รัฐบาลทหารเมียนมาประกาศภาวะฉุกเฉินใน 6 ภูมิภาคทั่วประเทศ หลังเกิดแผ่นดินไหวขนาด 7.7 แมกนิจูดเมื่อวันศุกร์ที่ 28 มีนาคม 68 พร้อมร้องขอความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมจากนานาชาติ ซึ่งเป็นการขอร้องความช่วยเหลือต่างชาติจากรัฐบาลทหารเมียนมาที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก
ผู้สื่อข่าวจากสำนักข่าว AFP รายงานว่า พลเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้นำรัฐบาลทหาร เดินทางไปยังโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในกรุงเนปิดอว์ เพื่อตรวจเยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว ซึ่งโรงพยาบาลแห่งดังกล่าวก็ได้รับความเสียหาย เจ้าหน้าที่ต้องขนย้ายอุปกรณ์และนำผู้ป่วยออกรักษาและทำแผลที่กลางแจ้ง
ทีมผู้สื่อข่าว AFP ซึ่งอยู่ที่พิพิธภัณฑ์แห่งชาติในกรุงเนปิดอว์ขณะเกิดเหตุการณ์ เล่าว่า เศษซากจากเพดานร่วงลงมาขณะที่อาคารเริ่มสั่นไหว เจ้าหน้าที่ในเครื่องแบบต่างพากันวิ่งออกไปด้านนอก หลายคนมีอาการตัวสั่นและน้ำตาคลอด้วยความตกใจ ขณะที่บางคนรีบหยิบโทรศัพท์มือถือเพื่อโทรหาคนในครอบครัว
ทีมข่าวยังระบุอีกว่า ถนนหลายสายใกล้บริเวณดังกล่าวเกิดรอยร้าวและแตกเป็นช่วงๆ แรงสั่นสะเทือนทำให้เส้นทางไปยังหนึ่งในโรงพยาบาลที่ใหญ่ที่สุดของเมืองเต็มไปด้วยการจราจรที่ติดขัด เจ้าหน้าที่ระบุว่าโรงพยาบาลดังกล่าวกลายเป็นพื้นที่รองรับผู้บาดเจ็บจำนวนมาก โดยโรงพยาบาลแห่งดังกล่าวขนาด 1,000 เตียง แต่เจ้าหน้าที่ต้องนำผู้บาดเจ็บออกมารักษากลางแจ้งและริมถนน
คาดว่า พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบรุนแรงจากแผ่นดินไหวที่สุดก็คือเมืองมัณฑะเลย์ ซึ่งอยู่ใกล้ศูนย์กลางของแผ่นดินไหวที่สุด โดยสำนักข่าว Khit Thit Media รายงานว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 20 รายจากเหตุอาคารพังถล่มในมัณฑะเลย์ อย่างไรก็ตาม ยังไม่สามารถยืนยันตัวเลขดังกล่าวได้อย่างเป็นทางการ
ขณะที่เดอะการ์เดียนรายงานว่า มีอาคารก่อสร้างถล่มในเมืองมัณฑะเลย์ และทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 8 ราย โดยผู้อยู่ในเหตุการณ์ให้สัมภาษณ์กับเดอะการ์เดียนว่า ทั้งเมืองมัณฑะเลย์ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว ทีมกู้ภัยและโรงพยาบาลกำลังเผชิญกับภาระหนัก และต้องพยายามรับมือด้วยทรัพยากรที่มีในชุมชน
ขณะนี้ยังไม่สามารถประเมินขอบเขตความเสียหายทั้งหมดได้ แต่ภาพที่เผยแพร่บนโซเชียลมีเดียจากพื้นที่ภาคกลางของประเทศ แสดงให้เห็นอาคารหลายแห่งได้รับความเสียหายหรือพังถล่ม
มีรายงานว่าภายในสนามบินมัณฑะเลย์ ผู้คนต่างพากันวิ่งหาที่ปลอดภัยผ่านโถงทางเดินที่เต็มไปด้วยฝุ่นและแผ่นฝ้าเพดานที่ร่วงลงมา วิดีโอจากสื่อท้องถิ่นเผยให้เห็นประชาชนที่ตื่นตระหนกนั่งหลบภัยอยู่ภายนอกสนามบิน
นอกจากนี้ สะพานอังวะ หรือสะพานสะกายเก่า ซึ่งสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยอาณานิคมอังกฤษและเชื่อมระหว่างภูมิภาคมัณฑะเลย์กับสะกาย ก็ได้รับความเสียหายอย่างหนักถึงขั้นพังถล่มลงมาด้วย อีกทั้ง ยังมีรายงานพระราชวังเก่าในมัณฑะเลย์ก็ได้รับความเสียหายด้วย
ทั้งนี้ เมืองมัณฑะเลย์ถือเป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรมและศาสนาของเมียนมา มีประชากรราวหนึ่งล้านคน เป็นที่ตั้งของวัดพุทธหลายแห่ง รวมถึงพระราชวังเก่าอันกว้างขวางที่เคยเป็นที่ประทับของกษัตริย์ในอดีต