ธุรกิจการตลาด

ร้านอาหารจีน บุกตลาดอาเซียน! Mixue, Haidilao เน้นราคาถูก ครองใจวัยรุ่น

21 ต.ค. 67
ร้านอาหารจีน บุกตลาดอาเซียน! Mixue, Haidilao เน้นราคาถูก ครองใจวัยรุ่น

ใครจะไปคิดว่า วันหนึ่ง ร้านชานมไข่มุกข้างทาง จะกลายเป็นสมรภูมิการค้าที่ดุเดือด ระหว่างร้านอาหารจีน และร้านอาหารท้องถิ่น! การขยายตัวอย่างรวดเร็วของเชนร้านอาหารจากแดนมังกร ไม่ว่าจะเป็น Mixue, Haidilao, หรือ Cotti Coffee กำลังเขย่าวงการอาหารในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยกลยุทธ์ราคาสุดคุ้ม คุณภาพโดนใจ และบริการที่หลากหลาย

ปรากฏการณ์นี้ สะท้อนให้เห็นถึง วิสัยทัศน์ และความสามารถในการปรับตัวของธุรกิจจีน ที่พร้อมบุกตลาดต่างประเทศ และคว้าโอกาสจากการเติบโตทางเศรษฐกิจในภูมิภาคนี้ แต่ในขณะเดียวกัน ก็สร้างความท้าทายให้กับผู้ประกอบการท้องถิ่น ที่ต้องงัดกลยุทธ์เด็ด เพื่อรักษาส่วนแบ่งทางการตลาด บทความนี้ จะพาคุณไปดูเบื้องหลังความสำเร็จของร้านอาหารจีน กลยุทธ์การตลาดที่น่าสนใจ ผลกระทบต่อธุรกิจไทย และบทบาทของภาครัฐ ในการสนับสนุนผู้ประกอบการท้องถิ่น พร้อมบทวิเคราะห์เชิงลึก ที่จะทำให้คุณเข้าใจ ภาพรวมของสมรภูมิร้านอาหาร ในยุคที่การแข่งขัน ไร้พรมแดน

ร้านอาหารจีน บุกตลาดอาเซียน! Mixue, Haidilao เน้นราคาถูก ครองใจวัยรุ่น

ร้านอาหารจีน บุกตลาดอาเซียน! Mixue, Haidilao เน้นราคาถูก ครองใจวัยรุ่น

ดูเหมือนว่ากระแสความนิยมในอาหารแดนมังกรจะยังคงแรงต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งร้านอาหารและเครื่องดื่มสัญชาติจีนที่เน้นความคุ้มค่าคุ้มราคา อาทิ Mixue เจ้าแห่งชานมไข่มุกราคาเบาๆ และ Haidilao ร้านหม้อไฟชื่อดัง กำลังรุกคืบขยายฐานธุรกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างต่อเนื่อง โดยใช้กลยุทธ์ราคาที่เข้าถึงง่าย ดึงดูดใจเหล่าผู้บริโภควัยรุ่น ซึ่งให้ความสำคัญกับเรื่องของราคาเป็นอันดับต้นๆ

ในเวียดนาม Mixue ได้กลายเป็นจุดนัดพบยอดนิยมหลังเลิกเรียนของนักเรียนมัธยมปลาย ด้วยราคาที่สบายกระเป๋า ทำให้วัยรุ่นสามารถจับกลุ่มสังสรรค์ พูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องราวต่างๆ พร้อมกับเพลิดเพลินไปกับเครื่องดื่มรสชาติถูกใจ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย นักเรียนหญิงคนหนึ่งในกรุงฮานอยเล่าว่า "หนูมาที่นี่บ่อยมาก เพราะราคาถูกมาก แถมรสชาติก็อร่อยถูกปากด้วยค่ะ"

