยายามทำให้เป็นจริง ด้วยการพัฒนา " ปูนเก็บไฟฟ้า หรือ คอนกรีตเก็บไฟ" นวัตกรรมสุดล้ำที่อาจเปลี่ยนบ้านของคุณให้กลายเป็นแหล่งกักเก็บพลังงานสะอาดขนาดยักษ์! แล้วเทคโนโลยีนี้จะปฏิวัติวงการพลังงานและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้อย่างไร? มาหาคำตอบไปพร้อมกัน...

ปูนเก็บไฟฟ้า มาเปลี่ยนบ้านให้เป็นแบตเตอรี่ อนาคตพลังงานสะอาดที่ยั่งยืน

ปูนเก็บไฟฟ้า มาเปลี่ยนบ้านให้เป็นแบตเตอรี่ อนาคตพลังงานสะอาดที่ยั่งยืน

การผลิตกระแสไฟฟ้าเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งเป็นตัวการหลักของภาวะโลกร้อน ทั่วโลกจึงหันมาให้ความสำคัญกับการใช้พลังงานสะอาดจากธรรมชาติมากขึ้น เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม หรือพลังงานน้ำ แต่ปัญหาที่ตามมาคือการกักเก็บพลังงานเหล่านี้ ซึ่งต้องใช้แบตเตอรี่ที่ต้องอาศัยกระบวนการทำเหมืองที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างมาก

อย่างไรก็ตาม ล่าสุดนักวิจัยจาก MIT (สถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์) ได้พัฒนาคอนกรีตชนิดพิเศษที่สามารถกักเก็บพลังงานได้ เปลี่ยนโครงสร้างบ้านให้กลายเป็นแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ คอนกรีตชนิดนี้มีชื่อเรียกว่า "ตัวเก็บประจุยิ่งยวด" (supercapacitor) ซึ่งผลิตจากวัสดุที่หาได้ง่าย เพียงแค่ น้ำ ปูนซีเมนต์ และเขม่าดำ ซึ่งเป็นวัสดุเหลือใช้จากการเผาไหม้

" ปูนเก็บไฟฟ้า " กับศักยภาพในการลดการใช้หลังงาน

ปูนเก็บไฟฟ้า มาเปลี่ยนบ้านให้เป็นแบตเตอรี่ อนาคตพลังงานสะอาดที่ยั่งยืน

แม้ว่าในขั้นทดลอง คอนกรีต 1 ลูกบาศก์เมตรจะสามารถกักเก็บพลังงานได้เพียง 300 วัตต์-ชั่วโมง ซึ่งเพียงพอสำหรับให้หลอดไฟ LED ขนาดเล็กส่องสว่างได้ราว 30 ชั่วโมง แต่หากนำมาใช้ในบ้านที่มีโครงสร้างคอนกรีต 30-40 ลูกบาศก์เมตร ก็จะสามารถเก็บพลังงานได้เพียงพอต่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน เช่น การเปิดไฟ หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็กภายในบ้าน

ข้อดีของคอนกรีตชนิดนี้คือสามารถกักเก็บพลังงานได้อย่างรวดเร็ว และสามารถปรับขนาดให้เหมาะสมกับขนาดของอาคารได้ แต่ข้อจำกัดคือยังไม่สามารถเก็บพลังงานได้นานเท่าแบตเตอรี่ทั่วไป จึงยังไม่เหมาะกับการใช้งานที่ต้องใช้พลังงานต่อเนื่องเป็นเวลานาน อย่างเช่น การชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า

แม้ว่าคอนกรีตเก็บประจุนี้จะยังอยู่ในขั้นตอนการทดลองและยังไม่สามารถนำมาใช้งานจริงได้ในขณะนี้ แต่นี่ก็ถือเป็นก้าวสำคัญของวงการพลังงานสะอาด ที่อาจนำไปสู่การลดการพึ่งพาแบตเตอรี่ที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และอาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของการใช้พลังงานในอนาคต

หากนวัตกรรมมีในประเทศไทยละ

ปูนเก็บไฟฟ้า มาเปลี่ยนบ้านให้เป็นแบตเตอรี่ อนาคตพลังงานสะอาดที่ยั่งยืน

จากรายงานด้านบนแม้ว่าในขั้นทดลองจากต่างประเทศที่ระบุว่า คอนกรีต 1 ลูกบาศก์เมตรจะสามารถกักเก็บพลังงานได้เพียง 300 วัตต์-ชั่วโมง และหากนำมาใช้ในบ้านที่มีโครงสร้างคอนกรีต 30-40 ลูกบาศก์เมตร นั้นสามารถเก็บพลังงานได้เพียงพอต่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน ซึ่งในบริบทของประเทศไทยที่อากาศร้อนและมีการใช้เครื่องปรับอากาศสูง เทคโนโลยีนี้มีศักยภาพในการช่วยลดค่าไฟฟ้าของครัวเรือนได้อย่างมีนัยสำคัญ

แม้ว่าคอนกรีตเก็บประจุนี้จะยังอยู่ในขั้นตอนการทดลองและยังไม่สามารถนำมาใช้งานจริงได้ในขณะนี้ แต่นี่ก็ถือเป็นก้าวสำคัญของวงการพลังงานสะอาด ที่อาจนำไปสู่การลดการพึ่งพาแบตเตอรี่ที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และอาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของการใช้พลังงานในอนาคต แต่การนำเทคโนโลยีนี้มาปรับใช้ในประเทศไทยอาจต้องเผชิญกับความท้าทายหลายประการ เช่น ต้นทุนการผลิต การปรับปรุงมาตรฐานการก่อสร้าง และการพัฒนากฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง แต่ในขณะเดียวกัน ก็เป็นโอกาสสำหรับอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยในการพัฒนานวัตกรรม และเป็นผู้นำในด้านเทคโนโลยีพลังงานสะอาดในภูมิภาค

สุดท้ายนี้แม้ว่า "คอนกรีตเก็บไฟ" จะยังเป็นเพียงก้าวแรกของการพัฒนาเทคโนโลยีพลังงานสะอาด แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่านี่คือสัญญาณแห่งความหวังในการแก้ปัญหาพลังงานและสิ่งแวดล้อมที่โลกกำลังเผชิญอยู่ สำหรับประเทศไทย นวัตกรรมนี้อาจเป็นเรื่องที่ไกลตัว แต่มันก็อาจเป็นกุญแจสำคัญในการลดค่าไฟฟ้าและสร้างความยั่งยืนให้กับภาคอุตสาหกรรมก่อสร้าง แม้เส้นทางข้างหน้าอาจเต็มไปด้วยอุปสรรค แต่หากเราสามารถก้าวข้ามผ่านความท้าทายเหล่านี้ไปได้ "คอนกรีตเก็บไฟ" อาจไม่ใช่แค่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป แต่จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันที่ช่วยให้เราสร้างอนาคตที่ยั่งยืนร่วมกัน

ที่มา bbc

advertisement

Relate Post

SPOTLIGHT