“จิราพร”จ่อหารือตำรวจ เพิกถอนใบอนุญาตขายตรงดิไอคอน

21 ต.ค. 67

“จิราพร”ตั้งคกก. สะสาง เทวดาสคบ. เชื่อมโยงใคร จ่อหารือตำรวจเพิกถอนใบอนุญาตขายตรงดิไอคอน

เมื่อเวลา 09.54 น. วันที่ 21 ต.ค.2567 น.ส.จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงข้อเรียกร้องให้ตั้งคนนอกเข้ามาร่วมในคณะกรรมการสอบกรณีบริษัทดิไอคอนว่า การตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับคลิปเสียง องค์ประกอบเป็นการตั้งคนนอก ที่ไม่เกี่ยวกับสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค(สคบ.) โดยสิ้นเชิง

โดยมี นายชาติพงษ์ จีระพันธุ์ อัยการอาวุโส เป็นประธานกรรมการ เป็นผู้ที่มีความน่าเชื่อถือในการตรวจสอบ มีความซื่อตรงในการทำงาน และมีความอาวุโสด้วย นอกจากนี้ยังมีหน่วยงานดีเอสไอ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี พยายามนำคนที่ไม่เกี่ยวข้องกับ สคบ. มาเป็นกรรมการ

เมื่อถามว่าจะสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนในการตรวจสอบได้อย่างไร น.ส.จิราพร กล่าวว่า ต้องแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกคือการสะสางใน สคบ. เพื่อให้เกิดความกระจ่าง และข้อเท็จจริง และทำให้ สคบ. กลับมาได้รับความน่าเชื่อถือ เป็นองค์กรที่มีภาพลักษณ์ที่ดีขึ้น จึงตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสะสาง ดูข้อเท็จจริง และดูว่าจะนำไปสู่การแก้ปัญหาอย่างไรบ้าง เรื่องนี้นายชาติพงษ์ ตั้งคณะอนุกรรมการมา 2 คณะ เพื่อหาข้อเท็จจริงในกรณีที่เกิดขึ้น โดยจะนำทั้งพยานบุคคล พยานเอกสารพยานวัตถุ มาเชื่อมโยงหาที่มาที่ไป

อีกคณะหนึ่ง เป็นคณะที่จะนำข้อกฎหมายที่อยู่ในกำกับดูแลของ สคบ. มาดูว่าจะต้องปรับปรุงอย่างไร และ จะต้องทำงานร่วมกับหน่วยงานไหนบ้าง เพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะทำให้ได้ทั้งข้อเท็จจริง และข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย

แต่ในส่วนการอำนวยความยุติธรรมให้ประชาชน และทุกฝ่าย สำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นเจ้าภาพหลักในตอนนี้ ก็เห็นว่าตำรวจทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และรวดเร็ว โดยมีการทำงานบูรณาการร่วมกันกับ ปปง. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขณะที่ สคบ. ก็ส่งคนเข้าไปช่วยสอบสวนด้วย นอกจากนี้ยังมี อย. และสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เข้าไปให้ข้อมูลเรื่องกฎหมายแชร์ลูกโซ่ ซึ่งการสืบสวนมีการสืบแยกกัน แต่ก็มีความเชื่อมโยงกัน

เมื่อถามถึงความคืบหน้าของการทำงานของคณะกรรมการชุดนี้ น.ส.จิราพร กล่าวว่า ตอนนี้นายชาติพงษ์ ได้ให้อนุกรรมการทั้ง 2 คณะ หลังจากนี้ 1 สัปดาห์ คณะอนุกรรมการจะกลับรายงานกรรมการชุดใหญ่ เพื่อรายงานความคืบหน้า และดูว่าประเด็นที่สอบสวนมา จะเชื่อมโยงไปที่ใคร และจะดูว่าต้องเชิญบุคคล หรือหน่วยงานไหนเข้ามาให้ข้อมูลบ้าง เพราะต้องใช้ความรัดกุม และใช้ความเชี่ยวชาญในการสอบสวน

เบื้องต้นได้วางกรอบการทำงานของคณะกรรมการชุดใหญ่ไว้ 30 วัน ตอนนี้ทุกอย่างยังอยู่ในกรอบ คาดว่าจะไม่เกินนี้ แต่ถ้าปรากฏข้อเท็จจริงเพิ่มเติม จำเป็นต้องขยายเวลาก็ทำได้

เมื่อถามถึงเส้นทางเงิน สคบ. ได้มีการตรวจสอบด้วยหรือไม่ น.ส.จิราพร กล่าวว่า เส้นทางการเงินหน่วยงานที่ตรวจสอบหลักที่ดูแลอยู่คือ ปปง. ส่วน สคบ. ก่อนหน้านี้ก็ได้รับเรื่องจากประชาชน ซึ่งก่อนหน้านี้มีการเชิญผู้เสียหาย และบริษัทดิไอคอน เข้าให้ข้อมูล แต่การสืบสวนยังไม่เสร็จ เพราะมีการจับกุมก่อน ดังนั้น สคบ. จึงร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เข้าไปร่วมสอบสวน เพราะเราจะเชี่ยวชาญในกฎหมายที่เราถืออยู่ จากนั้น ข้อมูลทั้งหมดก็จะถูกส่งต่อไปที่ ปปง. เพื่อใช้ตรวจสอบเส้นทางการเงิน

ผู้สื่อข่าวถามถึงการถอนใบอนุญาตตลาดขายตรง ของบริษัทดิไอคอน ที่สอบถามกฤษฎีกาก่อนหน้านี้ ได้ให้ความเห็นมาแล้วหรือยัง น.ส.จิราพร กล่าวว่า เป็นการหารือกันภายใน ตอนนี้อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลหลักฐาน แต่เนื่องจากมีการจับกุมไปแล้ว จึงต้องร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติในการสอบสวนข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อประกอบว่าจะมีการเพิกถอนใบอนุญาตหรือไม่

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส