จูบปาก อัจฉริยะ - ทนายตั้มหย่าศึก จับมือแฉวงการข้าราชการทุจริต

จูบปาก อัจฉริยะ - ทนายตั้มหย่าศึก จับมือกันเดินหน้าทำงานเพื่อสังคม จ่อแฉวงแชร์ลูกโซ่ใหญ่ มีดาราดัง-นักการเมืองเป็นเจ้าของ

วันที่ 23 ต.ค.67 ที่ สำนักงาน Sittra Law Firm  นาย ษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ได้แถลงข่าวกับสื่อมวลชน

โดยทนายตั้ม ระบุว่า วันนี้ แอดมินโบว์ศรี หนึ่งในแอดมินจากเพจออยศรีและผองเผือก ได้เข้ามาขอโทษขอขมาตนและครอบครัว ในส่วนของตนนั้น รู้จักออยศรี เจ้าของเพจออยศรีและผองเผือกตั้งแต่ทำคดีหวย 30 ล้าน บอกว่าเป็นแฟนคลับ เข้ามาคุยมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับครูปรีชาในตอนนั้น จากนั้นเขาก็ไปรวบรวมกลุ่มอีก 2 คนก็คือโบว์และปลา พอรวบรวมกลุ่มมาได้ก็ไปสร้างเพจมา 2 อันก็คือเพจเผือกเรนเจอร์ และเพจออยสีและผองเผือก ที่ผ่านมามีการทำงานด้วยกัน โดยอ้างว่าจะหาซัพพอร์ตข้อมูลตน

พักหลังๆตนรู้สึกว่าเขาล้ำเส้นมากเกินไป เช่นมีการบุกไปหาแม่ตนกลางดึก พยายามสอบถามข้อมูลส่วนตัวตน มีการมาสั่งตนว่าห้ามคบกับคนนั้นคนนี้ ตอนนั้นก็รู้สึกว่าทำไมต้องบังคับตนทำนั่นทำนี่ ห้ามตนคบคนนั้นคนนี้ ตนก็เลยถือโอกาสถอยห่างแล้วก็เลิกยุ่งกันโดยไม่ได้ทะเลาะกัน ก็ต่างคนต่างอยู่ และเพิ่งมารู้ที่หลังว่าเขาเอาเพจที่เคยสนับสนุนตนมาด่าตนตลอด รวมถึงโจมตีครอบครัวตน เอารูปลูกชายตนไปแขวนในโซเชียล จนทัวร์ลงทำให้ลูกชายไม่ได้ไปเรียนต่อที่ฝรั่งเศส ทั้งๆที่ตอนนั้นลูกความเป็นคนสนับสนุนค่าใช้จ่าย แต่ถูกเพจดังกล่าวเอาข้อมูลไปแขวนจับผิดว่าตนร่ำรวยผิดปกติ รวมถึงกล่าวหาว่าตนมีส่วนทำให้แม่ตัวเองเสียชีวิต อ้างว่าแม่ตรอมใจที่ตนและออยศรีเลิกยุ่งเกี่ยวกัน จึงมีการฟ้องร้องกันเกิดขึ้น 

ด้านแอดมินโบว์ศรี ระบุว่าวันนี้เข้ามาขอโทษและขอขมาทนายตั้มและครอบครัว ยืนยันว่าทางคดีก็ดำเนินการต่อสู้กันไปปกติ แต่ที่มาวันนี้เพราะรู้สึกผิด ที่ผ่านมามันเกิดการสื่อสารที่ไม่ตรงกัน พอไปถึงศาลปรากฏว่าข้อมูลมันไม่ตรงกัน ทำให้เรารู้สึกว่าเราได้ทำร้ายครอบครัวทนายตั้ม วันนี้ก็เลยมาขอโทษ เรารู้สึกไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่คนอื่นทำ ที่เป็นการใช้พื้นที่สาธารณะในการแก้แค้นส่วนตัว มันไม่ใช่แค่คดีทนายตั้มคดีเดียว มันมีหลายๆคดีเราก็เลยรู้สึกว่ามันไม่ใช่ เราก็เลยถอยจากการเป็นแอดมิน

นอกจากนี้วันนี้นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรมได้เดินทางมาพบทนายตั้มด้วย ต้องบอกว่าที่ผ่านมาทั้งคู่ออกมาซัดกันนัวเรื่องคดีต่างๆ จากคนเคยรักมาสู่การเป็นเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด เกิดกรณีพิพาทกลางโซเซียล