ไม่ใช่แค่ราคาที่โดนใจ แต่คุณภาพและรสชาติก็เป็นสิ่งที่ Mixue ให้ความสำคัญ พนักงานร้านสาขาหนึ่งในฮานอยเผยว่า มียอดจำหน่ายเครื่องดื่มเฉลี่ยถึง 500 แก้วต่อวัน และในวันหยุดสุดสัปดาห์หรือช่วงเวลาที่ลูกค้าหนาแน่น ยอดขายพุ่งสูงกว่า 1,000 แก้วเลยทีเดียว! เมนูขายดีที่ครองใจลูกค้าคือ ชาเลมอนผสมวุ้นว่านหางจระเข้ ราคาเพียง 17,000 ด่ง (ประมาณ 25 บาท) ลองเทียบกับร้าน ToCoToCo ซึ่งเป็นแบรนด์เครื่องดื่มชื่อดังของเวียดนาม จะเห็นว่าราคาเครื่องดื่มของ Mixue ถูกกว่าถึง 30% - 50% เรียกได้ว่าถูกกว่าเกือบครึ่ง! จึงไม่น่าแปลกใจที่ Mixue จะได้รับความนิยมอย่างล้นหลามในหมู่วัยรุ่นเวียดนาม

เผยเคล็ดลับความสำเร็จ! Mixue บุกตลาดอาเซียน ด้วยราคาสุดคุ้ม

ร้านอาหารจีน บุกตลาดอาเซียน! Mixue, Haidilao เน้นราคาถูก ครองใจวัยรุ่น

Mixue ไม่ได้เป็นเพียงร้านชานมไข่มุกที่ขายดีทั่วบ้านทั่วเมือง แต่เป็นแบรนด์ที่เข้าใจกลยุทธ์การตลาดและการบริหารจัดการอย่างลึกซึ้ง โดยเฉพาะการเลือกเจาะตลาดเวียดนามเป็นประเทศแรกในปี พ.ศ. 2561 ซึ่งเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูง ด้วยจำนวนประชากรวัยหนุ่มสาว ที่ชื่นชอบการลองของใหม่ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเมืองใหญ่ อย่างฮานอยและโฮจิมินห์ ซึ่งเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ การศึกษา และวัฒนธรรม Mixue เลือกปักหมุดสาขาแรกในย่านที่มีนักเรียนนักศึกษาอาศัยอยู่หนาแน่น ทำให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างรวดเร็ว และเกิดการบอกต่อแบบปากต่อปาก สร้างกระแสความนิยมในเวลาอันรวดเร็ว

นอกจากนี้ การใช้โมเดลธุรกิจแบบแฟรนไชส์ ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยแห่งความสำเร็จ โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งผู้คนมีความสนใจในการเป็นเจ้าของธุรกิจ โมเดลแฟรนไชส์ช่วยให้ Mixue สามารถขยายสาขาได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมาก และยังช่วยลดความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจ ตัวอย่างเช่น ในประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งมีประชากรมากเป็นอันดับ 4 ของโลก Mixue ประสบความสำเร็จอย่างมาก ด้วยจำนวนสาขาที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากสาขาแรกในปี พ.ศ. 2563 จนปัจจุบันมีมากกว่า 2,400 สาขา กระจายอยู่ทั่วประเทศ

ความสำเร็จของ Mixue ไม่ได้เกิดจากการขายสินค้าราคาถูกเพียงอย่างเดียว แต่ยังมาจากการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ โดยการผลิตวัตถุดิบเองในประเทศจีน ซึ่งมีต้นทุนการผลิตต่ำกว่า และควบคุมคุณภาพได้อย่างเข้มงวด ก่อนจะส่งออกไปยังสาขาต่างๆ ทั่วโลก กลยุทธ์นี้ทำให้ Mixue สามารถรักษามาตรฐานรสชาติ และควบคุมราคาสินค้าให้อยู่ในระดับที่แข่งขันได้

นอกจากนี้ Mixue ยังให้ความสำคัญกับการปรับตัวให้เข้ากับวัฒนธรรมท้องถิ่น เช่น การออกแบบร้าน การเลือกเมนู และการจัดโปรโมชั่น เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในแต่ละประเทศ ตัวอย่างเช่น ในประเทศไทย Mixue ได้เพิ่มเมนูเครื่องดื่มรสชาติแบบไทยๆ เช่น ชาไทย ชาเขียว และนมเย็น เพื่อเอาใจลูกค้าชาวไทย และยังมีการจัดโปรโมชั่นร่วมกับแอปพลิเคชันสั่งอาหาร เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้กับลูกค้า

ด้วยกลยุทธ์ทางธุรกิจที่แข็งแกร่ง และความเข้าใจในพฤติกรรมผู้บริโภค ทำให้ Mixue ประสบความสำเร็จในการขยายธุรกิจไปทั่วโลก โดยปัจจุบันมีสาขามากกว่า 36,000 แห่ง และยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง Mixue จึงเป็นตัวอย่างของธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ จากการผสมผสานกลยุทธ์ต่างๆ เข้าด้วยกันอย่างลงตัว

ไม่ใช่แค่ชานมไข่มุก! ร้านอาหารจีนอื่นๆ ก็รุกตลาดอาเซียน

ร้านอาหารจีน บุกตลาดอาเซียน! Mixue, Haidilao เน้นราคาถูก ครองใจวัยรุ่น

ความสำเร็จของ Mixue ได้จุดประกายให้เชนร้านอาหารจีนอื่นๆ เดินหน้าบุกตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่นเดียวกัน โดยเฉพาะร้านกาแฟ Cotti Coffee ที่เข้ามาเปิดสาขาแรกในประเทศไทยเมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ. 2566 ด้วยจุดขายคือ กาแฟคุณภาพดีในราคาสบายกระเป๋า แก้วไซส์ปกติราคาเพียง 45 บาท ถูกกว่ากาแฟเจ้าตลาดอย่าง Cafe Amazon ถึง 20 บาท!

Cotti Coffee เติบโตอย่างรวดเร็วในประเทศจีน ด้วยจำนวนสาขาเกือบ 7,000 แห่ง หลังจากก่อตั้งบริษัทในปี พ.ศ. 2565 และกลายเป็นหนึ่งในแรงขับเคลื่อนสำคัญ ที่ทำให้เกิดการแข่งขันด้านราคากาแฟในประเทศจีน การเข้ามาของ Cotti Coffee ในประเทศไทย จึงเป็นอีกหนึ่งความท้าทายของร้านกาแฟแบรนด์ไทย ที่ต้องปรับตัวเพื่อแข่งขันในตลาด

นอกจากร้านเครื่องดื่ม ร้านอาหารประเภทหม้อไฟ อย่าง Haidilao ก็ได้รับความนิยมอย่างมากในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดย ณ สิ้นเดือนธันวาคม มีสาขามากกว่า 70 แห่ง รวมถึงในประเทศไทย Haidilao โดดเด่นด้วยบริการที่เป็นเลิศ อาหารคุณภาพ และราคาที่สมเหตุสมผล เริ่มต้นที่ประมาณ 370 บาท ลูกค้าสามารถเพลิดเพลินกับบริการฟรี ระหว่างรอคิว เช่น ขนมขบเคี้ยว ไอศกรีม และบริการทำเล็บ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ที่ทำให้ Haidilao แตกต่างจากร้านหม้อไฟทั่วไป

ยูจิ คาโตะ นักวิเคราะห์จาก Nomura Research Institute Thailand มองว่า การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน เป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้เชนร้านอาหารจีน ขยายธุรกิจมายังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูง มีประชากรจำนวนมาก และมีกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง การแข่งขันที่รุนแรงขึ้น จะส่งผลดีต่อผู้บริโภค ที่จะมีตัวเลือกมากขึ้น และได้สินค้าในราคาที่ถูกลง อย่างไรก็ตาม ธุรกิจร้านอาหารท้องถิ่น จำเป็นต้องปรับตัว เพื่อรับมือกับการแข่งขัน และรักษาส่วนแบ่งทางการตลาด

บทวิเคราะห์ การรุกคืบของเชนร้านอาหารจีนในประเทศไทย

ร้านอาหารจีน บุกตลาดอาเซียน! Mixue, Haidilao เน้นราคาถูก ครองใจวัยรุ่น

การขยายตัวของเชนร้านอาหารจีนในประเทศไทย มิใช่ปรากฏการณ์ชั่วคราว หากแต่เป็นแนวโน้มที่พึงพิจารณาอย่างรอบด้าน โดยมีปัจจัยเชิงพลวัต ทั้งในมิติเศรษฐกิจ สังคม และพฤติกรรมผู้บริโภค ซึ่งเกื้อหนุนซึ่งกันและกัน นำไปสู่การเติบโตอย่างมีนัยสำคัญของภาคธุรกิจนี้

ในมิติเศรษฐกิจ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยภายหลังวิกฤตการณ์โควิด-19 ส่งผลให้กำลังซื้อของผู้บริโภค โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น กลุ่มประชากรดังกล่าว มีพฤติกรรมการบริโภคที่เปิดกว้าง พร้อมรับวัฒนธรรม และแนวโน้มใหม่ๆ โดยคำนึงถึงความคุ้มค่า และประโยชน์สูงสุด ซึ่งสอดคล้องกับกลยุทธ์ทางธุรกิจของเชนร้านอาหารจีน ที่มักใช้ราคาที่เข้าถึงง่าย เป็นกลไกสำคัญในการดึงดูดผู้บริโภค

นอกจากนี้ ลักษณะทางสังคมของไทย ที่มีความเปิดกว้าง และยอมรับวัฒนธรรมอาหารที่หลากหลาย เป็นปัจจัยเกื้อหนุน ที่ทำให้ อาหารจีน ซึ่งเป็นอาหารที่คุ้นเคย และได้รับความนิยมในสังคมไทย สามารถเจาะตลาดได้โดยง่าย ยิ่งไปกว่านั้น เชนร้านอาหารจีน ยังมีข้อได้เปรียบในเชิงโครงสร้างต้นทุน ทั้งในด้านวัตถุดิบ และต้นทุนแรงงาน ซึ่งส่งผลให้สามารถกำหนดราคาขายที่ต่ำกว่า และมีขีดความสามารถในการแข่งขันด้านราคา เมื่อเปรียบเทียบกับผู้ประกอบการร้านอาหารท้องถิ่น

ทั้งนี้ กลยุทธ์ทางการตลาด ที่มุ่งเน้นการเข้าถึงผู้บริโภค ผ่านช่องทางที่หลากหลาย เช่น การจัดโปรโมชั่นส่งเสริมการขาย การประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ และการสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์ ให้สอดคล้องกับรสนิยมของคนรุ่นใหม่ ล้วนเป็นปัจจัยเร่ง ที่ช่วยกระตุ้นการเติบโตของเชนร้านอาหารจีน ยิ่งไปกว่านั้น การขยายช่องทางการจัดจำหน่าย ที่ไม่จำกัดเพียงหน้าร้าน แต่ครอบคลุมถึงช่องทางออนไลน์ เช่น การให้บริการผ่านแอปพลิเคชันสั่งอาหาร ยิ่งเป็นการอำนวยความสะดวก และเข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ปัจจัยสนับสนุน ตัวอย่างประกอบ
การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
- เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง - กำลังซื้อของผู้บริโภคโดยรวมปรับตัวสูงขึ้น - คนรุ่นใหม่มีพฤติกรรมเปิดรับวัฒนธรรมอาหารใหม่ๆ - คนรุ่นใหม่ให้ความสำคัญกับความคุ้มค่าด้านราคา
ความหลากหลายทางวัฒนธรรมอาหาร
- สังคมไทยเปิดกว้าง ยอมรับ และให้ความสนใจในวัฒนธรรมอาหารจากต่างชาติ - อาหารจีนมีความคุ้นเคย และรสชาติเป็นที่นิยมในหมู่ผู้บริโภคชาวไทย
โครงสร้างต้นทุนที่ต่ำกว่า
- ข้อได้เปรียบในเชิงโครงสร้างต้นทุน ทั้งในด้านวัตถุดิบ และต้นทุนแรงงาน - สามารถกำหนดราคาขายที่ต่ำกว่า - มีขีดความสามารถในการแข่งขันด้านราคา
กลยุทธ์การตลาดที่เข้าถึงได้ง่าย
- การจัดโปรโมชั่นส่งเสริมการขาย - การประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ - การสร้างภาพลักษณ์แบรนด์ที่ทันสมัย สอดคล้องกับรสนิยมของกลุ่มคนรุ่นใหม่
ช่องทางการจัดจำหน่ายที่หลากหลาย
- การขยายช่องทางการจัดจำหน่าย ทั้งช่องทางหน้าร้าน และช่องทางออนไลน์ - การให้บริการผ่านแอปพลิเคชันสั่งอาหาร

ตารางปัจจัยสนับสนุนการเติบโตของร้านอาหารจีนในประเทศไทย

 

อย่างไรก็ตาม การขยายตัวของเชนร้านอาหารจีน ย่อมส่งผลกระทบต่อธุรกิจร้านอาหารไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ผู้ประกอบการไทย จำเป็นต้องเตรียมพร้อมรับมือกับการแข่งขันที่ทวีความรุนแรง ทั้งในด้านราคา และคุณภาพของสินค้าและบริการ โดยการปรับตัวเชิงรุก ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาเมนูอาหาร การยกระดับคุณภาพการบริการ หรือการสร้างประสบการณ์ที่แตกต่าง และน่าจดจำ เพื่อรักษาฐานลูกค้า และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน

ผลกระทบ ตัวอย่างประกอบ
การแข่งขันที่ทวีความรุนแรง
- ผู้ประกอบการร้านอาหารไทย ต้องเผชิญกับการแข่งขันที่ทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น ทั้งในด้านราคา และคุณภาพของสินค้าและบริการ
ความจำเป็นในการปรับตัว
- ผู้ประกอบการร้านอาหารไทย จำเป็นต้องปรับตัว เพื่อรับมือกับการแข่งขัน - การพัฒนาเมนูอาหาร - การยกระดับคุณภาพการบริการ - การสร้างประสบการณ์ที่โดดเด่น และแตกต่าง - การนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในธุรกิจ
โอกาสในการเรียนรู้
- ธุรกิจร้านอาหารไทย มีโอกาสในการเรียนรู้ และนำกลยุทธ์ที่ประสบความสำเร็จของร้านอาหารจีน มาปรับใช้ - เพื่อพัฒนาธุรกิจของตนเองให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

ตารางผลกระทบของร้านอาหารจีนที่อางส่งผลต่อธุรกิจร้านอาหารในประเทศไทย

 

ในประเด็นนี้ ภาครัฐมีบทบาทสำคัญ ในการส่งเสริม และสนับสนุนผู้ประกอบการไทย ผ่านนโยบาย และมาตรการต่างๆ เช่น การจัดอบรมเพื่อพัฒนาทักษะ การให้ความรู้ด้านการบริหารจัดการ การอำนวยความสะดวกในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน และการส่งเสริมช่องทางการตลาด เพื่อให้ผู้ประกอบการไทย สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างมั่นคง และยั่งยืน

บทบาท ตัวอย่างประกอบ
การส่งเสริม และสนับสนุน
- ภาครัฐควรมีนโยบาย และมาตรการ ในการส่งเสริม และสนับสนุน ผู้ประกอบการร้านอาหารไทย - การจัดอบรมให้ความรู้ - การพัฒนาทักษะ - การอำนวยความสะดวกในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน - การส่งเสริมช่องทางการตลาด
การกำกับดูแล
- ภาครัฐพึง กำกับดูแล ให้ธุรกิจร้านอาหารจีน ดำเนินกิจการภายใต้กรอบกฎหมาย และมาตรฐานที่เกี่ยวข้อง - เพื่อสร้างความเป็นธรรมในการแข่งขัน - และคุ้มครองความปลอดภัยของผู้บริโภค

ตารางบทบาทของภาครัฐ


ถึงแม้การแข่งขันจะทวีความรุนแรง แต่การเข้ามาของเชนร้านอาหารจีน ก็เป็นโอกาสอันดี ที่ผู้ประกอบการไทย จะได้เรียนรู้ และพัฒนา เพื่อยกระดับมาตรฐาน และศักยภาพของตนเอง ในขณะเดียวกัน ผู้บริโภคก็ได้รับประโยชน์ จากการมีทางเลือกที่หลากหลาย สินค้าและบริการที่มีคุณภาพ และราคาที่เหมาะสม

สิ่งสำคัญ คือ การเติบโตของอุตสาหกรรมอาหาร ต้องอยู่บนพื้นฐานของการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยคำนึงถึงผลกระทบในมิติต่างๆ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ในการสร้างสมดุล และขับเคลื่อนการเติบโตของประเทศ กล่าวโดยสรุป การเตรียมความพร้อม และการปรับตัว คือปัจจัยแห่งความสำเร็จ ของธุรกิจร้านอาหารไทย ที่จะช่วยให้สามารถแข่งขัน และเติบโตได้อย่างยั่งยืน ท่ามกลางกระแสการเปลี่ยนแปลง และการแข่งขันที่ไร้พรมแดน

อ้างอิงจาก nikkeiasia

advertisement

Relate Post

SPOTLIGHT