ธุรกิจร้านอาหารไทยกำลังเฟื่องฟูอย่างต่อเนื่อง สวนกระแสเศรษฐกิจที่ยังคงมีความไม่แน่นอนหลายด้าน เห็นได้จากตัวเลขรายได้และกำไรที่เติบโตอย่างก้าวกระโดดในปี 2566 แม้จะมีร้านอาหารเกิดใหม่เป็นจำนวนมาก แต่ก็ไม่ได้ทำให้ตลาดร้านอาหารไทยซบเซาลงแต่อย่างใด ทำให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเล็งเห็นถึงศักยภาพและโอกาสในการเติบโตของธุรกิจร้านอาหารไทย จึงได้ดำเนินมาตรการต่างๆ เพื่อส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการให้สามารถแข่งขันได้ในตลาดที่มีการแข่งขันสูง พร้อมทั้งกำกับดูแลให้เกิดความเป็นธรรมในการประกอบธุรกิจ
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เดินหน้าส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการร้านอาหารไทย จับมือผู้เชี่ยวชาญในแวดวงธุรกิจอาหาร จัด 7 กิจกรรมหลัก เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมร้านอาหาร ซึ่งยังคงมีแนวโน้มการเติบโตที่สดใส โดยในปี 2566 ที่ผ่านมา ธุรกิจร้านอาหารไทยสามารถสร้างรายได้รวมสูงกว่า 3 แสนล้านบาท และมีกำไรรวมอยู่ที่ 1 หมื่นล้านบาท
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ข้อมูล ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2567 ชี้ให้เห็นว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีนิติบุคคลที่ดำเนินธุรกิจร้านอาหารอยู่จำนวน 23,414 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นธุรกิจขนาดเล็ก คิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 97.46% (22,819 ราย) โดยมีการจัดตั้งในรูปแบบบริษัทจำกัดมากที่สุด 88.56% (20,735 ราย) ที่เหลือ คือ ห้างหุ้นส่วนสามัญ/ห้างหุ้นส่วนจำกัด 11.40% (2,670 ราย) และบริษัทมหาชนจำกัด 0.04% (9 ราย) โดย 5 จังหวัดที่มีการจดทะเบียนธุรกิจร้านอาหารมากที่สุด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ชลบุรี ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี และเชียงใหม่ ซึ่งเป็นจังหวัดท่องเที่ยวและศูนย์กลางทางเศรษฐกิจที่สำคัญ สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพและโอกาสทางธุรกิจในอุตสาหกรรมร้านอาหารของประเทศไทย
นอกจากการส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการแล้ว กรมฯ ยังให้ความสำคัญกับการสร้างความเป็นธรรมในการแข่งขัน โดยร่วมมือกับหน่วยงานพันธมิตรด้านการบังคับใช้กฎหมาย เพื่อกำกับดูแลและป้องกันการประกอบธุรกิจร้านอาหารโดยมิชอบด้วยกฎหมายของชาวต่างชาติ
ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้าบ่งชี้ว่า ในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2567 (มกราคม - กรกฎาคม) มีการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจร้านอาหารใหม่จำนวน 2,472 ราย โดยส่วนใหญ่อยู่ในจังหวัดท่องเที่ยวและหัวเมืองหลัก ได้แก่ กรุงเทพมหานคร 926 ราย (37.46%) ชลบุรี 258 ราย (10.44%) ภูเก็ต 192 ราย (7.77%) เชียงใหม่ 165 ราย (6.67%) และสุราษฎร์ธานี 122 ราย (4.94%) เป็นธุรกิจขนาดเล็ก 2,469 ราย (99.88%) ธุรกิจขนาดกลาง 2 ราย (0.08%) และ ธุรกิจขนาดใหญ่ 1 ราย (0.04%) ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความคึกคักของภาคธุรกิจร้านอาหาร
นอกจากนี้ รายได้รวมและผลประกอบการของธุรกิจร้านอาหารในปี 2565 และ 2566 ยังคงแสดงให้เห็นถึงการเติบโตที่โดดเด่น โดยในปี 2566 รายได้รวมสูงถึง 305,162.62 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.2% จากปีก่อนหน้า และมีกำไรสุทธิ 9,781.46 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 185.93% แสดงให้เห็นถึงการเติบโตนี้น่าจะได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวและการเปิดประเทศหลังจากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายลง รวมถึงการปรับตัวของผู้ประกอบการร้านอาหารที่เพิ่มช่องทางการขายผ่านระบบเดลิเวอรี การสั่งอาหารล่วงหน้า และการจองคิวผ่านแอปพลิเคชันต่างๆ เพื่อตอบสนองต่อพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป
สรุปผลประกอบการ ธุรกิจร้านอาหารในไทย
อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้าเผยถึงความมุ่งมั่นในการเสริมสร้างศักยภาพผู้ประกอบการร้านอาหารไทย ให้สามารถปรับตัวและแสวงหาโอกาสทางธุรกิจในยุคดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพ กรมฯ จึงได้ร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมอาหาร จัดทำโครงการสำคัญ 7 โครงการ เพื่อยกระดับมาตรฐานการบริหารจัดการร้านอาหาร เพิ่มขีดความสามารถในการปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง และส่งเสริมการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้เพื่อทำความเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภค นอกจากนี้ ยังมีการส่งเสริมและสนับสนุนร้านอาหารไทยที่ได้รับตราสัญลักษณ์ Thai SELECT ซึ่งเป็นเครื่องรับรองคุณภาพและมาตรฐานอาหารไทย เพื่อขับเคลื่อน Soft Power ด้านอาหาร นำเสนอเอกลักษณ์และมรดกทางวัฒนธรรมของชาติ สร้างกระแสนิยมอาหารไทย และกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากผ่าน 7 กิจกรรมหลัก อาทิ
กรมพัฒนาธุรกิจการค้ายังคงมุ่งมั่นในการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการธุรกิจแฟรนไชส์อาหารและเครื่องดื่ม ด้วยการยกระดับระบบการบริหารจัดการธุรกิจให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจ สร้างงาน สร้างอาชีพ และสร้างรายได้ให้กับผู้ที่สนใจประกอบธุรกิจแฟรนไชส์ โดยได้จัดกิจกรรมสำคัญ 2 กิจกรรมเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับทั้งแฟรนไชส์ซอร์และแฟรนไชส์ซี ได้แก่:
ผู้ประกอบการร้านอาหารที่ประสงค์รับทราบข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมสนับสนุนต่างๆ ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์ www.dbd.go.th หรือติดต่อสอบถามผ่านช่องทางสายด่วน 1570 นอกเหนือจากการส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการ กรมพัฒนาธุรกิจการค้ายังให้ความสำคัญกับการสร้างความเป็นธรรมในการประกอบธุรกิจ โดยร่วมมือกับหน่วยงานพันธมิตรที่เกี่ยวข้องในการกำกับดูแลและป้องปรามการดำเนินธุรกิจที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายของชาวต่างชาติ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการตรวจสอบธุรกิจที่มีลักษณะนอมินี ซึ่งเป็นการให้คนไทยถือหุ้นแทนชาวต่างชาติเพื่อหลีกเลี่ยงการขออนุญาตประกอบธุรกิจตาม พ.ร.บ. การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้เน้นย้ำว่า ชาวต่างชาติที่ประสงค์จะประกอบธุรกิจบริการตามบัญชีท้าย พ.ร.บ.ฯ และต้องการถือหุ้นเกินร้อยละ 50 จำเป็นต้องปฏิบัติตามกระบวนการขออนุญาตอย่างเคร่งครัด หากฝ่าฝืนจะต้องได้รับโทษทั้งจำคุกและปรับตามที่กฎหมายกำหนด
เห็นได้ชัดว่าธุรกิจร้านอาหารไทยกำลังอยู่ในช่วงขาขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยแรงสนับสนุนจากหลายปัจจัย ทั้งการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป และที่สำคัญคือความมุ่งมั่นของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าในการส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการร้านอาหารไทยอย่างเป็นรูปธรรม อย่างไรก็ตาม การแข่งขันในตลาดร้านอาหารยังคงดุเดือด ผู้ประกอบการจึงต้องไม่หยุดพัฒนาและปรับตัวให้ทันต่อสถานการณ์อยู่เสมอ และกรมพัฒนาธุรกิจการค้าก็พร้อมที่จะเป็นกำลังสำคัญในการสนับสนุนให้ธุรกิจร้านอาหารไทยเติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป