KCNA สำนักข่าวรัฐบาลเกาหลีเหนือได้รายงานความสำเร็จที่ผู้นำคิม จองอึน ได้ทำการควบคุมดูแลการทดสอบขีปนาวุธพิสัยกลางไฮเปอร์โซนิกรุ่นใหม่ลงสู่ทะเลตะวันออก เมื่อเช้าวันที่ 6 มกราคม ที่ผ่านมา โดยระบุว่า ขีปนาวุธดังกล่าวยิงได้ไกลถึง 1,500 กิโลเมตรและเร็วกว่าความเร็วเสียงถึง 12 เท่า การทดสอบในครั้งนี้ยังสร้างสถิติจุดสูงสุดของขีปนาวุธที่ 42.5 กิโลเมตรด้วย พร้อมให้คำมั่นว่าจะเร่งพัฒนาขีดความสามารถด้านนิวเคลียร์และขีปนาวุธของประเทศ
นับเป็นการยิงขีปนาวุธครั้งแรกของเกาหลีเหนือในปีนี้ และห่างจากครั้งล่าสุดเกือบ 2 เดือน หรือตั้งแต่ 5 พฤศจิกายนปีที่แล้ว
อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวยอนฮัพของเกาหลีใต้ รายงานอ้างกองทัพเกาหลีใต้ว่า ความสำเร็จดังกล่าวของเกาหลีเหนือเป็นเพียงคำหลอกลวง โดยพันเอกอี ซองจุน โฆษกคณะเสนาธิการทหารร่วมของเกาหลีใต้ (JCS) กล่าวว่า จากการประเมินร่วมกันของกองทัพสหรัฐฯ ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ พบว่าขีปนาวุธ IRBM ที่ยิงมาจากกรุงเปียงยาง มีระยะทางประมาณ 1,100 กิโลเมตรก่อนจะตกลงไปในทะเลตะวันออก รวมถึงระดับความสูงของพิสัยการยิงขีปนาวุธในครั้งนี้ ไม่ได้ทำลายสถิติสูงสุดจากครั้งก่อน
นอกจากนี้ เกาหลีเหนือยังอ้างความสำเร็จในการพัฒนาเทคโนโลยี เช่น การใช้สารประกอบคาร์บอนไฟเบอร์ชนิดใหม่สำหรับตัวเครื่องยนต์ ทำสื่อต่างประเทศหลายสำนักเชื่อว่า การทดสอบขีปนาวุธของเกาหลีเหนือในครั้งนี้ ได้รับการสนับสนุนจากกองทัพรัสเซีย และเป็นการแลกเปลี่ยนทางหทารที่เกาหลีเหนือส่งกองทัพชั้นดีไปเข้าร่วมสงครามรัสเซียกับยูเครน
การยิงขีปนาวุธของเกาหลีเหนือครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงที่นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ กำลังเยือนกรุงโซลของเกาหลีใต้ เพื่อหารือกับนายโช แท-ย็อล รัฐมนตรีต่างประเทศเกาหลีใต้ เกี่ยวกับความพยายามในการยับยั้งภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือ ล่าสุด ทั้งคู่ได้ออกแถลงการณ์ประณามการทดสอบขีปนาวุธของเกาหลีใต้ รวมถึงเตือนว่าการแลกเปลี่ยนทางทหารระหว่างรัฐบาลเกาหลีเหนือและรัสเซีย อาจเป็นความร่วมมือที่ละเมิดกฎหมายในด้านเทคโนโลยีอวกาศและดาวเทียม