เงินเฟ้อพ่นพิษ ราคาเบอร์เกอร์ในอเมริกาพุ่ง เฉลี่ยแพงสุดมื้อละ 700 บาท
เงินเฟ้อกำลังเล่นงานกระเป๋าคนอเมริกันอย่างหนัก! ไม่ใช่แค่ค่าบ้าน ค่ารถ หรือค่าน้ำมันที่แพงขึ้น แต่ตอนนี้แม้แต่อาหารจานด่วนที่เคยเป็นตัวเลือกราคาประหยัดอย่างเบอร์เกอร์ เฟรนช์ฟรายส์ และน้ำอัดลมก็ยังขึ้นราคาแบบไม่เกรงใจใคร ร้านดังอย่าง Five Guys แบรนด์ร้านเบอร์เกอร์จานด่วนที่ได้รับความนิยมในสหรัฐอเมริกา ที่เวลานี้ขายเบอร์เกอร์เฉลี่ยต่อมื้อชุดละ $ 20.84 หรือประมาณ 700 บาทไปแล้ว แถมแบรนด์ร้าน Wendy's ก็ขึ้นราคาไปกว่า 30% ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เรียกได้ว่าค่าครองชีพในอเมริกาพุ่งสูงจนน่าตกใจ ใครจะไปคิดว่าแค่เบอร์เกอร์มื้อเดียวจะแพงขนาดนี้!
คอนเทนต์แนะนำ
เงินเฟ้อพ่นพิษ ราคาเบอร์เกอร์ในอเมริกาพุ่ง เฉลี่ยแพงสุดมื้อละ 700 บาท
ภาวะเงินเฟ้อที่เกิดขึ้นในปัจจุบันส่งผลให้ราคาสินค้าและบริการในสหรัฐอเมริกาปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นที่อยู่อาศัย ยานพาหนะ หรือแม้กระทั่งน้ำมันเชื้อเพลิง ต่างก็มีราคาที่แพงขึ้นทั้งสิ้น แล้วอาหารจานด่วนยอดนิยมอย่างเบอร์เกอร์ เฟรนช์ฟรายส์ และน้ำอัดลมล่ะได้รับผลกระทบมากขนาดไหน
เรียกได้ว่า เป็นเรื่องน่าเสียดายที่ราคาอาหารเหล่านี้ก็ปรับตัวสูงขึ้นเช่นกัน โดย MoneyGeek ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่ให้ข้อมูลด้านการเงินส่วนบุคคล ได้ทำการศึกษาเชิงลึกเกี่ยวกับราคาอาหารที่เพิ่มขึ้นในรายงานฉบับล่าสุด พบว่าราคาอาหารชุดเบอร์เกอร์ เฟรนช์ฟรายส์ และน้ำอัดลม ของร้านเบอร์เกอร์จานด่วนที่ทำรายได้สูงสุด มีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญระหว่างปี 2022 ถึง 2024 โดยอ้างอิงข้อมูลราคาจาก Allmenus และ Grubhub
จากการศึกษาของ MoneyGeek ร้าน Five Guys เป็นร้านที่มีราคาอาหารแพงที่สุด โดยราคาเฉลี่ยของอาหารชุดดังกล่าวในปี 2024 อยู่ที่ 20.84 ดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 14% จากปี 2022 ซึ่งราคาอยู่ที่ 18.33 ดอลลาร์สหรัฐฯ นอกจากนี้ ร้านอาหารแห่งนี้ยังกลายเป็นที่พูดถึงในสื่อสังคมออนไลน์ เมื่อมีผู้โพสต์ภาพใบเสร็จค่าชีสเบอร์เกอร์ เฟรนช์ฟรายส์ และน้ำอัดลม รวมเป็นเงิน 24 ดอลลาร์สหรัฐฯ ลงบนแพลตฟอร์ม X
Wendy’s ปรับราคาเมนูขึ้นสูงสุดถึง 32%
แม้ Five Guys จะครองตำแหน่งร้านที่มีราคาสูงที่สุดในการศึกษาของ MoneyGeek แต่กลับไม่ใช่ร้านที่มีการปรับราคาเมนูสูงที่สุด โดยร้านที่มีการปรับราคาขึ้นมากที่สุดในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาคือ Wendy’s ซึ่งราคาอาหารชุดเฉลี่ยเพิ่มขึ้นถึง 32% จาก 9.41 ดอลลาร์สหรัฐฯ เป็น 12.41 ดอลลาร์สหรัฐฯ