ด้านนายอัจฉริยะ ระบุว่า ที่มาที่นี่วันนี้มันถึงเวลาที่ตนกับทนายตั้มต้องเลิกทะเลาะกันหรือมีคดีความต่อกัน เพราะว่าทั้งสองฝ่ายก็ไม่มีคดีต่อกัน และตนก็คิดว่ามันมีเรื่องทุจริตคอรัปชั่นในวงราชการจำนวนมาก ตนเลยคิดว่าวันนี้ที่ผมมาที่นี่ อยากจะมาชวนทนายตั้มมาทำงานรับใช้พี่น้องประชาชนด้วยกัน ในเรื่องของการช่วยเหลือสังคม ที่ผ่านมาก็ยอมรับว่าบางส่วนมีข้อมูลที่คลาดเคลื่อน บางส่วนก็เป็นไปตามที่มีคำพิพากษาไปแล้ว ยืนยันว่ามาที่นี่เพราะว่ามาชวนทนายตั้มมาทำงานเพื่อสังคมด้วยกัน

ผู้สื่อข่าวถามว่าก่อนหน้านี้กรณีที่ความขัดแย้งของเรื่องสองบิ๊กตำรวจ มีการสาดข้อมูลใส่กันไปมามากมาย แต่ทำไมจู่ๆวันนี้ถึงมาคืนดีกัน

นายอัจฉริยะ ระบุว่าขนาดคุณเนวินกับคุณทักษิณ เขายังจับมือกันได้หลังจากที่มีเรื่องบาดหมางกันมานาน วันนี้โลกมันเปลี่ยนไป วันนี้ตนกับทนายตั้ม ก็มีเรื่องบาดหมางกันตั้งแต่ปี 2561 จนเป็นเวลา 6 ปีแล้ว ตนคิดว่ามันถึงเวลาแล้วที่เราทั้งสองฝ่ายต้องช่วยกันเพราะว่ามันเป็นประโยชน์ต่อสังคมมากกว่าที่จะมาทะเลาะกันหรือมีเรื่องบาดหมางกัน ยืนยันว่าจบคือจบ ไม่มีกลับมาเล่นงานกัน อะไรที่ตนล่วงเกินทนายตั้ม ก็ต้องขอโทษ วันนี้เรามาเริ่มต้นปราบปรามการทุจริตของวงราชการโดยเฉพาะตำรวจ มาช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่เขาไม่รู้ว่าจะพึ่งใคร

ด้านทนายตั้ม ระบุว่า ที่ผ่านมาถ้าตนได้ล่วงเกินอะไรนายอัจฉริยะ ตนก็ขอโทษด้วยเช่นกัน แล้วก็นับจากเวลานี้เป็นต้นไปทนายตั้มกับนายอัจฉริยะเราจะมาร่วมกันทำเพื่อสังคม

ก่อนที่นายอัจฉริยะ จะระบุว่าในส่วนของคดีดิไอคอนนั้นในสัปดาห์หน้าจะเปิดเรื่องสำคัญที่เป็นหัวใจของเรื่องนี้ ส่วนเรื่องเทวดาต่างๆ นักร้องชุดนี้เป็นชุดที่เรารู้จักเขามาไม่น้อยกว่า 6 ปี สร้างวีรกรรมไว้มากมายไม่ใช่แค่คุณพอลที่โดน เรารู้ดีว่าเขาทำอะไรบ้าง

นอกจากนี้ยังให้ข้อมูลว่า มีสส.พรรคหนึ่ง เป็นเจ้าของบริษัททำแชร์ลูกโซ่ โดยมีดาราสาว อักษรย่อต.และดีเจดัง 2 คน ทำการขายสินค้า ลักษณะคล้ายดิไอคอน แต่มันร้ายแรงกว่า ตรงที่ระบุว่าผลิตภัณฑ์นำเข้าจากประเทศเกาหลี แต่จากการตรวจสอบพบว่าโรงงานผลิตอยู่ที่ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ซึ่งตนยังไม่ได้ยื่นดำเนินคดีกับคนที่ตนกล่าวชื่อออกมา แต่ตนให้โอกาสคนเหล่านี้ได้มาชี้แจงว่าเหตุผลที่คุณทำแบบนี้คุณหลอกลวงเขาไหม เพราะว่าผู้เสียหายตอนนี้เขาอยากฟังคำตอบ แต่ถ้าไม่ชี้แจง วันที่ 4 พ.ย.ตนจะพาผู้เสียหายไปแจ้งความกับตำรวจไซเบอร์แล้วว่ากันไปตามกฎหมาย.