Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
เชียงใหม่ สวรรค์เมืองเกษียณ ถูก ดี เป็นมิตร ต่างชาติไม่คิดกลับบ้านเกิด
โดย : กองบรรณาธิการ SPOTLIGHT

เชียงใหม่ สวรรค์เมืองเกษียณ ถูก ดี เป็นมิตร ต่างชาติไม่คิดกลับบ้านเกิด

15 มี.ค. 68
07:23 น.
|
164
แชร์

“ไม่ค่ะ ฉันยังไม่มีแผนจะกลับบ้านเกิด” นี่คือคำตอบอย่างหนักแน่นของคุณเออร์ซูลา ฟอน เอร์ทเซน หญิงชาวเยอรมันวัย 76 ปี หลังจากที่ทีมข่าว Spotlight ได้ถามถึงแผนอนาคตของเธอ เพราะปีนี้เป็นปีที่ 11 แล้ว ที่เธออาศัยอยู่ในเชียงใหม่ต่อเนื่อง จากจุดเริ่มต้นที่เคยมาพักร้อนเมืองไทยระยะสั้น ๆ เดินทางท่องเที่ยวขึ้นเหนือล่องใต้ทั่วประเทศ จนได้มาตกหลุมรักเมืองเชียงใหม่ เธอบอกว่า “ที่นี่แหละ ที่ฉันตัดสินใจมาใช้ชีวิตหลังเกษียณ”

ทีมข่าว Spotlight พูดคุยกับคุณเออร์ซูลา ฟอน เอร์ทเซน หญิงชาวเยอรมันวัย 76 ปี

เว็บไซต์ International Living จัดอันดับ 10 ประเทศที่ดีที่สุดสำหรับการเกษียณอายุประจำปี 2025 พบว่าประเทศไทยติดอันดับด้วย และมีชื่อ “เชียงใหม่” ที่ได้รับการยกย่องว่า เป็นมิตรกับคนเกษียณมากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก โดยเว็บไซต์ดังกล่าวระบุว่า เชียงใหม่เป็นเมืองเล็ก ๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางขุนเขา ปกคลุมไปด้วยหมอกทางภาคเหนือ มีอุณหภูมิที่เย็นสบาย มีวัดพุทธอันเลื่องชื่อ ชาวต่างชาติมักใฝ่ฝันมาใช้ชีวิตเรียบง่ายที่นี่ เพราะรสชาติอาหารที่เป็นเอกลักษณ์และค่าครองชีพที่ไม่แพง

Spotlight ชวนลงพื้นที่สำรวจสังคมชาวต่างชาติในเชียงใหม่ หลังจากได้ลองอาศัยอยู่ในเชียงใหม่มาแล้ว ที่นี่น่าอยู่ อาหารอร่อย อากาศดี ผู้คนเป็นมิตรและค่าครองชีพถูกจริงหรือไม่ อะไรที่ทำให้พวกเขาอยากลงหลักปักฐาน หรือมีอะไรไหมที่เชียงใหม่ต้องปรับปรุง หากอยากจับจุดหารายได้เข้าประเทศ ดึงดูดเม็ดเงินคนวัยเกษียณให้มาจับจ่ายเงินในเมืองเหนือชื่อดังของไทย

วัดผาลาด ดอยสุเทพ จ.เชียงใหม่ วัดศรีสุพรรณ วัดดังจ.เชียงใหม่ กิจกรรมทางวัฒนธรรม จ.เชียงใหม่

ผู้คนเป็นมิตร กิจกรรมแน่น

ทุกบ่ายวันพุธ หากใครไปช็อปปิงที่กาดจริงใจ หรือคอมมูนิตี้มอลล์สายโมเดิร์นแห่งใหม่ บนถนนอัษฎาธร ตำบลป่าตัน กลางเมืองเชียงใหม่ จะได้เห็นสาว ๆ กลุ่ม 30 - 40 คน เรียงแถวตั้งวงฟ้อนพื้นเมือง ในกิจกรรม “ฟ้อนม่วนตี้ จริงใจ” โดยมีแม่ครู 3 - 4 ท่าน เป็นครูฝึกรำอาสา พวกเธอช่วยกันนำฟ้อนท่าพื้นฐานให้สำหรับผู้ที่สนใจ โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย

ในขณะที่แม่ครูหลัก 1-2 ท่านจะฟ้อนนำให้ดูเป็นตัวอย่าง พร้อมอธิบายท่ารำสั้น ๆ แม่ครูอู๋ ยอดพรพิณ วิรัตน์เกษม จะคอยแปลภาษาอธิบายท่ารำไปด้วย เธอสามารถพูดได้ทั้งภาษาอังกฤษ และภาษาญี่ปุ่น เนื่องจากสาว ๆ ที่มาเรียนฟ้อนกลุ่มนี้ ครึ่งหนึ่งเป็นคนไทย แต่อีกเกือบครึ่งมีทั้งชาวเยอรมนี ชาวฝรั่งเศสชาวจีน ชาวฮ่องกง ชาวญี่ปุ่น และชาติอื่น ๆ มองเผิน ๆ คล้ายคณะรำนานาชาติก็ไม่ปาน 

แม่ครูอู๋ ยอดพรพิณ วิรัตน์เกษม ครูอาสาฯ ผู้สอนฟ้อนควบหน้าที่แปลภาษาอังกฤษ-ญี่ปุ่นล แม่ครูอู๋ ยอดพรพิณ วิรัตน์เกษม  (ชุดส้ม) และคุณนาโอมิ ทาคาฮาชิ ชาวญี่ปุ่นจากไซตามะ คุณชิเอะ มิคุริโนะ เดินทางมาจากเมืองฟุกุโอกะและคุณเออร์ซูลา วอน เอร์ทเซน ชาวเยอรมัน

วันนี้คุณเออร์ซูลา วอน เอร์ทเซน สวมชุดพื้นเมือง นุ่งซิ่น ห่มสไบ และทำผมติดออกไม้ตามแบบฉบับสาวเหนือ ณ กลุ่มรำแห่งนี้ เธอได้พบกับแม่บ้านชาวญี่ปุ่นสองคนที่ติดตามสามีมายังเมืองเชียงใหม่ โดยคุณชิเอะ มิคุริโนะ เดินทางมาจากเมืองฟุกุโอกะ เธออาศัยอยู่ในเชียงใหม่มา 2 ปีกว่าแล้ว และคุณนาโอมิ ทาคาฮาชิ ที่มาจากไซตามะ ชาวญี่ปุ่นทั้งสองคนนี้ไม่รู้จักกันมาก่อน แต่ได้มาทำความรู้จักกันจากกลุ่มเรียนฟ้อนที่กาดจริงใจ ส่วนสมาชิกน้องใหม่ล่าสุดของกลุ่ม ตกเป็นของคุณโจโจ้ โจเซฟีน ฮาวล์ สาวคาแรคเตอร์สดใสชาวฮ่องกงที่เคยเห็นแม่ครูกลุ่มนี้ฟ้อนโชว์ในวัดพระสิงห์เมื่อ 6 ปีก่อน จนวันนี้ได้สานฝันมาเรียนฟ้อนเป็นสัปดาห์ที่ 2 แล้ว

ทั้งหมดเห็นตรงกันว่า รู้สึกสนุกและมีความสุขที่ได้มาเรียนรำพื้นเมืองที่เชียงใหม่ เพราะเป็นกิจกรรมที่ทำให้พวกเธอรู้สึกอินมาก ๆ บางครั้งก็จะไปร่วมโชว์ในงานอีเวนต์ต่าง ๆ หรือแม้แต่รำถวายในศาสนาพิธีร่วมกับคนเชียงใหม่ด้วย นอกจากความสวยงามด้านวัฒนธรรมที่ผูกใจคนต่างแดนแล้ว พวกเธอยังยกให้เรื่องอาหารพื้นเมืองที่ถูกปาก และผู้คนที่ค่อนข้างเป็นมิตร คุณเออร์ซูลาหลงรักการยิ้มแย้มให้คนแปลกหน้าของคนไทย ซึ่งต่างจากคนเยอรมันที่จะไม่ยิ้มให้คนแปลกหน้าเท่าใดนัก ในขณะที่สาว ๆ ชาวญี่ปุ่นเห็นตรงกันว่า ค่อนข้างปรับตัวง่าย ด้วยพื้นฐานวัฒนธรรมเอเชียที่คล้ายคลึงกัน 

