มาเก๊าครบรอบ 25 ปีคืนสู่จีนแผ่นดินใหญ่ มาดูกันว่าปัจจัยอะไรที่ทำให้มาเก๊าเกิดความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจ สวนทางวิกฤตการณ์มากมายที่เกิดขึ้นทั่วโลก
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน เดินทางเยือนเกาะมาเก๊าเป็นเวลา 3 วัน ตั้งแต่วันที่ 18-20 ธันวาคมที่ผ่านมา ในโอกาสครบรอบ 25 ปี ที่โปรตุเกสส่งมอบดินแดนมาเก๊ากลับคืนสู่จีนแผ่นดินใหญ่ ในวันที่ 20 ธันวาคม ปี 1999 หลังตกเป็นอาณานิคมมายาวนานกว่า 442 ปี
ผู้นำจีนได้กล่าวชื่นชมความสำเร็จของเขตบริหารพิเศษมาเก๊าตลอดช่วง 5 ปี ว่า "ไม่ธรรมดา" เนื่องจากมาเก๊ามีความก้าวหน้าในการพัฒนาทางเศรษฐกิจ และสามารถพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยความสำเร็จนี้ เกิดจากความรักชาติและความจงรักภักดีที่มาเก๊ามีต่อจีนแผ่นดินใหญ่ รวมถึงเดินตามหลักการ "หนึ่งประเทศ สองระบบ" อย่างเคร่งครัด
การกล่าวปราศรัยของผู้นำสี จิ้นผิง ชวนตั้งคำถามที่ว่า เศรษฐกิจของมาเก๊าเติบโตขึ้นขนาดไหน และ เพียงแค่เดินตามเส้นทางของรัฐบาลคอมมิวนิสต์จีนอย่างเคร่งครัด ด้วยความรักชาติและจงรักภักดี จะทำให้มาเก๊ามั่งคั่งขึ้นภายในไม่กี่ทศวรรษได้จริงไหม หรือแท้จริงแล้ว มีปัจจัยในอะไรบ้าง ที่ผลักดันให้มาเก๊าเป็นที่รู้จักของนักธุรกิจและนักเดินทางทั่วโลก
เศรษฐกิจของมาเก๊ามีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่า GDP ของปี 2024 จะมีมูลค่าสูงถึง 55,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่ง GDP ในไตรมาสแรกของปีนี้ เพิ่มขึ้น 25.7% เมื่อเทียบกับปีก่อน ถือเป็นไตรมาสที่ห้าติดต่อกันแล้ว ที่ GDP ของมาเก๊าเกิดการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง จากตัวเลข GDP ดังกล่าว ทำให้นิตยสาร Forbes จัดอันดับให้มาเก๊าเป็นภูมิภาคที่มีความร่ำรวยมากที่สุดเป็นอันดับที่ 2 ของโลก ในปี 2024 รองลงมาจากลักเซมเบิร์ก
สอดคล้องกับตัวเลขทางเศรษฐกิจอื่น ๆ ซึ่งเป็นที่น่าพอใจไม่แพ้กัน โดยรายได้ปัจจุบันของรัฐบาลเขตบริหารพิเศษมาเก๊าในปีนี้อยู่ที่ราว 1.4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
แม้ผู้นำสี จิ้นผิงของจีนจะอ้างถึงความจงรักภักดีของมาเก๊าที่มีต่อรัฐบาลจีน แต่นี่ไม่ใช่ปัจจัยหลักที่ทำให้จีนแผ่นดินใหญ่ สนับสนุนการพัฒนาของมาเก๊าให้เติบโตขึ้น แท้จริงแล้ว จีนต่างหากที่ได้ประโยชน์จากความเติบโตของมาเก๊า เนื่องจากมาเก๊าเป็นสวรรค์ของนักพนันและนักลงทุน ทำให้เม็ดเงินไหลเข้าประเทศมาตั้งแต่กลับคืนสู่แผ่นดินใหญ่
การพนันในมาเก๊าถูกกฎหมายมาตั้งแต่ทศวรรษ 1850 เมื่อรัฐบาลโปรตุเกสประกาศให้กิจกรรมนี้ถูกกฎหมายในอาณานิคมปกครองตนเองแห่งนี้ นับแต่นั้นเป็นต้นมา มาเก๊าก็เป็นที่รู้จักไปทั่วโลกในฐานะ "เมืองหลวงแห่งการพนันของโลก"
