ปี 2024 เริ่มต้นด้วยข่าวร้ายสำหรับคนไอที เมื่อบริษัทเทคโนโลยีทั่วโลกพากันปลดพนักงานเกือบ 30,000 คน สาเหตุหลักจาก การปรับโครงสร้างองค์กรเพื่อลดต้นทุน จากเหตุเศรษฐกิจถดถอย และบริษัทจ้างพนักงานมากเกินไปในช่วงโควิดที่ผ่านมา
บริษัทเทคปลดพนักงานเกือบ 3 หมื่นคนถูกปลดในเดือนมกราคม
หากย้อนกลับไปเมื่อสองปีก่อน โลกเทคโนโลยีเปี่ยมไปด้วยประกายแห่งความหวัง การระบาดของ COVID-19 ขับเคลื่อนการเติบโตอย่างมหาศาล ผู้คนกักตัวอยู่บ้าน เทคโนโลยีกลายเป็นเส้นเลือดใหญ่หล่อเลี้ยงชีวิต บริษัทเทคโนโลยีต่างขยายอาณาจักร จ้างพนักงานใหม่อย่างรวดเร็ว ยุคทองของสายงานนี้มาถึง เหล่า "อาชีพเกี่ยวกับเทค" เป็นดาวจรัสแสง ผู้คนต่างใฝ่ฝันอยากเป็นส่วนหนึ่งของโลกดิจิทัล แต่แล้ว โควิด-19 เริ่มคลี่คลาย โลกกลับมาหมุนตามปกติ ฟองสบู่แห่งความรุ่งเรืองแตกสลาย บริษัทเทคโนโลยีเผชิญความจริงอันโหดร้าย พวกเขามีพนักงานมากเกินจำเป็น ภาระค่าใช้จ่ายถาโถม กำไรหดหาย
คลื่นลูกใหญ่แห่งการเลย์ออฟพนักงาน
ในปี 2022 ถือว่าเป็น คลื่นลูกแรกที่ส่งสัญญาณจนเกิดเสียงคร่ำครวญดังก้องไปทั่ว เพราะกว่า 1,064 แห่ง ที่เป็นบริษัทเทคโนโลยี ตัดสินใจปลดพนักงานเกือบ 165,000 คน และตามมาด้วย ปี 2023 โศกนาฏกรรมยิ่งทวีคูณ 262,500 ชีวิตต้องสูญเสียงาน ยักษ์ใหญ่ในวงการอย่าง Meta, Amazon, Google และ Microsoft ต่างร่วมวงลดจำนวนพนักงาน หลายหมื่นคนต้องเผชิญชะตากรรมอันเลวร้าย พอเข้ามาสู่ต้นเดือน มกราคม 2024 ก็ยังมีบริษัทเทคโนโลยี 107 แห่ง ปลดพนักงาน 29,475 คน แต่ยังน้อยกว่าเดือมกราคมของปี 2023 ซึ่งปลดไปถึง 90,000 คน ขณะที่บริษัทสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีที่ขนาดเล็กกว่า อาทิ เฟล็กซ์พอร์ต (Flexport), โบลต์ (Bolt) หรือ เบร็กซ์ (Brex) ได้ทำการลดขนาดองค์กรลงเพื่อป้องกันการต้องยุติกิจการ สำหรับบริษัทยักษ์ที่ปลดคนในช่วงเวลาที่ผ่านมามีดังนี้
- SAP: ปลดพนักงาน 8,000 คน เพื่อปรับโครงสร้างองค์กร
- PayPal: ลดจำนวนพนักงาน 2,500 คน ปรับขนาดองค์กร
- Microsoft: ปลดพนักงาน 1,900 คน ส่วนใหญ่จากฝั่งเกม คือฝั่ง Activision Blizzard เพื่อลดต้นทุน
- Unity: ปลดพนักงาน 1,800 คน พัฒนาเครื่องมือสำหรับการสร้างเกม
- Wayfair: ปลดพนักงาน 1,650 คน เน้นตัดตำแหน่งงานด้านการจัดการ
- Amazon: ปลดพนักงานหลายร้อยตำแหน่งใน Prime Video, MGM Studios และ Twitch
- Google: ปลดพนักงานประมาณ 1,000 คน จาก YouTube และแผนกฮาร์ดแวร์
- Discord: ปรับลดพนักงานลง 17% หรือ 170 ตำแหน่ง
เวลานี้สะท้อนให้เห็นถึงสัญญาณอันน่ากลัวที่เหล่าพนักงานด้าน เทคโนโลยี ยังคงต้องเผชิญต่อไป เวลานี้การปลดพนักงานกลายเป็นยาขมที่รักษาโรค บริษัทเทคโนโลยีหลายแห่งมีกำไรมากขึ้น ราคาหุ้นพุ่งสูง แผนกต่างๆ ทำงานได้มีประสิทธิภาพ
ถอดบทเรียนจากปรัชญา Do more with less
ทำมากขึ้นด้วยคนน้อยลง: ปรัชญา "Do more with less" กำลังกลายเป็นแนวคิดหลักของบริษัทเทคโนโลยีทั้งเล็กและใหญ่ สะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในอุตสาหกรรมนี้ นาบีล ไฮแอตต์ หุ้นส่วนทั่วไปจากบริษัทร่วมทุน Spark Capital ผู้ลงทุนในบริษัทเทคโนโลยีมากมาย ได้ให้มุมมองที่น่าสนใจเกี่ยวกับ "การเลิกจ้าง" ในปัจจุบัน เขากล่าวว่า "เรากำลังเห็นการเลิกจ้างใน 3 กลุ่มหลัก" ดังนี้
- 1. ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี: มุ่งเน้นการเติบโตและผลกำไรที่มากขึ้น
- 2. บริษัทขนาดกลาง: จ้างพนักงานมากเกินไปในช่วงเฟื่องฟูของธุรกิจ
- 3. สตาร์ทอัป: ต้องการความอยู่รอด
ในอดีต การลดจำนวนพนักงานในธุรกิจเทคโนโลยีนั้นถูกมองว่าเป็นเรื่องเลวร้าย เพราะสถานะและความสำเร็จของบริษัทถูกวัดจากจำนวนพนักงาน บริษัทต่างแข่งขันกันดึงดูดนักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์เก่งๆ ราวกับเป็นสงคราม แต่ตอนนี้ มุมมองนั้นได้เปลี่ยนไป ผู้บริหารเทคโนโลยีจำนวนมากเริ่มยอมรับว่า พวกเขาจ้างพนักงานมากเกินไปในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 และพวกเขาเริ่มเห็นแล้วว่า "การมีพนักงานน้อยลง" นั้นสามารถสร้างผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจได้
การปลดพนักงานในครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี บริษัทต่างๆ กำลังปรับตัวเข้ากับยุคสมัยใหม่ ที่หลายๆบริษัทอาจจะมุ่งเน้นไปที่การ "ทำมากขึ้นโดยใช้คนน้อยลง" พนักงานในสายงานนี้จึงต้องเตรียมพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลง พัฒนาทักษะใหม่ และเรียนรู้ที่จะอยู่รอดท่ามกลางคลื่นลูกใหม่แห่งการ "เลย์ออฟ" นี้
อ้างอิงจาก The New York Times