เปิดศักราชใหม่ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับปี2566 ปีกระต่ายทอง หลายคน รวมถึงภาคธุรกิจต่างตั้งเป้าหมายใหม่รับปีใหม่ โดยเฉพาะภาคธุรกิจที่ยังคงต้องเดินหน้าเปิดแผนธุรกิจต่อไปอย่างต่อเนื่องในปีนี้ ท่ามกลางสมรภูมิรบที่แข่งขันกันดุเดือด ทั้งแบรนด์ไทย แบรนด์เทศต่างตบเท้ากันเข้ามาชิงเค้กกันฝุ่นตลบ เพื่อรับคาดการณ์เศรษฐกิจไทยปี 2566 ที่จะฟื้นตัวดีกว่าหลายประเทศ และกำลังซื้อจะกลับมาดีขึ้นตามลำดับ
โดยสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ประเมินว่า แนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปี 2566 ยังมีทิศทางการฟื้นตัวที่ต่อเนื่องหากเทียบกับปี2565ที่ผ่านมา โดยสศค.ให้กรอบการขยายตัวไว้ที่ 3.2-4.2% ในขณะที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยปี 66 มีโอกาสจะขยายตัวได้ 4.2% ดังนั้นจึงมีโอกาสที่จะเห็นการเติบโตของภาคธุรกิจด้วยเช่นกัน เห็นการแข่งขันพัฒนาคุณภาพสินค้า การสร้างแบรนด์ดิ้ง การแจ้งเกิดของแบรนด์น้องใหม่เพิ่มมากขึ้นในตลาด
แต่…การสร้างแบรนด์ใหม่ในท้องตลาดก็ไม่ใช่เรื่องที่ยากสำหรับผู้ประกอบการ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่ง่ายเช่นกันในยุคที่การแข่งขันสูง เพราะใครๆ ก็ขายของ ใครๆ ก็ทำธุรกิจได้ โดยเฉพาะบนโลกออนไลน์ที่เติบโตอย่างมาก และมีทิศทางที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง
ในปัจจุบันผู้ประกอบการต่างพากันงัดกลยุทธ์ไม้เด็ดมาสู้กันแบบตาต่อตาฟันต่อฟัน เรียกได้ว่าแบรนด์ไหนดี สามารถครองใจลูกค้าได้ ก็ไปต่อได้ แบรนด์ไหนสร้างแบรนด์แล้วไม่ปังก็อาจล้มหายตายจากได้ ฉะนั้นโจทย์ใหญ่ โจทย์หิน ของผู้ประกอบการในปี2566 คือ จะสร้างแบรนด์อย่างไรให้อยู่รอดได้ ยอดขายปัง ทั้งบนโลกออฟไลน์ และออนไลน์ แต่ก่อนจะไปดูว่าเทรนด์การสร้างแบรนด์ปีนี้ไปอย่างไร จะพาย้อนไปดูก่อนว่า 10 ธุรกิจดาวรุ่ง ปี 2566 มีอะไรบ้าง ? เพื่อแนะนำสำหรับใครที่กำลังจะวางแผนทำธุรกิจ
จะทำธุรกิจใหม่ ต้องรู้จักธุรกิจดาวรุ่งก่อน
“รศ.ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย” อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ เปิดเผยว่า 10 ธุรกิจดาวรุ่ง ปี 2566 มีดังนี้ 1.ธุรกิจการแพทย์แความงาม 2.ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ 3.ธุรกิจด้านฟินเทค (fintech) การจัดงานคอนเสิร์ต งานแสดงสินค้า 4.ธุรกิจจัดทำคอนเทนท์ รีวิวสินค้า อินฟูเอ็นเซอร์ ธุรกิจสื่อโฆษณา สื่อออนไลน์ 5.ธุรกิจแพลตฟอร์ม ตัวกลาง ตลาดกลางด้านอิเล็กทรอนิกส์ 6.ธุรกิจประกันภัย ประกันชีวิต 7.ธุรกิจท่องเที่ยว โรงแรม ทัวร์ สถาบันเทิง 8.ธุรกิจตู้หยอดเหรียญ ธุรกิจโลจิสติกส์ เดลิเวอร์รี 9.ธุรกิจอีสปอร์ต ธุรกิจอาหารเสริม ธุรกิจอาหาร เครื่องดื่ม 10.ธุรกิจยานยนต์ ธุรกิจความเชื่อ สายมู หมอดู ฮวงจุ้ย ธุรกิจบันเทิง และธุรกิจเกี่ยวกัญชา ใบกระท่อม
ทั้งหมดที่กล่าวมาเบื้องต้น คือ 10 ธุรกิจดาวรุ่ง ปี 2566 ที่ผู้ประกอบการอาจต้องรู้เทรนด์ก่อนการทำธุรกิจ แต่ไม่เพียงเท่านั้นผู้ประกอบการต้องรู้เทรนด์ในการสร้างแบรนด์ ปี2566 ว่ามีเทรนด์อะไร เพื่อเป็นการทำการบ้านรับมือการแข่งขันในการทำธุรกิจปีกระต่ายทอง ยังเหลือเวลาอีก 12 เดือนที่ต้องสู้ศึกบนสมรภูมิรบกันดุเดือด
5 สิ่งควรรู้รับเทรนด์การค้าใหม่
โดย “มินเทล” ผู้เชี่ยวชาญด้านการวิจัยความต้องการของผู้บริโภค และเหตุผลเบื้องหลัง ได้เผยแพร่ถึง 5 แนวโน้มที่มีผลกระทบต่อตลาดผู้บริโภคของโลกในปี 2566 และอีก 5 ปีจากนี้ โดยได้ให้ความสำคัญกับปัจจัยต่างๆ ดังต่อไปนี้ ปัจจัยด้านอัตลักษณ์ สิทธิ สภาพแวดล้อม ประสบการณ์ เทคโนโลยี ความเป็นอยู่ที่ดี และคุณค่า สำหรับ 5 เทรนด์ที่ควรรู้เรื่องการสร้างแบรนด์ปี2565 มีดังนี้
1.ลูกค้าใส่ใจตัวเองมากขึ้นหลังโควิด-19
แน่นอนว่าโควิด -19 คือตัวเร่งทำให้ผู้บริโภคหันมาใส่ใจตัวเอง รักตัวเอง ให้ความสำคัญกับกับเรื่องสาธารณสุข ความปลอดภัยของส่วนรวม มากขึ้น พร้อมทั้งเริ่มกลับมาสนใจตัวเอง
2.แบรนด์ต้องเข้าว่าผู้บริโภคมีความเหนื่อยล้า
จากการสำรวจพบว่า ผู้บริโภคมีความเหนื่อยล้าจากวิกฤติต่างๆ มีการรับฟังข่าวสาร ผ่านสื่อคอนเทนต์ดิจิทัลมากเกินไป โดยเฉพาะเรื่องเชิงลบ ดังนั้นต้องนำเสนอสินค้าให้เหมาะสมกับลูกค้า
3.ผู้บริโภคส่งต่อพลังให้แก่ผู้คน
จากนี้ไปแบรนด์ควรให้ความสำคัญกับผู้บริโภคมากกว่าเดิม เพราะผู้บริโภคในปัจจุบันกำลังเปลี่ยนแปลงแบรนด์ด้วยเงิน และเสียงของผู้บริโภค จากนี้ไปผู้บริโภคกำลังร่วมลงทุน ร่วมสร้างสรรค์ ร่วมลงความเห็นในการตัดสินใจเพื่อการเปลี่ยนแปลงไปพร้อมกันกับแบรนด์ด้วยเช่นกัน
4.ลูกค้าจะจับจ่ายอย่างรอบคอบขึ้น
จากนี้ไปลูกค้าจะหันมาให้ความสนใจสิ่งที่สำคัญกับตัว และจับจ่ายใช้สอยอย่างระมัดระวังมากขึ้น มีการใช้เงินอย่างฉลาด
5.ผู้บริโภคชื่นชอบสินค้าท้องถิ่นมากขึ้น
จะเห็นได้ว่าผู้บริโภคยุคใหม่หันมาสนใจ และชื่นชอบสินค้าท้องถิ่นมากขึ้น โดยเฉพาะสินค้าที่มีอัตลักษณ์
อีคอมเมิร์ซปี66 จะเกิดอะไรขึ้น
มาดูเทรนด์การสร้างแบรนด์อีคอมเมิร์ซของปี 2566 “นายภาวุธ พงษ์วิทยภานุ” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เพย์ โซลูชั่น จำกัด เผยว่า เทรนด์อีคอมเมิร์ซของปี 2566 รวมถึงพฤติกรรมการซื้อของออนไลน์ พร้อมทั้งโอกาสใหม่ๆ ที่คนทำธุรกิจต้องรู้มีดังนี้
1.ศึกอีมาร์เก็ตเพลสจะจบลง เพราะเจ้าตลาดอีมาร์เก็ตเพลสจะเน้น Growth ใช้เงินลงทุนให้ตัวเองเติบโต มีการปรับให้ทำกำไรชัดเจน
2.มูลค่าค้าออนไลน์ดีดรับท่องเที่ยวฟื้น
3.ฟู้ดดิลิเวอรี่เริ่มเปลี่ยนตัวเองให้เป็นบริการที่มากกว่าอาหาร ทำสงครามการค้าออนไลน์รูปแบบใหม่ก่อตัวขึ้น
4.สินค้าจีนบุกไทยชิงเค้ก
5 DFS (Digital Financial Service) บุกบริการมากขึ้น
6.โฆษณาออนไลน์มีทางเลือกมากขึ้น
7.Short Video Commerce แข่งดุ
8.อีคอมเมิร์ซแพลตฟอร์มยักษ์ใหญ่แข่งขันรุนแรงขึ้น
9.การตลาดแบบบอกต่อเป็นเทรนด์ที่มีการเติบโต