ชุดขาว คนที่ 3 จากซ้ายมือ คุณโจโจ้ โจเซฟีน ฮาวล์ ชาวฮ่องกง

ค่าครองชีพต่ำ จองที่พำนักราคาสูง

เมื่อพูดคุยกันถึงหัวข้อค่าครองชีพเมืองเชียงใหม่ ก็ต้องยอมรับว่า แหล่งข่าวของเราเสียงแตกกันเล็กน้อย สำหรับชาวยุโรปแล้ว ที่นี่ยังเป็นสวรรค์ของคนต่างชาติ ด้วยค่าเงินที่ถูกกว่าหลายเท่า ทำให้คุณเออร์ซูลาสามารถอยู่เมืองเชียงใหม่ได้อย่างสบาย ๆ อาหารกินส่วนใหญ่ก็สามารถรับประทานจากร้านค้าหรือร้านอาหารได้เกือบทุกมื้อ ด้วยเธอเป็นคนไม่ชอบทำอาหารเท่าใดนัก และชอบรสชาติอาหารไทย จึงฝากท้องไว้กับพ่อค้าแม่ค้าคนเมืองเสมอ เช่นเดียวกับคุณโจโจ้ ที่สนุกกับการรับประทานอาหารข้างนอกมากกว่า และเธอมองว่า อาหารที่นี่ราคาถูกกว่าถ้าเทียบกับค่าครองชีพในฮ่องกง

ในกรณีของสองสาวชาวญี่ปุ่น จะเน้นการทำอาหารเพื่อดูแลครอบครัวเป็นหลัก เธอแชร์ประสบการณ์ว่า  แต่ก่อนคนญี่ปุ่นก็อาจจะมองว่าไทยเป็นสวรรค์ค่าครองชีพถูก แต่ไม่ใช่กับช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมานี้ ที่ค่าเงินของญี่ปุ่นลดลงอย่างเห็นได้ชัด จนเกือบเทียบเท่ากับไทยแล้ว วัตถุดิบอาหารบางอย่างที่เคยราคาน่ารัก กลายมาเป็นของราคาแพง โดยเฉพาะเนย ครีม ชีส และสินค้านำเข้าอื่น ๆ 

Rimping Supermarket ในจ.เชียงใหม่ เป็นที่นิมในการจับจ่ายใช้สอยของชาวต่างชาติ Rimping Supermarket ในจ.เชียงใหม่ เป็นที่นิมในการจับจ่ายใช้สอยของชาวต่างชาติ Rimping Supermarket ในจ.เชียงใหม่ เป็นที่นิมในการจับจ่ายใช้สอยของชาวต่างชาติ

ส่วนสถานที่พำนักของคุณชิเอะและคุณนาโอมิ พวกเธอขออนุญาตไม่เปิดเผยตัวเลขค่าเช่าแต่ละเดือน เนื่องจากบริษัทของสามีรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ แต่เธอบอกได้คร่าว ๆ ว่า ที่ตั้งอยู่กลางเมืองและสะดวกต่อการเดินทางในเมืองเชียงใหม่ ทีมข่าว Spotlight คาดว่า อาจเป็นคอนโดมิเนียมในย่านถนนนิมมานต์เหมินทร์ซึ่งนับว่ามีราคาสูง หากเทียบกับอพาร์ตเมนต์หรือคอนโดในย่านอื่นของตัวเมืองเชียงใหม่

ในกรณีของคุณโจโจ้ โจเซฟีน เปิดเผยว่า เธอและสามีตัดสินใจซื้อคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งกลางเมืองเชียงใหม่ จึงอาจเป็นไปได้ว่าเธออาจมาใช้ชีวิตเกษียณที่นี่ในอนาคต โดยปีนี้เป็นปีแรกที่เธอจะ “อยู่ยาว” หลังจากเดินทางเทียวไปเทียวมาหลายประเทศก่อนหน้านี้ ขณะที่คุณเออร์ซูลาเช่าคอนโดใกล้ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ใจกลางเมืองเชียงใหม่ ซึ่งเช่าต่อเนื่องมาเป็นเวลาหลายปีแล้ว และเธอไม่ได้มีแผนจะเปลี่ยนที่พำนักแต่อย่างใด เนื่องจากสะดวกสบายในการเดินทางที่สุดแล้ว

เว็บไซต์ International Living ระบุว่า ชาวต่างชาติสามารถเช่าอพาร์ตเมนต์แบบหนึ่งห้องนอน แบบที่มีขนาดกว้างขวางได้ในราคาต่ำกว่า 500 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อเดือน หรือราว 1,7000 บาทต่อเดือน สะท้อนให้เห็นว่าสำหรับค่าเช่าเพื่อพำนักในระยะยาว ไม่เป็นปัญหาสำหรับชาวต่างชาติที่อยากมาเกษียณเมืองเชียงใหม่

เชียงใหม่ ไม่ได้ดีทั้งหมด

หนึ่งในประเด็นที่ทีมข่าว Spotlight ชวนชาวต่างชาติเปิดใจคือ เรื่องที่พวกเธอมองว่าทำให้ยากแก่การปรับตัวเมื่อย้ายมาอยู่เมืองไทย นั่นก็คือเรื่อง “บริการขนส่งสาธารณะ” ยังคงเป็นจุดมืดบอดของเชียงใหม่ ที่ไม่ได้เพียงแค่สร้างความลำบากให้ชาวต่างชาติ แต่คนท้องถิ่นหรือนักท่องเที่ยวคนไทยเองก็ยังรู้สึกถึงความไม่สะดวกเช่นกัน 

