"กลุ่มผู้ปกครอง" ขู่คว่ำบาตรศูนย์เด็กหากไม่เปลี่ยนครูยกชุด ตะลึงเปิดเทอมไม่ถึงเดือนเด็กหลุดออกหลายครั้ง

"กลุ่มผู้ปกครอง" ขู่คว่ำบาตรศูนย์เด็กหากไม่เปลี่ยนครูยกชุดและเพิ่มระบบรักษาความปลอดภัย ตะลึงเปิดเทอมไม่ถึงเดือนเด็กหลุดออกหลายครั้ง

จากกรณีเกิดเหตุเด็กหญิงวัย 3 ขวบ ทราบชื่อคือเด็กหญิงอลิส(นามสมมุติ)จมน้ำเสียชีวิตในสระน้ำกลางทุ่งนาห่างจากศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านค้อตำบลคอนกาม อำเภอยางชุมน้อย จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งทางครอบครัวของน้องอลิสติดใจสาเหตุของการเสียชีวิตและเชื่อว่าเป็นการฆาตกรรมอำพราง โดยล่าสุดทางแพทย์ชันสูตรโรงพยาบาลศรีสะเกษได้ให้ผลการชันสูตรว่าน้องอลิสจมน้ำเสียชีวิตหลัง จากนั้นทางครอบครัวของน้องอลิสได้นำร่างส่งต่อที่สถาบันนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจเพื่อทำการชันสูตรอีกครั้ง ซึ่งขณะนี้ร่างของน้องอลิสอยู่ระหว่างประกอบพิธีทางศาสนาอยู่ที่บ้านตามที่มีการเสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดวันนี้ 21 มิ.ย. 67 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพูดคุยกับนางรจนา อายุ 50 ปี ซึ่งเป็นย่าของน้องออนิวอายุ 2 ปี 1 เดือน เพื่อนร่วมห้องของน้องอลิสซึ่งอยู่ที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านค้อ ภายใต้การดูแลขององค์การบริหารส่วนตำบลคอนกาม เปิดเผยเมื่อวันที่ 16 พ.ค. 67 ที่ผ่านมา เป็นวันเปิดเรียนวันแรกตนได้รับแจ้งจากคุณตาภายในหมู่บ้านว่า เห็นน้องออนิวออกมาจากศูนย์พัฒนาเด็กเล็กและบ่นกับตาว่าหิวน้ำ ตาจึงพาไปดื่มน้ำและพาไปส่งครูที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก

ซึ่งในตอนนั้นตนยังไม่เอะใจอะไรแต่หลังจากทราบจากชาวบ้านซึ่งเป็นคนงานทำหอระฆังภายในวัดว่า วันนั้น(16 พ.ค. 67)น้องออนิวได้ออกมาจากศูนย์พัฒนาเด็กเล็กรวมกันทั้งหมด 3 ครั้ง ภายในวันเดียว และครั้งสุดท้ายตนเห็นด้วยตาตัวเองว่าน้องออนิวออกมาจากศูนย์พัฒนาเด็กเล็กจนเกือบถึงถนนใหญ่ ซึ่งหมายถึงออกมาถึงปากประตูบริเวณวัด หลังจากเห็นเหตุการณ์เช่นนั้นตนจึงเข้าไปอุ้มหลานของตนเพื่อให้หลับและแจ้งให้ทางครูดูแลเด็กมารับ แต่ปรากฏว่าครูให้คำตอบว่ากำลังทานข้าวอยู่เสร็จแล้วเดี๋ยวจะมารับซึ่งจากเหตุการณ์ในครั้งแรกทำให้ตนถอดใจถึงขนาดที่จะไม่ให้น้องออนิวไปเรียนที่นั่นต่ออีก

นางรจนา กล่าวต่อไปว่า จากนั้นเมื่อวันที่ 12 มิ.ย. 67 ที่ผ่านมา หลังจากตนทำภารกิจภายในหมู่บ้านเสร็จเลยแวะไปดูน้องออนิวว่าเป็นเช่นไร ขณะที่ตนเดินทางเข้าไปภายในวัดปรากฏเห็นน้องออนิวกำลังสะพายกระเป๋าเดินออกจากศูนย์พัฒนาเด็กเล็กออกมาจนเกือบถึงตรงพระใหญ่ ซึ่งตนก็ตกใจเป็นอย่างมากว่าทำไมถึงปล่อยให้หลานของตนออกมาจากศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ่อยเช่นนี้ แต่ในขณะนั้นประจวบเหมาะที่ครูน้อยได้มาอุ้มเอาน้องออนิวกลับเข้าไปก่อน

ซึ่งหลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นด้วยความโมโห ตนจึงแชตลงกลุ่มไลน์ผู้ปกครองว่า ทำไมถึงปล่อยให้หลานของตนออกข้างนอกศูนย์เด็กบ่อยเช่นนี้ ถ้าหลานของตนเป็นอะไรจะรับผิดชอบอย่างไร และจากการแชทลงกลุ่มดังกล่าวครูน้อยได้ตอบกลับมาว่า เห็นน้องเดินออกไปอยู่แต่อยากรู้ว่าน้องจะเดินไปไกลแค่ไหน

น้องออนิวสนิทกับน้องอลิสมากเล่นด้วยกันเป็นประจำ แต่โดยนิสัยที่ดื้อของน้องออนิวแม้จะอยู่บ้านตนก็ต้องระวังเพราะน้องชอบเดินไปเรื่อยๆ ตนก็ต้องตามเฝ้าดูไม่ให้ห่างสายตา ซึ่งจากเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นตนมองว่าครูนั้นปล่อยปะละเลยไม่มีความปลอดภัยไม่ว่าจะเป็นทั้งสิ่งแวดล้อมรั้วกั้นกล้องวงจรปิดไม่มีระบบป้องกันให้เด็กปลอดภัย และครูก็ทราบว่าไม่มีระบบความปลอดภัยภายในศูนย์เด็ก แต่กลับไม่เอาใจใส่เด็ก

ซึ่งตอนนี้ตนกับผู้ปกครองคนอื่นๆได้พูดคุยกันแล้วว่าจะไม่เอาลูกหลานไปเรียนที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กแห่งนี้อีก ถ้าไม่มีระบบดูแลรักษาความปลอดภัยที่ดีกว่านี้และเปลี่ยนครูดูแลเด็กชุดปัจจุบันออก และหากไม่ทำตามคำขอของกลุ่มผู้ปกครองเรียกร้องก็ขอให้ปิดศูนย์เด็กถาวรเพราะคงไม่มีคนไปเรียนอยู่แล้ว นางรจนา กล่าว