กระแส Digital Disruption ในตลาดงานครั้งใหญ่อาจเริ่มอีกรอบแล้ว หลังบริษัทช่วยหางานของสหรัฐฯ ออกมาให้ข้อมูลว่าในเดือนพฤษภาคม มีพนักงานสหรัฐฯ ถึง 3,900 คนถูกเลย์ออฟจากงานเพราะถูกบริษัทนำ AI เข้ามาใช้แทนที่ โดยงานที่กระทบมากที่สุดคืองานเลขาฯ และงานนักเขียน และนักข่าว ซึ่งถูก ChatGPT เข้ามาทำงานแทน
ข้อมูลนี้มาจากรายงานของ Challenger, Gray & Christmas บริษัทช่วยหางานของสหรัฐฯ ที่ปล่อยออกมาเมื่อวันพฤหัสบดี (1 พ.ค.) ที่ผ่านมา โดยข้อมูลในรายงานระบุว่าในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา มีพนักงาน 80,000 คน ถูกเลย์ออฟในสหรัฐฯ มากขึ้น 20% จากเดือนก่อนหน้า และ 3,900 คน หรือประมาณ 5% จากในนั้นถูกเลิกจ้างเพราะบริษัทได้นำ AI เข้ามาช่วยงานแทน
นี่เป็นครั้งแรกที่ Challenger, Gray & Christmas ระบุเหตุผลนี้ไว้ในรายงานประจำเดือนของบริษัท สะท้อนว่า AI ได้เริ่มเข้ามามีบทบาทสำคัญในตลาดงานของสหรัฐฯ แล้ว เป็นเวลาไม่กี่เดือนหลังจาก ChatGPT ถูกปล่อยออกมาให้คนทั่วไปใช้ในปลายปี 2022 ที่ผ่านมา ซึ่งนับว่ารวดเร็วมาก
โดยงานที่ได้รับผลกระทบก็มีงานในหลากหลายสายอาชีพ โดยเฉพาะงานเลขานุการ งานเสมียนดำเนินการเรื่องเอกสารต่างๆ และงาน ‘นักเขียน’ ในหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นเขียนบทความ คอนเทนต์ หรือเขียนข่าว ที่ได้รับผลกระทบเต็มๆ จากการเข้ามาของ ChatGPT ซึ่งมีความสามารถในการเขียนตามคำสั่งของผู้ใช้ได้
จากการรายงานของสำนักข่าว CBS News ที่ผ่านมาได้มีสำนักข่าวหลายสำนักได้เลิกจ้างพนักงานแล้วนำ AI เข้ามาทำงานแทน ไม่ว่าจะเป็น The Washington Post ที่ได้เลิกจ้างนักเขียนคำโฆษณา 2 คนเพราะเห็นว่า ChatGPT สามารถทำงานได้ดี และผลิตงานได้ในราคาถูกกว่า และสำนักข่าว CNET ที่เพิ่งเลย์ออฟนักข่าวแล้วนำ AI มาเขียนข่าวแทน ถึงแม้ว่าจะมีปัญหาเรื่องการลอกเลียนแบบข่าวสำนักอื่นๆ จนต้องส่งคนจริงๆ เข้าไปแก้ไข
นอกจากนี้ ยังมีสายด่วนที่ให้บริการเรื่องโรคการกินผิดปกติ (Eating Disorders) ที่เริ่มนำ AI เข้ามาตอบคำถามแทนคนจริงๆ ถึงแม้ภายหลังจะต้องยกเลิกไปก่อนเพราะตัว AI ให้คำตอบที่เป็นอันตรายต่อผู้เข้ามาขอคำปรึกษา
ทั้งนี้ ถึงแม้จากข่าวที่ออกมา การนำ AI มาใช้ทำงานแทนคนจริงๆ นั้นอาจจะยังดูไม่เข้ารูปเข้ารอยนัก แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า AI เป็นเทคโนโลยีที่สามารถพัฒนาตัวเองได้รวดเร็วมาก จนในอนาคตก็อาจจะมีประสิทธิภาพเท่าเทียมกับมนุษย์เข้าได้จริงๆ
จากการวิเคราะห์ของ Bloomberg Intelligence อุตสาหกรรม AI จะเติบโตขึ้นไปมีมูลค่ามากกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ จากความสำเร็จของ AI หลายตัวโดยเฉพาะ ChatGPT
นอกจากนี้ จากการวิเคราะห์ของ Goldman Sachs ในอนาคต AI น่าจะเข้ามาแทนที่งานมนุษย์ถึง 300 ตำแหน่งงานด้วยกัน ซึ่งคิดเป็นเกือบ 1 ใน 5 ของตำแหน่งงานทั้งหมดทั่วโลก โดยเฉพาะงานด้านการจัดการเอกสารเช่น งานเลขานุการ รวมไปถึงงานผู้ช่วยทนายความ หรืองานด้านกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการจัดการเอกสารอื่นๆ
โดยนอกจากงานด้านเอกสารแล้ว งานที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ก็อาจไม่รอดเช่นเดียวกัน เพราะในเดือนพฤษภาคม กลุ่มนักเขียนคอนเทนต์บันเทิงของฮอลลีวูด ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์หรือซีรีส์ ก็ได้ออกมาประท้วงหยุดงานเพื่อเรียกร้องค่าแรงและสวัสดิภาพที่ดีขึ้น รวมไปถึงเรียกร้องให้มีการแบนการใช้ AI ในการเขียนคอนเทนต์บันเทิงอย่างเด็ดขาดเช่นเดียวกัน หลังมีกระแสออกมาตลอดว่าในอนาคตผู้สร้างอาจใช้ AI เป็นผู้เขียนเรื่องแทน เพราะเร็ว และมีต้นทุนต่ำกว่าการจ้างมนุษย์
ที่มา: CBS