ศึกแย่งมรดก 100 ล้าน พ่อป่วย ถูกป้าซึ่งเป็นพี่สาวแท้ๆบุกลักพาตัวไปขังไว้

ศึกแย่งมรดก 100 ล้าน เมียพร้อมลูกๆร้องพ่อป่วย ถูกป้าซึ่งเป็นพี่สาวแท้ๆ บุกลักพาตัวไปไปขังไว้ ตอนนี้ไม่รู้ชะตากรรมเป็นตายร้ายดี

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 9 กรกฎาคม ที่ศูนย์ประสานงานเพจสายไหมต้องรอด ซ.สายไหม 28 นางสุนีย์ ตันบุญเฮง มาร้องขอความช่วยเหลือ กับ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด หลังสามีของเธอถูก "ป้าหยก"พี่สาวของสามีเข้ามาลักพาตัวสามีออกจากบ้านย่านจรัญสนิทวงศ์ไปยังบ้านของป้าหยก ย่านอำเภอเมืองจังหวัดสมุทรปราการ

นางสุนีย์ เล่าว่า ครอบครัวของสามีมีทั้งหมด 8 คนโดยปัจจุบันเสียชีวิตไปแล้ว 3 คน เหลือคนที่มีชีวิตอยู่ทั้งหมด 5 คน โดยสามีของตนเป็นคนสุดท้อง ส่วน ป้าหยก คู่กรณีเป็นพี่สาวคนรอง หลังจากพี่สาวคนโตของสามีได้เสียชีวิตไปและให้สามีเธอที่เป็นน้องชายคนสุดท้องเป็นผู้จัดการมรดกที่เหลือ ซึ่งเหลือพี่น้องอีก 5 คน

โดยมรดกที่จัดการจะมีที่ดินที่พี่น้องร่วมกันสร้างมามูลค่าประมาณ 100 ล้าน ซึ่งหลัง ป้าหยก ทราบข่าวว่าพี่สาวคนโตเสียชีวิตและให้น้องชายเป็นผู้จัดการมรดก ป้าหยกก็พยายามเข้ามาหาน้องชายที่เป็นสามีของนางสุนีย์ตลอด เข้ามาพยายามพูดจาหว่านล้อมให้สามีเธอยกมรดกส่วนของสามีให้กับป้าหยก และพูดทำให้ครอบครัวของเธอทะเลาะเบาะแว้งกัน บางครั้งก็เข้ามาอาละวาดภายในบ้าน และกล่าวหาว่าเธอไปทำร้ายป้าหยก มีการไปแจ้งความฟ้องร้องกัน ร่วมถึงไปแจ้งความว่าน้องชายเป็นบุคคลที่ไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นผู้จัดการมรดก เนื่องจากตลอดเวลาที่ป้าหยกเข้ามาที่บ้านก็พูดจนสามีของตนเครียดเส้นเลือดในสมองเกือบแตก 

และเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน ที่ผ่านมา ตนต้องไปขึ้นศาลคดีที่ถูกฟ้องว่าไปทำร้ายร่างกายป้าหยก ทำให้บ้านวันนั้นไม่มีคนอยู่ แต่เมื่อเธอกลับมาบ้านก็ไม่พบสามี จึงไปสอบถามเพื่อนข้างบ้านก็บอกว่า ป้าหยกได้จ้างรถแท็กซี่มาพาตัวสามีเธอไปจากบ้าน เธอจึงตามไปหาที่บ้านย่านสมุทรปราการ แต่ก็ไม่ได้พบ เธอจึงไปแจ้งความแต่ตำรวจก็บอกว่าเป็นเรื่องของครอบครัวให้ลองไปคุยกันก่อน

จนกระทั่งวันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา เป็นวันที่สามีและป้าหยกต้องไปขึ้นศาลในคดีฟ้องร้องเรื่องมรดก แต่ก็ไม่มีใครไปที่ศาล เธอจึงมาที่บ้านก็พบหญิงสูงวัยคนหนึ่ง เมื่อเจอหน้าเธอก็รีบปิดประตูบ้านและอ้างว่าเธอเป็นเพียงลูกจ้างมาดูแลสามีเธอ และเมื่อขอเข้าไปหาสามี เพราะเธอเป็นห่วง เนื่องจากตอนที่ป้าหยกพาตัวมาไม่ได้เอายาประจำตัวมาด้วย เธอก็กังวลว่าสามีเธอจะอยู่อย่างไร กินนอนอย่างไร โทรศัพท์ก็ไม่ได้เอามา

และเมื่อถามว่าป้าหยกได้ทำพฤติกรรมแบบนี้กับพี่น้องคนอื่นด้วยหรือไม่ นางสุนีย์ก็บอกว่า ป้าหยกเข้าไปทำพฤติกรรมแบบนี่กับน้องชายอีกคน จนล้มป่วยเหมือนกัน แต่ครอบครัวของพี่ชายคนนั้นโตกันหมดแล้วป้าหยกจึงเข้าไปยุ่งมากไม่ได้ แต่ครอบครัวของเธอยังมีลูกที่ไม่ได้โตมากจึงทำให้ป้าหยกเข้ามาวุ่นวายได้ง่ายกว่า

นางสุนีย์ บอกว่าเธอเป็นห่วงสามีเธอมากเพราะตั้งแต่วันที่ 28 มิถุนายน เธอก็ยังไม่พบสามีเลย

ด้านนายเอกภพ เหลืองประเสริฐเปิดเผยว่า ได้รับเรื่องนี้ร้องเรียนมาจากทางนักข่าว จึงได้ติดต่อประสานไปยังผู้เสียหายจนทราบว่าเกิดเรื่องดังกล่าวขึ้น โดยมองว่าสน.บางขุนนนท์ซึ่งเป็นสน.ในพื้นที่ควรรับผิดชอบ ซึ่งเรื่องนี้ไม่ได้มีเหตุการณ์อะไรซับซ้อน ถ้าหากทางสน.บางขุนนนท์ ออกหมายค้นไปยังบ้านหลังดังกล่าวและนำตัวสามีของผู้เสียหายออกมาเรื่องดังกล่าวก็จบ.