หลังจากมติครม.รัฐบาลนายกฯเศรษฐา ทวีสินนัดแรก มีการพูดถึงแนวคิดการจ่ายเงินเดือนข้าราชการ 2 รอบ ก็มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ออกมาทั้งในแง่ที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยฝั่งที่เห็นด้วย มีเหตุผลเช่นว่า ดีที่จะได้มีเงินไว้ใช้ทุก 15 วัน ไม่ต้องรอนานถึง 30 วัน ส่วนคนที่ไม่ให้ด้วย มองว่า หากคนที่มีภาระหนี้เกิน 50% จะบริหารได้ยากขึ้นกว่าเดิมหรือไม่ เพราะเงินไม่ได้ก้อนเดียวกัน
วันนี้ นายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน เข้าทำงานที่กระทรวงการคลังวันแรกให้รายละเอียดกับแนวคิวจ่ายเงินเดือนข้าราชการ 2 รอบ ของรัฐบาลว่า เป็นเพียงแค่ทางเลือกเท่านั้น คนที่อยากให้เงินเดือนเข้ารอบเดียวทุกสิ้นเดือนก็ยังสามารถทำได้ ไม่ได้เป็นการบังคับแต่เป็นการเสนอทางเลือก
โดยวัตุประสงค์ของแนวคิดนี้ มองว่า การจ่ายเงินเดือนข้าราชการ 2 รอบ คือ วันที่ 15 และ 30 ของเดือน จะเป็นการแบ่งเบาภาระสำหรับคนที่มีหนี้สิน สามารถไปจ่ายหนี้สินได้เร็วขึ้น คนที่เป็นหนี้สามารถแบ่งจ่ายเป็นสองงวดได้ และนโยบายนี้ไม่ได้ใช้งบประมาณเพิ่ม ทางกรมบัญชีกลางกำลังอยู่ระหว่างการทำรายละเอียด ซึ่งทางเลือกนี้บริษัทต่างๆ อาจจะนำไปเป็นทางเลือก ซึ่งถือเป็นทางเลือกที่ดี
อีกมุมหนึ่งรัฐบาลถูกมองว่า มีปัญหากระแสเงินสดหรือไม่เลยต้องใช้แนวทางการจ่ายเงินเดือนข้าราชการ 2 รอบ นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า ไม่ใช่ความจริง การจ่ายเงินเดือนเร็วขึ้นในทุกๆ ครึ่งเดือนและปลายเดือน ถ้าใครไม่มีหนี้ก็สามารถนำเงินไปทำประโยชน์อย่างอื่นได้ ไปลงทุน หรือฝากธนาคารได้ ซึ่งถ้าหากไม่ชอบรูปแบบนี้ก็ยังสามารถเลือกแบบเดิมได้
ลองมาฟังมุมมองของนักวางแผนการเงิน CFP คุณ ราชันย์ ตันติจินดา กันบ้างที่มองถึงข้อดีข้อเสียของการจ่ายเงินเดือนข้าราชการ 2 รอบแบบนี้
โดยรวมแล้วสำหรับคนมีวินัยการเงิน ถือเป็นเรื่องดี เพราะได้เงินมาใช้หรือต่อยอดก่อน แต่สำหรับคนไม่มีวินัย มุมดี คือ อาจเป็นตัวช่วยคุม Budget ได้ก่อน แต่ข้อเสีย คือคนที่มีค่าใช้จ่ายคงที่หรือภาระสูง อาจต้องปรับตัวพอสมควร
ขณะที่นักเศรษศาสตร์ อย่างดร. ปิยศักดิ์ มานะสันต์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิจัยการลงทุน สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด มองว่า ข้าราชการอาจไม่ได้รับบประโยชน์จากมาตรการนี้มากนัก เพราะค่าใช้จ่ายรายงวดต่าง ๆ ถูกกำหนดไว้อยู่แล้ว เช่น ค่าผ่อนบ้าน ผ่อนรถ สินเชื่อประเภทต่างๆ อย่างไรก็ตาม หากมองในแง่ดี ก็จะเป็นการฝึกวินัยการเงินให้ข้าราชการมากขึ้น เพราะต้องออมเพื่อเก็บไว้จ่ายบิลรายเดือนต่าง ๆให้เพียงพอ
สำหรับแนวคิดการจ่ายเงินเดือนข้าราชการ2 รอบนี้ ถูกคาดหมายว่า จะนำมาใช้ในวันที่ 1 ม.ค. 2567 หากไม่มีการเปลี่ยนแปลง ก็เท่ากับว่า ข้าราชการที่เลือกแนวทางจ่าย 2 รอบจะได้รับเงินเดือนในสิ้นเดือนธันวาคม ถัดมาอีก 15 วันจะได้รับเงินเดือนอีก 50% และสิ้นเดือนมกราคมอีก 50%
มองในแง่ความเป็นจริง นิสัยทางการเงินของคนมีหลายประเภทหากเราเป็นกลุ่มคนที่ไม่ได้มีปัญหาทางการเงินใดๆ การได้เงินเดือน 2 รอบ ก็แปลว่า อาจกระตุ้นให้เราจับจ่ายใช้สอย 2ครั้ง เช่น ปกติเคยไปกินข้าวกับเพื่อนวันเงินเดือนออก จากนี้ไปแปลว่าสามารถไปได้ 2 รอบต่อเดือน ย้ำว่าในกรณีเราไม่ได้มีปัญหาการเงิน วิธีแบบนี้จะถือว่ากระตุ้นเศรษฐกิจอีกทางหนึ่ง
ส่วนอีกกลุ่มหนึ่งคนที่มีภาระหนี้สิน การแบ่งจ่ายเงินเดือน 2 รอบ หากในฝั่งข้าราชการที่มีการหักจากเงินเดือนอยู่แล้ว เชื่อว่า รูปแบบการจ่ายหนี้จะต้องถูกปรับแบ่งเป็น 2 ครั้งเช่นกัน นั่นแปลว่าการคิดดอกเบี้ยต่อครั้งจะถูกคำนวณจาก 15 วันไม่ได้ยาว1 เดือนเหมือนเดิมเ ท่ากับการจ่ายดอกเบี้ยต่อครั้งก็จะลดลง
แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงก็คือ กลุ่มคนที่มีหนี้ และไม่มีวินัยการเงิน คุณอาจจะใช้จ่ายเงินจนไม่เหลือไปถึงการจ่ายหนี้ ปัญหาการผิดนัดชำระหนี้ก็อาจจะเกิดขึ้นได้เหมือนกัน
ส่วนหนักสุดคือ คนเป็นหนี้นอกระบบ การแบ่งจ่ายเงินเดือน 2 รอบนั้น ต่อไปเจ้าหนี้จะทวงหนี้ถี่ขึ้น จากเดิมมา1 รอบต่อเดือน ต่อไปจะกลายเป็น 2 รอบเหมือนกัน
แนวคิดจ่ายเงินเดือนข้าราชการ 2 รอบ ระยะยาวแทบจะไม่มีอะไรเปลี่ยนเพราะที่จริงๆเงินเดือนเราก็ยังได้เท่าเดิม แต่ระยะสั้นคงมีผลกับคนที่ภาระทางการเงินหนักๆต้องวางแผนบริหารจัดการให้ดี …..ข้อดีข้อเสียมีไว้ให้พิจาณาเพราะนี่คือทางเลือก