โฆษกของ Wendy’s ได้ออกมาชี้แจงถึงกรณีดังกล่าวว่า ทางร้านมีทางเลือกที่หลากหลายสำหรับลูกค้าที่คำนึงถึงราคา โดยกล่าวว่า “แม้เราจะไม่ได้รับการติดต่อเกี่ยวกับการศึกษานี้และยังไม่ได้ตรวจสอบเกณฑ์ที่ใช้ แต่ Wendy’s มุ่งมั่นที่จะนำเสนออาหารคุณภาพสูงในราคาที่เหมาะสมให้กับลูกค้าของเราเสมอ นั่นคือเหตุผลที่เราเปิดตัว $5 Biggie Bag ในปี 2019 และยังคงนำเสนอโปรโมชั่นต่างๆ ในเมนูของเราอย่างต่อเนื่อง”
ตารางเปรียบเทียบราคาเฉลี่ยต่อมื้ออาหารฟาสต์ฟู้ดในปี 2024 กับปี 2022 (โดย MoneyGeek)
| อันดับ | ร้านอาหาร | ราคาเฉลี่ยต่อมื้อ (2024) | ราคาเฉลี่ยต่อมื้อ (2022) | เปอร์เซ็นต์การเพิ่มขึ้น |
| 1 | Five Guys | $20.84 (700 บาท) | $18.33 (616 บาท) | 13.70% |
| 2 | Jack in the Box | $13.75 (464 บาท) | $10.93 (367 บาท) | 25.80% |
| 3 | Wendy's | $12.41 (418 บาท) | $9.41 (316 บาท) | 31.80% |
| 4 | Burger King | $10.61 (357 บาท) | $9.44 (317 บาท) | 12.30% |
| 5 | McDonald's | $7.57 (255 บาท) | $6.21 (209 บาท) | 22.00% |
หมายเหตุ: อัตราแลกเปลี่ยนที่ใช้: 1 ดอลลาร์สหรัฐ = 33.6 บาท (โดยประมาณ)
เหตุใดอาหารจานด่วนจึงมีราคาสูงขึ้นในอเมริกา ?
ไม่เพียงแต่เบอร์เกอร์เท่านั้น แต่อาหารจานด่วนโดยรวมยังคงมีราคาปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในแต่ละปี จากการศึกษาของ FinanceBuzz พบว่าตั้งแต่ปี 2014 ถึง 2024 ราคาเฉลี่ยในเมนูอาหารจานด่วนได้เพิ่มขึ้นในช่วง 39% ถึง 100% ซึ่งสูงกว่าอัตราเงินเฟ้อโดยรวมที่ 31% ในช่วงเวลาเดียวกัน
ตามข้อมูลจากสำนักงานสถิติแรงงาน สำหรับปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้ราคาอาหารจานด่วนเพิ่มขึ้นคือต้นทุนค่าแรงที่ปรับตัวสูงขึ้น และความนิยมที่เพิ่มขึ้นของแพลตฟอร์มบริการส่งอาหาร เช่น DoorDash และ Uber Eats ซึ่งเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจากร้านอาหารจานด่วน ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อราคาอาหารที่ผู้บริโภคต้องจ่าย ตามรายงานของ Greenlight
จากข้อมูลที่กล่าวมาข้างต้น สะท้อนให้เห็นว่าภาวะเงินเฟ้อได้ส่งผลกระทบต่อราคาอาหารจานด่วนในสหรัฐอเมริกาอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ผู้บริโภคต้องเผชิญกับราคาที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นร้านเบอร์เกอร์ชื่อดังอย่าง Five Guys หรือร้านอื่น ๆ ที่มีการปรับราคาขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจ
แม้ว่าร้านอาหารบางแห่งจะพยายามตรึงราคาหรือมีโปรโมชั่นเพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของลูกค้า แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าราคาอาหารจานด่วนโดยรวมยังคงอยู่ในทิศทางขาขึ้น ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อพฤติกรรมการบริโภคของผู้คนในระยะยาว
ในสถานการณ์เช่นนี้ ผู้บริโภคอาจต้องปรับตัวและพิจารณาทางเลือกอื่น ๆ เช่น การทำอาหารเองที่บ้าน หรือเลือกซื้ออาหารจากร้านที่มีราคาเหมาะสมกว่า เพื่อรับมือกับภาวะเงินเฟ้อที่ยังคงส่งผลกระทบต่อค่าครองชีพอย่างต่อเนื่อง
ที่มา fox5sandiego
