ทำไมเทสล่าประกาศปลดพนักงานอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด! ปลดคนอีก 693 คน
เทสล่า บริษัทรถยนต์ไฟฟ้าชั้นนำของโลก กำลังเผชิญกับวิกฤตครั้งใหญ่ บริษัทประกาศปลดพนักงานอย่างต่อเนื่อง ส่งผลกระทบต่อพนักงานหลายพันคน สร้างความกังวลต่อนักลงทุนและอนาคตของบริษัท โดยวันนี้ Spotlight จะมา วิเคราะห์ถึงสาเหตุ ที่แท้จริงเบื้องหลังการปลดพนักงานอย่างต่อเนื่องของเทสล่าในเวลานี้
คอนเทนต์แนะนำ
ทำไมเทสล่าประกาศปลดพนักงานอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด! ปลดคนอีก 693 คน
Reuters รายงานว่า บริษัท เทสล่า (TSLA.O) กำลังปลดพนักงาน 693 คน ณ โรงงานในเมืองสปาร์คส์ รัฐเนวาด้า ตามประกาศของรัฐบาล การปลดพนักงานครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนการลดพนักงานทั่วโลกมากกว่า 10% ท่ามกลางยอดขายที่ลดลงและการแข่งขันที่เพิ่มขึ้น ทางบริษัทได้ยื่นเรื่องต่อกรมแรงงาน การฝึกอบรม และการฟื้นฟูสุขภาพของรัฐเนวาด้าเมื่อช่วงต้นสัปดาห์นี้
กฎหมายแรงงานของสหรัฐฯ ระบุอีกว่า บริษัทที่มีพนักงาน 100 คน หรือมากกว่าต้องแจ้งล่วงหน้า 60 วันก่อนการปิดตัวลงหรือการปลดพนักงานครั้งใหญ่
ก่อนหน้านี้ ในเดือนเดียวกัน เทสล่าได้ประกาศปลดพนักงาน 6,020 คนในรัฐเท็กซัสและแคลิฟอร์เนีย บริษัทมีพนักงานทั่วโลกมากกว่า 140,000 คนในช่วงปลายปี 2023 ตามเอกสารที่ยื่นกับหน่วยงานกำกับของฝั่งสหรัฐฯ.
สาเหตุที่ เทสล่าประกาศปลดพนักงานอย่างต่อเนื่อง
เทสล่า บริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้าชั้นนำของโลก ได้ประกาศปลดพนักงานเป็นระยะๆ ตลอดช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา สร้างความกังวลและคำถามมากมายเกี่ยวกับสถานการณ์ภายในองค์กร สำหรับการวิเคราะห์สาเหตุที่แท้จริงของเบื้องหลังการปลดพนักงานอย่างต่อเนื่องนี้ เกิดจากหลายปัจจัยอาทิ
- ภาวะเศรษฐกิจถดถอย: ปัจจัยหลักประการหนึ่งที่ผลักดันให้เทสล่าตัดสินใจปลดพนักงาน คือ ภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก เศรษฐกิจชะลอตัว ส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มสินค้าราคาสูงอย่างรถยนต์ไฟฟ้า สิ่งนี้นำไปสู่ยอดขายที่ลดลงของเทสล่า ซึ่งส่งผลต่อผลประกอบการและบีบให้บริษัทต้องปรับลดค่าใช้จ่าย
- การปรับโครงสร้างองค์กร: เทสลากำลังอยู่ในช่วงปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่ มุ่งเน้นไปที่การเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุน การปรับโครงสร้างนี้ ได้รวมถึงการยุบรวมแผนก ปรับเปลี่ยนกระบวนการทำงาน และลดความซ้ำซ้อน ส่งผลให้มีพนักงานบางส่วนที่ไม่จำเป็นสำหรับโครงสร้างใหม่
- การเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์: เทสลากำลังเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์ธุรกิจ มุ่งเน้นไปที่การผลิตโมเดลรถยนต์ที่มีราคาประหยัดมากขึ้น ขยายฐานลูกค้า และสร้างรายได้จากซอฟต์แวร์และบริการต่างๆ การเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์นี้ส่งผลต่อความต้องการพนักงานบางประเภท
- การแข่งขันที่รุนแรง: ตลาดรถยนต์ไฟฟ้ามีความแข่งขันสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผู้ผลิตรถยนต์รายอื่นๆ ทั่วโลกต่างพัฒนารถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ๆ ออกมาสู่ตลาด สิ่งนี้นำไปสู่แรงกดดันต่อเทสล่าที่ต้องลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตเพื่อรักษาความได้เปรียบในการแข่งขัน
- ปัญหาห่วงโซ่อุปทาน: วิกฤตห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก ส่งผลกระทบต่อเทสล่าเช่นเดียวกับบริษัทอื่นๆ ปัญหาการขาดแคลนชิป ชิ้นส่วน และวัตถุดิบ ทำให้การผลิตชะลอตัว ส่งผลต่อยอดขายและผลประกอบการ บริษัทจึงจำเป็นต้องลดจำนวนพนักงานเพื่อให้สอดคล้องกับกำลังการผลิตที่ลดลง
สุดท้ายนี้ การปลดพนักงานของเทสลากระทบต่อพนักงานที่ถูกเลิกจ้างและครอบครัวของพวกเขา ส่งผลต่อเศรษฐกิจท้องถิ่น สร้างความกังวลต่อนักลงทุน และภาพลักษณ์ของบริษัท อนาคตเทสลากำลังเผชิญกับความท้าทายหลายประการ อย่างไรก็ตาม บริษัทยังมีแผนการเติบโตที่ทะเยอทะยาน มุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า เทสลากำลังพัฒนารุ่นรถใหม่ๆ ขยายโรงงาน และลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ๆ อนาคตของเทสลายังคงมีความไม่แน่นอน แต่บริษัทยังคงมีโอกาสเติบโต
อ้างอิงข้อมูลบ้างส่วนจาก Reuters