ปัจจุบัน มาเก๊า เป็นสถานที่แห่งเดียวในประเทศจีนที่การพนันถูกกฎหมาย เศรษฐกิจของมาเก๊าขึ้นอยู่กับอุตสาหกรรมคาสิโนเป็นหลัก รัฐบาลมาเก๊ามีรายได้จากการเก็บภาษีการพนันคิดเป็น 83% ของรายได้ทั้งหมด ซึ่งการเก็บภาษีมาจากผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจการพนัน นายทุนเหล่านี้ จะต้องเสียภาษีสูงสุดถึง 40%
ในปี 2024 นี้ มาเก๊าสร้างรายได้จากอุตสาหกรรมการพนันไปได้ 23,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แม้จะยังไม่ครบปี แต่รายได้ปีนี้ก็แซงหน้าปี 2023 ไปแล้ว ซึ่งอยู่ที่ 22,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ดังนั้น ปัจจัยสำคัญ ที่ทำให้เศรษฐกิจมาเก๊าเติบโตได้อย่างมั่งคั่งร่ำรวย คือธุรกิจสีเทาที่ถูกนำมาทำให้ถูกกฏหมายอย่างการพนันนั่นเอง
ในปี 2024 สำนักงานการท่องเที่ยวของรัฐบาลมาเก๊าตั้งเป้าดึงดูดนักท่องเที่ยว 33 ล้านคน ซึ่งคาดว่าเขตบริหารพิเศษมาเก๊าจะบรรลุเป้าหมายดังกล่าวได้ภายในสิ้นปีนี้ เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว ที่มีนักท่องเที่ยวราว 28 ล้านคน นอกจากคาสิโนจะช่วยดึงดูดสิงห์นักพนันเบอร์ต้น ๆ จากทั่วโลกมายังมาเก๊าแล้ว เกาะเล็ก ๆ แห่งนี้ยังมีชื่อเสียงในด้านการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมโปรตุเกสและจีน รวมถึงโรงแรมและธุรกิจเอกชนด้านการท่องเที่ยวค่อนข้างพัฒนาจนทั่วโลกให้การยอมรับ
ในปี 2023 มาเก๊าสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวได้สูงถึง 32.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทำให้จีนเป็นประเทศที่สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวสูงสุด โดยเพิ่มขึ้น 275% จากปีก่อน เนื่องจากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวฟื้นตัว ดีดกลับมาสูงขึ้นหลังจากจีนยกเลิกมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของ Covid-19
มาเก๊าเป็นเขตบริหารพิเศษที่ดำเนินนโยบายเศรษฐกิจแบบเปิดกว้าง คล้ายเป็นท่าเรือเสรีและไม่มีการควบคุมการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ และขั้นตอนการอนุมัติการลงทุนโดยชาวต่างชาติไม่แตกต่างจากคนในพื้นที่
ที่สำคัญ เขตบริหารพิเศษมาเก๊าได้เข้าเป็นสมาชิกขององค์การการค้าโลก (WTO) เมื่อวันที่ 1 มกราคม 1995 ข้อตกลงความร่วมมือทางเศรษฐกิจที่สร้างความแน่นแฟ้นกับนานาชาติ บวกกับการกลับคืนสู่จีนแผ่นดินใหญ่ ในปี 1999 ช่วยให้สินค้ามาเก๊าเข้าสู่จีนแผ่นดินใหญ่ได้โดยไม่ต้องเสียภาษีศุลกากร และเป็นช่องทางให้ธุรกิจในเขตบริหารพิเศษมาเก๊าเข้าถึงตลาดจีนแผ่นดินใหญ่ได้มากขึ้น
นอกจากนี้ มาเก๊ามีอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลและภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาต่ำที่สุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก จึงเรียกได้ว่าเป็น “สวรรค์ปลอดภาษีของนักลงทุน” ทั้งนักลงทุนชาวจีนเอง และนักลงทุนต่างชาติ
Macaupostdaily , Sciencedirect , taxsummaries