ช่วงนี้ราคาน้ำมันในบ้านเรามีการปรับขึ้นเป็นระยะ โดยเฉพาะกลุ่มเบนซิน แต่ส่วนของราคาดีเซล ถูกตรึงไว้ตลอดไม่เกิน 30 บาท ล่าสุดต้องลุ้น เพราะ กระทรวงพลังงาน ออกมาระบุว่า มีโอกาสจะต้องขยับราคาดีเซลขึ้นอีกให้เกิน 30 บาทต่อลิตร เพราะกองทุนน้ำมันอุดหนุนไม่ไหวแล้ว ดังนั้น จึงฝาก ครม.เร่งตัดสินใจหาทางอื่น เช่น ใช้งบกลางอุดหนุน หรือ ลดภาษีภาษีสรรพสามิตร
สถานการณ์ราคาน้ำมันดีเซลในบ้านเรา ถูกตรึงไว้ไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตรมาตั้งแต่เดือนกันยายน ปีที่แล้ว ซึ่งไม่ตรงกับสถานการณ์จริง ที่บางช่วงราคาน้ำมันดีเซลที่แท้จริงเคยสูงถึง 45 บาทต่อลิตร จากราคาตลาดโลกที่มีความผันผวนสูง ทั้งภาวะความสงครามที่มีความยืดเยื้อ และจากการลดกำลังการผลิตน้ำมันของกลุ่มโอเปก แต่เพราะกระทรวงพลังงานมีกลไกช่วยเหลือ ผ่านกลไกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงอย่างต่อเนื่อง คือ เอาเงินกองทุนน้ำมันมาอุดหนุน จนปัจจุบัน กองทุนน้ำมันติดลลบเกือบแสนล้านบาทแล้ว
ล่าสุดวันนี้นายวีรพัฒน์ เกียรติเฟื่องฟู โฆษกกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า จะนำเรื่องเข้าหารือในครม. เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือ ประชาชนไปพร้อมกับการลดภาระหนี้ของกองทุนฯ โดยเสนอให้ครม.พิจารณา หาทางอื่นมาดูแลราคาดีเซลต่อ เช่น หางบประมาณกลาง หรือ ลดภาษีสรรพสามิตเพิ่ม
“ แต่หากไม่มีงบประมาณจากส่วนอื่นเข้ามาช่วย เช่น งบกลาง หรือ การลดอัตราภาษีสรรพสามิต เบื้องต้นคาดว่ากองทุนฯ จะต้องปรับลดการชดเชยราคาน้ำมันลง 1-2 บาทต่อลิตร ซึ่งจะส่งผลให้ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้น แต่เพื่อมิให้เป็นภาระกับประชาชนมากเกินไป จึงจะมีการปรับลดการชดเชยราคาน้ำมันดีเซลแบบขั้นบันได”
ข้อมูล ณ วันที่ 24 มีนาคม 2567 สถานะกองทุนน้ำมันชื้อเพลิงติดลบกว่า 98,000 ล้านบาท โดยปัจจุบันมีการชดเชยราคาน้ำมันดีเซลอยู่ที่ 4.17 บาทต่อลิตร คิดเป็นจำนวนเงินที่กองทุนฯ ต้องจ่ายประมาณ 8,700 ล้านบาทต่อเดือน จึงขอให้ประชาชนเข้าใจในสถานการณ์ ณ เวลานี้ด้วย
อย่างไรก็ตาม นายวิศักดิ์ วัฒนศัพท์ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ระบุว่าช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านคือ ช่วง 2-3 วันนี้ 31 มี.ค. – 1 เม.ย. 2567 ยังไม่มีการดำเนินการอย่างแน่นอน คือ ราคาน้ำมันดีเซลยังไม่ปรับขึ้นเกิน 30 บาทต่อลิตร
ที่มา สนพ.