Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
มะพร้าวไทยในตลาดจีน กับโอกาสที่อนาคตอาจมีมูลค่ากว่า 9.45 หมื่นล้านบาท
โดย : อมรินทร์ทีวีออนไลน์

มะพร้าวไทยในตลาดจีน กับโอกาสที่อนาคตอาจมีมูลค่ากว่า 9.45 หมื่นล้านบาท

16 ต.ค. 67
21:33 น.
|
964
แชร์

ในยุคที่ผู้บริโภคหันมาใส่ใจสุขภาพ "มะพร้าว" ผลไม้เมืองร้อนรสชาติหอมหวาน กำลังได้รับความนิยมอย่างล้นหลามในประเทศจีน ไม่ว่าจะเป็นมะพร้าวน้ำหอมสดๆ หรือผลิตภัณฑ์แปรรูป ล้วนเป็นที่ต้องการของตลาด สร้างโอกาสทางธุรกิจมหาศาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ประกอบการไทย

มะพร้าวไทยในตลาดจีน กับโอกาสที่อนาคตอาจมีมูลค่ากว่า 9.45 หมื่นล้านบาท

มะพร้าวไทยในตลาดจีน กับโอกาสที่อนาคตอาจมีมูลค่ากว่า 9.45 หมื่นล้านบาท

ตลาดมะพร้าวในจีนกำลังเบ่งบาน! ผู้บริโภคชาวจีนหันมาใส่ใจสุขภาพกันมากขึ้น ทำให้เครื่องดื่มและผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติอย่างมะพร้าวสดและมะพร้าวแปรรูปเป็นที่ต้องการอย่างล้นหลาม ไม่ว่าจะดื่มให้ชื่นใจ ทำอาหาร หรือแม้แต่เป็นส่วนผสมในเครื่องสำอาง มะพร้าวก็ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนจีนยุคใหม่ได้อย่างลงตัว

ตัวเลขก็ยืนยันความนิยมนี้ได้เป็นอย่างดี มูลค่าตลาดมะพร้าวในจีนพุ่งขึ้นจาก 10,280 ล้านหยวนในปี 2560 ไปแตะ 14,440 ล้านหยวนในปี 2564 และคาดว่าจะทะลุ 20,000 ล้านหยวนในปี 2569 หรือกว่า 9.45 หมื่นล้านบาท แต่รู้หรือไม่ว่า จีนผลิตมะพร้าวได้เองเพียงน้อยนิด? แม้ความต้องการมะพร้าวสดจะสูงถึง 2,600 ล้านลูก และมะพร้าวแปรรูปอีก 1,500 ล้านลูกต่อปี แต่ผลผลิตจากมณฑลไห่หนานกลับมีเพียง 250 ล้านลูกเท่านั้น คิดเป็นแค่ 6% ของความต้องการทั้งหมด!

นี่แหละคือโอกาสทองของมะพร้าวไทย! ปัจจุบัน ไทยครองแชมป์ส่งออกมะพร้าวสดไปจีน คิดเป็นสัดส่วนถึง 60% แม้ช่วง 8 เดือนแรกของปี 2567 การนำเข้าจากไทยจะลดลง 44% เหลือ 189,336 ตัน มูลค่า 1,261 ล้านหยวน แต่ก็ยังเป็นโอกาสสำคัญที่เราต้องรีบคว้าไว้

มะพร้าวไทยในตลาดจีน กับโอกาสที่อนาคตอาจมีมูลค่ากว่า 9.45 หมื่นล้านบาท

มะพร้าวไทย เครื่องดื่มสุดฮิตในร้านกาแฟและร้านชานมแดนมังกร

มะพร้าวน้ำหอมของไทยมิได้เป็นเพียงผลไม้สดที่ได้รับความนิยมในประเทศจีนเท่านั้น แต่ยังมีบทบาทสำคัญในฐานะวัตถุดิบคุณภาพสูงสำหรับอุตสาหกรรมเครื่องดื่ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มธุรกิจร้านกาแฟและร้านชานม ซึ่งมีสัดส่วนการใช้น้ำมะพร้าวเป็นส่วนประกอบสูงถึง 92.5% โดยเครือข่ายร้านกาแฟและร้านชานมชั้นนำ อาทิ Luckin Coffee, Starbucks, Tims, Nowwa, Heytea, Naixue, Chagee และ Coco ต่างนำเสนอเมนูเครื่องดื่มที่ผสมผสานน้ำมะพร้าว เพื่อสร้างสรรค์รสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ นอกจากนี้ กระแสนิยมดังกล่าวยังส่งผลให้เกิดการขยายตัวของธุรกิจร้านค้าเฉพาะทาง ที่เน้นจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มและอาหารที่มีส่วนผสมของมะพร้าวโดยเฉพาะ

