มัดรวมให้ ทำงานวันแรก ทรัมป์ลงนามคำสั่งอะไรไปบ้างแล้ว
โดนัลด์ ทรัมป์ สาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯคนที่ 47 เป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 20 มกราคม 2025 นับเป็นการกลับเข้าสู่ทำเนียบขาวอีกครั้ง และเพียงวันแรกของการเริ่มทำงาน ทรัมป์ก็ลงนามในคำสั่งต่างๆมากมาย Spotlight World เรียบเรียงสิ่งที่ทรัมป์ทำในวันแรกมาฝาก
คอนเทนต์แนะนำ
การนิรโทษกรรมและการลดโทษในเหตุการณ์บุกรัฐสภา 6 มกราคม
วันแรกของการกลับมารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศนิรโทษกรรมให้กับผู้ที่ถูกตั้งข้อหาในเหตุการณ์โจมตีอาคารรัฐสภาสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2021 ประมาณ 1,500 ราย และเป็นการนิรโทษกรรมแบบเต็มรูปแบบ
ทั้งนี้ อัยการได้ตั้งข้อหาผู้ต้องสงสัยมากกว่า 1,580 คนจากการกระทำที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์โจมตีอาคารรัฐสภาสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2021 และสามารถตัดสินคดีแล้วประมาณ 1,270 ราย ซึ่งหมายความว่าทรัมป์ได้ประกาศนิรโทษกรรมเกือบทุกคนที่ถูกตั้งข้อหาในเหตุการณ์ดังกล่าว โดยเป็นการยุติคดีทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้โดยสิ้นเชิง หลังจากช่วงหาเสียง ทรัมป์เคยให้สัญญาเอาไว้ว่าจะทำเช่นนี้
ขยายเวลาการแบน TikTok
ตามที่ได้ให้สัญญาไว้ก่อนกลับเข้ารับตำแหน่ง ทรัมป์ได้ลงนามในคำสั่งบริหารพิเศษ เพื่อขยายกำหนดเวลาให้บริษัทแม่ของ TikTok อีก 75 เพื่อให้หาเจ้าของใหม่ในสหรัฐฯ
เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา TikTok ถูกปิดให้บริการชั่วคราวสำหรับผู้ใช้ชาวอเมริกัน 170 ล้านคน แต่กลับมาออนไลน์อีกครั้งหลังจากทรัมป์ให้สัญญาในเช้าวันอาทิตย์ว่า จะหาทางคืนสถานะให้
อย่างไรก็ตาม ชะตากรรมของ TikTok ในสหรัฐฯ ยังคงไม่แน่นอน เนื่องจากยังไม่มีความชัดเจนว่า ByteDance ซึ่งเป็นบริษัทแม่ในจีนจะยินยอมขายกิจการหรือไม่ แม้การขายนั้นจะมีทรัมป์เป็นผู้ประสานงานก็ตาม
ยกเลิกคำสั่งบริหารยุคไบเดน 78 ฉบับ
ทรัมป์ได้ลงนามยกเลิกคำสั่งบริหารจำนวน 78 ฉบับที่ออกในยุคของโจ ไบเดน เช่น
- คำสั่งที่กำหนดให้หน่วยงานรัฐบาลกลางขยายความหมายของการห้ามเลือกปฏิบัติทางเพศให้ครอบคลุมถึงรสนิยมทางเพศและอัตลักษณ์ทางเพศ
- คำสั่งที่อนุญาตให้คนข้ามเพศเข้ารับราชการในกองทัพสหรัฐฯ
- คำสั่งที่บังคับใช้จริยธรรมกับเจ้าหน้าที่ที่ได้รับการแต่งตั้งจากฝ่ายบริหาร
- คำสั่งที่ห้ามการต่ออายุสัญญาคุกเอกชน
นอกจากนี้ ทรัมป์ยังยกเลิกคำสั่งที่ไบเดนออกในประเด็นต่างประเทศ เช่น การถอดคิวบาออกจากรายชื่อประเทศสนับสนุนการก่อการร้าย การคว่ำบาตรชาวยิวที่ตั้งถิ่นฐานในเขตเวสต์แบงก์ และนโยบายที่มุ่งลดความเสี่ยงจากปัญญาประดิษฐ์ (AI)
ในประเด็นเรื่องสิทธิในเพศ ทรัมป์ยังออกคำสั่งใหม่ที่ให้หน่วยงานรัฐบาลกลางกลับไปแยกเพศตามเพศกำเนิด (ชายและหญิง) และห้ามการส่งเสริม “อุดมการณ์เรื่องเพศ” (gender ideology) ในเอกสารราชการ รวมถึงยกเลิกการขยายตัวเลือกเพศในหนังสือเดินทางและแบบฟอร์มของหน่วยงานรัฐบาล
นโยบายผู้อพยพ
ทรัมป์ได้ประกาศภาวะฉุกเฉินแห่งชาติที่ชายแดนด้านใต้ ซึ่งจะนำไปสู่การใช้ทรัพยากรและบุคลากรของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ในการสร้างกำแพงกั้นชายแดนสหรัฐฯ-เม็กซิโก นอกจากนี้ รัฐบาลทรัมป์ยังสั่งยุติการใช้งานแอปพลิเคชันที่ผู้อพยพใช้แจ้งความประสงค์จะเข้าสหรัฐฯ และช่วยให้พวกเขาสามารถนัดหมายเพื่อยื่นคำขอลี้ภัยกับเจ้าหน้าที่ชายแดนได้
นอกจากนี้ ทรัมป์ได้ลงนามในคำสั่งบริหารที่พยายามที่จะกำหนดนิยามใหม่ของการให้สัญชาติอเมริกันตามการเกิด (birthright citizenship) ซึ่งเป็นกระบวนการที่ให้ทุกคนที่เกิดในสหรัฐฯ ได้รับสัญชาติอเมริกันโดยอัตโนมัติ แต่รัฐบาลจะไม่ออกเอกสารสำหรับเด็ก ในกรณีที่พ่อแม่ของเด็กอยู่ในสหรัฐฯ โดยไม่ถูกต้องตามกฎหมาย หรือในกรณีที่มารดาอยู่ในสหรัฐฯ ชั่วคราว เช่น ในกรณีที่มีวีซ่า และบิดาเป็นคนนอกสัญชาติ
ทรัมป์ประกาศถอนสหรัฐฯ ออกจากองค์การอนามัยโลก (WHO)
ทรัมป์ประกาศพาสหรัฐฯถอนตัวออกจากองค์การอนามัยโลก (WHO) โดยทรัมป์วิจารณ์ WHO มานาน และเคยประกาศจะถอนตัวออกจากองค์การดังกล่าวเมื่อเดือนกรกฎาคม 2020 ขณะที่การแพร่ระบาดของโควิด-19 ยังคงรุนแรง แต่ไบเดนได้หยุดการถอนตัวนี้ด้วยคำสั่งบริหารของเขาเอง
ทรัมป์กล่าวกับผู้ช่วยขณะลงนามว่า นี่คือการตัดสินใจครั้งใหญ่ ซึ่งเขาเชื่อว่า สหรัฐฯ จ่ายเงินให้กับองค์กรมากเกินไปเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ
