เขื่อนเจ้าพระยาจ่อระบายน้ำเพิ่ม เตือนพื้นที่ลุ่มต่ำ นอกคันกั้นน้ำเฝ้าระวัง และรอประกาศอย่างใกล้ชิด แต่มั่นใจไม่หนักเท่าปี 54
วันที่ 12 กันยายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำที่เขื่อนเเจ้าพระยากุญแจสำคัญในการบริหารจัดการน้ำลงสู่ลุ่มภาคกลางล่าสุดจะมีการระบายน้ำลงท้ายเขื่อนเพื่อลดผลกระทบพื้นที่ลุ่มต่ำท้นอกคันกั้นน้ำ
หลังจากปริมาณน้ำเหนือลดลงอย่างต่อเนื่องโดยที่จุดวัดน้ำC2หน้าค่ายจิรประวัติจ.นครสวรรค์ ล่าสุดเวลา (09.00น.) วัดได้1,287บ.ม./วิ(ลูกบาศเมตรต่อวินาที) โดยระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาลดระดับลง 1 ม.ในรอบ 24 ชม. ล่าสุดวัดได้13.92ม.รทก.(เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง) ขณะที่เขื่อนเจ้าพระยาได้คงอัตราการระบายไว้ที่1,399ลบ.ม./วิเป็นวันที่2
ทั้งนี้จากการระบายน้ำในเกณฑ์1,399ม./วินาทีของเขื่อนเจ้าพระยาจะส่งผลดีกับพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำริมคลองโผงเผง จ.อ่างทอง คลองบางบาลบ้านบางหลวงโดด ต.บางบาล ต.หัวเวียง อ.เสนา ต.ลาดชิด ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา ที่ระดับน้ำจะเริ่มลดลง 10-15 ซม. ใน 24 ชม.ข้างหน้า แต่กรมชลประทานมีแผนที่จะปรับเพิ่มแบบขั้นบันไดขึ้นไปที่เกณฑ์1,500-1,700ลบ.ม.ในสัปดาห์นี้ เพื่อบริหารจัดการมวลน้ำเหนือที่เกิดจากอิทธิพลของพายุยางิ
ดังนั้นประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำจึงควรเฝ้าระวังการเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำและติดตามประกาศทางราชการอย่างใกล้ชิดต่อไป
ขณะเดียวกันชาวบ้านในพื้นม.4 ต.ตะหลุก อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ที่ทราบว่าเขื่อนเจ้าพระยาจะเพิ่มการรระบายน้ำ เปิดเผยว่าถ้าปรับขึ้นไปในเกณฑ์ไม่เกิน1,700ลบ.ม./ว ยังไม่ค่อยกังวลมากนักเพราะระดับน้ำยังต่ำกว่าตลิ่งอยู่กว่า 3 ม.แต่ถ้าในอนาคตจะมีการระบายน้ำมากกว่า 2,000 ลบ.ม.ซึ่งแถบนี้จะถูกเอ่อท่วมชาวบ้านก็เตรียมความพร้อมไว้แล้ว ทั้งเรือและเสบียงอาหารเพราะเกือบทุกบ้านจะมีเรือของตัวเอง และมั่นใจว่าปีนี้ก็จะต้องท่วมอีก แต่จะไม่รุนแรงเหมือน ปี 2554 อย่างแน่นอน
