สำนักข่าวยอนฮัพแห่งเกาหลีใต้ รายงานว่า คิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือได้ประกาศให้เกาหลีใต้เป็น “รัฐศัตรู” อย่างเป็นทางการ พร้อมขู่ว่า หากเกาหลีใต้ละเมิดอธิปไตยของประเทศเมื่อใด เกาหลีเหนือก็พร้อมเดินกำลังทางทหารอย่างแน่นอน
ผู้นำคิม จองอึน กล่าวว่า “กองทัพของเกาหลีเหนือควรตระหนักถึงข้อเท็จจริงที่ว่า เกาหลีใต้เป็นเพียงประเทศอื่นและเป็นประเทศศัตรูอย่างเห็นได้ชัด และนี่เป็นการประกาศเตือนครั้งสุดท้าย หากเมื่อใดที่อำนาจอธิปไตยของเกาหลีเหนือถูกละเมิดโดยรัฐศัตรู กองทัพเกาหลีเหนือก็พร้อมเดินหน้าใช้กำลังทางทหารอย่างไม่ลังเลและไม่มีเงื่อนไขใด ๆ ทั้งสิ้น”
การประกาศดังกล่าวเกิดขึ้นระหว่างการตรวจเยี่ยมสำนักงานใหญ่ของกองทัพประชาชนเกาหลีที่ 2 เมื่อวานนี้ (17 ตุลาคม 67) โดยสำนักข่าว KRT ของรัฐบาลเกาหลีเหนือได้เผยแพร่ภาพของผู้นำคิม จองอึน กำลังจ้องมองและชี้ไปยังแผนที่ทางทหารขนาดใหญ่ แม้ภาพถ่ายปรากฏแผนที่ไม่ชัดนัก แต่มีป้ายตัวหนังสือระบุว่าเป็นแผนที่ของ “กรุงโซล” เมืองหลวงของเกาหลีใต้อยู่ด้วย รวมถึงจอภาพด้านหลังขนาดใหญ่ ปรากฏให้เห็นแผนที่คาบสมุทรเกาหลี พร้อมกับเส้นแบ่งเขตแดนสีน้ำเงินขนาดใหญ่ระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้
นอกจากนี้ ผู้นำคิม จองอึน ยังกล่าวถึงความสำคัญของการส่งเสริมความสามารถในการสู้รบและปกป้องความมั่นคงของประเทศ ผ่านการเตรียมความพร้อมทางทหาร และการป้องปรามนิวเคลียร์ โดยระบุว่า “การเปลี่ยนแปลงท่าทีของสาธารณรัฐเกาหลีและสหพันธมิตร (the ROK-U.S. alliance) และการซ้อมรบทางทหารของรัฐศัตรูที่ได้รับการพัฒนามากขึ้น ส่งผลอย่างรุนแรงต่อความมั่นคงของเกาหลีเหนือ ยิ่งตอกย้ำให้เกาหลีเหนือต้องเสริมความแข็งแกร่งด้านการป้องปรามนิวเคลียร์”
การประกาศอย่างดุเดือดเกิดขึ้นเพียงไม่กี่วัน หลังจากสมัชชาประชาชนสูงสุดแห่งเกาหลีเหนือแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อกำหนดให้เกาหลีใต้เป็น "รัฐศัตรู" อย่างเป็นทางการ ซึ่งสอดคล้องกับคำปฏิญาณของคิม จองอึนที่จะนำนโยบายการรวมสองเกาหลีเข้าด้วยกัน ออกจากนโยบายแห่งชาติที่กำหนดไว้ก่อนหน้านี้
เมื่อวันที่ 15 ตุลาคมที่ผ่านมา รัฐบาลเกาหลีเหนือระเบิดถนนและทางรถไฟเชื่อมพรมแดนกับเกาหลีใต้ ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์การปรองดองระหว่างสองเกาหลี โดยผู้นำเกาหลีเหนือได้ตอกย้ำว่าการปิดกั้นถนนและทางรถไฟในครั้งนี้ ไม่ได้เป็นการปิดใช้งานทั่วไปเท่านั้น แต่ยังถือเป็นการยุติความสัมพันธ์อันชั่วร้ายกับรัฐบาลเกาหลีใต้ ซึ่งแนวคิดการรวมสองเกาหลีให้เป็นหนึ่งเดียวก็ไม่สมเหตุสมผลเอาเสียเลย
ที่มา YONHAP