คุณเออร์ซูลามาจากเยอรมนี ในแถบที่รถไฟ รสบัส และขนส่งสาธารณะ เชื่อมโยงเป็นรากฝอยเข้าถึงทุกจุดที่ผู้คนอยากเดินทางไปถึง เช่นเดียวกันกับหลายเมืองของยุโรป ฮ่องกง ญี่ปุ่น ล้วนมีระบบขนส่งสาธารณะที่สะดวกกว่าเมืองเชียงใหม่หลายเท่า สิ่งที่พวกเธอแก้ปัญหาได้คือ การจ่ายเพิ่มเพื่อจะใช้รถแท็กซี่ผ่านแอปพลิเคชัน เพื่อหลีกเลี่ยงการโดนชาร์จเพิ่มเติมที่ควบคุมไม่ได้ เมื่อคนขับเห็นว่าเป็นต่างชาติ ส่วนเรื่องที่ต้องปรับตัวนอกเหนือจากนั้นอาจเป็นเรื่องความต่างทางวัฒนธรรมเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น ความตรงต่อวลาของคนไทยที่มีความยืดหยุ่นสูง หรือการถามคำถามแนวใส่ใจ เช่น คนแปลกหน้าที่มาถามอายุ ถามรายได้ ซึ่งชาวต่างชาติไม่คุ้นเคยนัก แต่ก็มองว่าน่ารักและปรับตัวกับสังคมที่นี่ได้

 อาการ “Chiangmai sick” คิดถึงเชียงใหม่เมื่อจากไปนาน

โดยรวมแล้ว แหล่งข่าวต่างชาติของเรามีความรู้สึกเชิงบวกจึงเลือกที่จะมาเกษียณ ณ ที่แห่งนี้ คุณเออร์ซูลาเดินทางกลับไปเยี่ยมครอบครัวและเพื่อน ๆ ที่บ้านเกิดเป็นระยะเวลาสั้น ๆ บ้าง แต่ทุกครั้งที่ไปก็ยอมรับว่าเกิดอาการ “เชียงใหม่ซิก” หรือคิดถึงเชียงใหม่เช่นเดียวกับคิดถึงบ้าน สำหรับชาวเยอรมันคนนี้ เธอผูกพันกับสังคมคนไทย จนแทบไม่มีเพื่อนชาวยุโรปในเมืองนี้แล้ว เพราะปีแรก ๆ ยังมีชาวยุโรปในกลุ่มออนไลน์ที่เคยทำความรู้จักกันบ้าง แต่พวกเขาล้วนเดินทางกลับบ้านหมดแล้ว เธอจึงมีแม่ครูและสาว ๆ ในกลุ่มฟ้อนเป็นเพื่อนทำกิจกรรมและให้ความช่วยเหลือต่าง ๆ 

คุณโจเซฟีนเองก็ไม่เคยเจอคนฮ่องกงในเชียงใหม่เลยสักคน อาจมีเพื่อนต่างชาติแถบตะวันตกบ้าง แต่เธอก็เลือกที่จะคบหากับคนไทยเป็นหลัก ขณะที่คุณชิเอะ พูดภาษาไทยเริ่มคล่องแคล่วและฟังจับใจความได้เป็นอย่างดี เพราะเธอลงเรียนคอร์สภาษาไทยของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ด้วย และยังเชื่อมสัมพันธ์กับชาวญี่ปุ่นในเชียงใหม่ ซึ่งเธอเล่าว่า ในงานสมาคมคนญี่ปุ่นที่จัดขึ้นทุกปี มีชาวญี่ปุ่นมาร่วมงานไม่ต่ำกว่า 300 คน สะท้อนให้เห็นว่าชาวญี่ปุ่นเปิดใจให้เชียงใหม่ไม่น้อยเลย แต่เมืองแห่งนี้จะปรับตัวขึ้นมาเป็นศูนย์รวมคนเกษียณของคนทั่วโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่ และจะตั้งการ์ดป้องกันการไหลทะลักของชาวต่างชาติได้อย่างเหมาะสมไหม เป็นประเด็นที่คนไทยต้องคอยจับตาต่อไป

แชร์
เชียงใหม่ สวรรค์เมืองเกษียณ ถูก ดี เป็นมิตร ต่างชาติไม่คิดกลับบ้านเกิด