ยิ่งไปกว่านั้น น้ำมะพร้าวยังเป็นองค์ประกอบสำคัญในเมนูอาหารยอดนิยม เช่น "Hotpot ซุปมะพร้าวไก่" ซึ่งใช้น้ำมะพร้าวเป็นน้ำซุปหลักในการต้มเนื้อไก่ จนได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในหมู่ผู้บริโภคชาวจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเมืองหนานหนิง ซึ่งมีจำนวนร้าน Hotpot ซุปมะพร้าวไก่เปิดให้บริการมากกว่า 100 แห่ง และมีแนวโน้มการเติบโตทางธุรกิจที่โดดเด่น

ในส่วนของผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มมะพร้าวสำเร็จรูปจากประเทศไทย ก็ได้รับการตอบรับอย่างดีในตลาดจีน โดยมีแบรนด์สินค้าชั้นนำ อาทิ If, Malee, Cocomax, Hico, Koh Coconut, Innococo และ Lockfun ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลิตภัณฑ์น้ำมะพร้าว 100% และน้ำมะพร้าวผสมน้ำผลไม้ ขณะเดียวกัน "น้ำมะพร้าวผสมกาแฟ" กำลังเป็นกระแสที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น โดยมีแบรนด์ไทย อาทิ Arabus และ If เป็นผู้บุกเบิกตลาด ซึ่งจากการศึกษาข้อมูลการจำหน่ายบนแพลตฟอร์ม Taobao บ่งชี้ว่ากาแฟผสมน้ำมะพร้าวของไทย กำลังได้รับความสนใจจากผู้บริโภคชาวจีนเป็นอย่างมาก

ด้วยแนวโน้มการดูแลสุขภาพที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่องในประเทศจีน ประกอบกับศักยภาพของมะพร้าวในการนำไปประยุกต์ใช้ในหลากหลายอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดื่ม อาหาร หรือผลิตภัณฑ์ดูแลผิว ล้วนเป็นปัจจัยสนับสนุนการเติบโตของตลาดมะพร้าวในจีน ซึ่งนับเป็นโอกาสอันดีสำหรับผู้ประกอบการไทย ในการพัฒนาและส่งเสริมผลิตภัณฑ์มะพร้าวคุณภาพสูง เพื่อขยายส่วนแบ่งทางการตลาด และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับอุตสาหกรรมมะพร้าวของประเทศ

มะพร้าวไทยแปรรูป เส้นทางใหม่สู่ใจผู้บริโภคจีน

มะพร้าวไทยในตลาดจีน กับโอกาสที่อนาคตอาจมีมูลค่ากว่า 9.45 หมื่นล้านบาท

นอกเหนือจากมะพร้าวสดแล้ว ตลาดจีนยังแสดงให้เห็นถึงความต้องการผลิตภัณฑ์แปรรูปจากมะพร้าวที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นน้ำมะพร้าว น้ำมันมะพร้าว กากมะพร้าว รวมถึงผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องสำอางที่เกี่ยวข้อง โดยข้อมูลสถิติการนำเข้าน้ำมะพร้าวในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2567 ชี้ให้เห็นว่าจีนนำเข้าน้ำมะพร้าวจากต่างประเทศเพิ่มขึ้น 12% คิดเป็นปริมาณ 87,116 ตัน มูลค่า 796 ล้านหยวน อย่างไรก็ตาม แม้ประเทศไทยจะเป็นผู้ส่งออกมะพร้าวสดรายใหญ่ แต่ในส่วนของน้ำมะพร้าว ประเทศไทยยังคงมีส่วนแบ่งตลาดค่อนข้างจำกัด โดยมีมูลค่าการส่งออกเพียง 39 ล้านหยวน คิดเป็น 4.90% ขณะที่เวียดนามและอินโดนีเซียครองสัดส่วนตลาดสูงถึง 55.53% และ 36.35% ตามลำดับ

ปัจจัยขับเคลื่อนสำคัญของการเติบโตดังกล่าว มาจากกระแสความนิยมการบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพในสังคมจีน ซึ่งสอดคล้องกับคุณประโยชน์ทางโภชนาการของมะพร้าว ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์น้ำมะพร้าวได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อปี 2021 ยอดจำหน่ายเครื่องดื่มนมจากพืชในแพลตฟอร์ม Tmall สะท้อนให้เห็นว่า 1 ใน 3 ของเครื่องดื่มยอดนิยมล้วนมีส่วนผสมของมะพร้าว ยิ่งไปกว่านั้น ความสำเร็จของแบรนด์ Luckin Coffee กับเมนู Raw Coconut Latte ที่มียอดจำหน่ายสูงถึง 100 ล้านแก้วต่อเดือน และ Coconut Cloud Latte ที่ทำยอดขายได้ 4.96 ล้านแก้วต่อสัปดาห์ ยิ่งเป็นเครื่องยืนยันถึงกระแสนิยมมะพร้าวในตลาดจีนได้เป็นอย่างดี

อนึ่ง การนำมะพร้าวไปประยุกต์ใช้ในธุรกิจอื่นๆ เช่น ร้านชาไข่มุก ร้านอาหารประเภท Hotpot และอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ดูแลผิว ล้วนเป็นโอกาสอันดีสำหรับผู้ประกอบการไทย ในการพัฒนาและส่งออกผลิตภัณฑ์แปรรูปจากมะพร้าวที่มีคุณภาพ มุ่งเน้นการสร้างมูลค่าเพิ่ม เพื่อขยายส่วนแบ่งตลาดในจีน และผลักดันให้มะพร้าวไทยกลายเป็นสินค้าเกษตรที่สร้างรายได้สำคัญให้กับประเทศต่อไป

มะพร้าวไทยในตลาดจีน การรักษาความเป็นผู้นำท่ามกลางกระแสการแข่งขัน

มะพร้าวไทยในตลาดจีน กับโอกาสที่อนาคตอาจมีมูลค่ากว่า 9.45 หมื่นล้านบาท

แม้มะพร้าวไทยจะยังคงครองส่วนแบ่งตลาดสำคัญในประเทศจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งมะพร้าวน้ำหอม ซึ่งเป็นที่ยอมรับในด้านคุณภาพและรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ สอดคล้องกับข้อมูลจากสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองหนานหนิง ที่ระบุว่า มะพร้าวไทยได้รับความนิยมในกลุ่มผู้บริโภครุ่นใหม่ และผู้ใส่ใจสุขภาพ ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีแนวโน้มการเติบโตสูงในตลาดจีนยุคหลังโควิด-19 อย่างไรก็ดี การที่ประเทศจีนอนุญาตให้นำเข้ามะพร้าวจากเวียดนามอย่างเป็นทางการ นับตั้งแต่วันที่ 22 สิงหาคม 2567 ย่อมส่งผลให้เกิดการแข่งขันที่ทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น

ข้อได้เปรียบของเวียดนาม เช่น ต้นทุนการผลิตที่ต่ำกว่า ผลผลิตที่สูงกว่า (ปัจจุบันอยู่ที่ 2 ล้านตัน และคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 2.1-2.3 ล้านตันในปี 2573) รวมถึงระยะทางในการขนส่งที่สั้นกว่า ล้วนเป็นปัจจัยที่เอื้อต่อการกำหนดราคาจำหน่ายที่สามารถแข่งขันได้ และอาจส่งผลต่อการตัดสินใจของผู้บริโภคบางกลุ่ม

ดังนั้น เพื่อรักษาสถานะความเป็นผู้นำในตลาดมะพร้าวของจีน ภาคส่วนที่เกี่ยวข้องของไทย จำเป็นต้องดำเนินกลยุทธ์เชิงรุก โดยมุ่งเน้นการพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานของมะพร้าว ครอบคลุมตั้งแต่กระบวนการเพาะปลูก การเก็บเกี่ยว การแปรรูป ไปจนถึงการจัดจำหน่าย ควบคู่ไปกับการส่งเสริมภาพลักษณ์มะพร้าวไทย ผ่านกิจกรรมประชาสัมพันธ์ที่สร้างสรรค์ และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ การสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์มะพร้าว โดยอาศัยนวัตกรรม การออกแบบบรรจุภัณฑ์ และการสร้างแบรนด์ เป็นอีกหนึ่งแนวทางสำคัญ ที่จะช่วยเสริมสร้างความแตกต่าง และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน เพื่อให้มะพร้าวไทยสามารถครองใจผู้บริโภคชาวจีนได้อย่างต่อเนื่อง และรักษาส่วนแบ่งทางการตลาดท่ามกลางกระแสการแข่งขันที่รุนแรง

อนาคตอันสดใสของมะพร้าวไทยในตลาดจีนยุคใหม่

มะพร้าวไทยในตลาดจีน กับโอกาสที่อนาคตอาจมีมูลค่ากว่า 9.45 หมื่นล้านบาท

มะพร้าวไทยกำลังได้รับความนิยมอย่างล้นหลามในตลาดจีน ซึ่งมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อผู้บริโภคชาวจีนหันมาใส่ใจสุขภาพ และมองหาผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติมากขึ้น มะพร้าวจึงกลายเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ ด้วยรสชาติที่หอมหวาน คุณประโยชน์ที่หลากหลาย และความสามารถในการนำไปประยุกต์ใช้ในหลากหลายอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดื่ม อาหาร หรือแม้แต่เครื่องสำอาง

ปัจจัยหนุนนำความสำเร็จของมะพร้าวไทย

  • กระแสการบริโภคเพื่อสุขภาพ: ผู้บริโภคชาวจีนยุคใหม่ให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพ ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ เช่น มะพร้าว เป็นที่ต้องการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
  • นวัตกรรมในอุตสาหกรรมเครื่องดื่ม: มะพร้าวไทยได้กลายเป็นวัตถุดิบหลัก ในการรังสรรค์เครื่องดื่มที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นกาแฟ ชานม หรือแม้กระทั่งซุป Hotpot
  • ช่องทางการตลาดออนไลน์: แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ เช่น Tmall และ Taobao อำนวยความสะดวกในการเข้าถึงผู้บริโภคชาวจีน และส่งเสริมการขยายตัวของตลาดมะพร้าวไทย

อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการไทยต้องตระหนักถึงการแข่งขันที่ทวีความรุนแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากเวียดนาม ซึ่งเป็นผู้ผลิตมะพร้าวรายใหญ่ ดังนั้น เพื่อธำรงไว้ซึ่งความเป็นผู้นำในตลาด ประเทศไทยจำเป็นต้องดำเนินกลยุทธ์เชิงรุก ดังนี้

  • การรักษามาตรฐานคุณภาพ: การควบคุมคุณภาพและมาตรฐานของมะพร้าว ครอบคลุมทุกขั้นตอน ตั้งแต่การเพาะปลูก การเก็บเกี่ยว การแปรรูป ไปจนถึงการจัดจำหน่าย ถือเป็นหัวใจสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่น และรักษาฐานลูกค้า
  • การสร้างมูลค่าเพิ่ม: การพัฒนาผลิตภัณฑ์แปรรูป เช่น น้ำมะพร้าว น้ำมันมะพร้าว และกากมะพร้าว โดยอาศัยนวัตกรรมและเทคโนโลยีขั้นสูง จะช่วยตอบสนองความต้องการที่หลากหลาย และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน
  • การส่งเสริมการตลาดเชิงรุก: การสร้างแบรนด์ การออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่โดดเด่น และการประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางที่หลากหลาย ล้วนเป็นกลยุทธ์สำคัญในการสร้างภาพลักษณ์ที่ดี และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพ

บทบาทของภาครัฐและเอกชน เพราะความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน เป็นกุญแจสำคัญในการผลักดันมะพร้าวไทยสู่ตลาดโลก โดยภาครัฐควรสนับสนุนการวิจัยและพัฒนา เพื่อสร้างนวัตกรรม และเพิ่มมูลค่าให้กับมะพร้าว ขณะที่ภาคเอกชนต้องมุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพ สร้างแบรนด์ และขยายช่องทางการตลาด และด้วยศักยภาพของมะพร้าวไทย และความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เชื่อมั่นว่ามะพร้าวไทยจะสามารถครองใจผู้บริโภคชาวจีน และสร้างรายได้มหาศาลให้กับประเทศ เพราะ มะพร้าวไทยไม่ใช่แค่ผลไม้ แต่เป็น "ขุมทรัพย์สีเขียว" ที่รอการพัฒนา เพื่อสร้างอนาคตที่สดใส และยั่งยืน ให้กับเกษตรกรไทย และเศรษฐกิจของประเทศ

อ้างอิง กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ

แชร์
มะพร้าวไทยในตลาดจีน กับโอกาสที่อนาคตอาจมีมูลค่ากว่า 9.45 หมื่นล้านบาท