ในโลกของการลงทุน ทองคำได้พิสูจน์ตัวเองว่า เป็นสินทรัพย์ที่มั่นคงและคุ้มค่าในระยะยาว โดยเฉพาะในปี 2567 ที่ราคาทองคำทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดใหม่อย่างน่าประทับใจ ทำให้นักลงทุนทั้งมือใหม่และมืออาชีพต้องจับตามอง
การเปลี่ยนแปลงของราคาทองคำในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา แสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่โดดเด่นและความสำคัญของทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ในบทความนี้ เราจะมาสำรวจปัจจัยสำคัญที่ทำให้ทองคำกลายเป็น “สินทรัพย์ร้อนแรง” แห่งปี 2567
ตั้งแต่ปี 2558 ราคาทองคำในประเทศไทยเริ่มต้นที่ระดับ 18,450 บาท ต่อบาททองคำ และเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในระยะยาว โดยในปี 2567 ราคาทองคำได้พุ่งสูงสุดถึง 44,550 บาท สะท้อนถึงการเติบโตที่น่าประทับใจถึง 48.5% ในช่วงเวลา 10 ปี
ในช่วงนี้ ทองคำฟื้นตัวจากภาวะราคาลดลง โดยในปี 2560 ราคาปิดที่ 21,650 บาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าถึง 1,850 บาท
ช่วงเวลานี้ถือเป็นก้าวกระโดดสำคัญ ราคาทองคำพุ่งสูงถึง 27,050 บาท ในปี 2562 เพิ่มขึ้นถึง 5,300 บาท จากปี 2561
ในช่วงที่โลกเผชิญวิกฤตโควิด-19 ราคาทองคำแตะจุดสูงสุดใหม่ที่ 33,400 บาท ในปี 2564 ซึ่งสะท้อนถึงความมั่นใจของนักลงทุนในทองคำ
แม้จะมีช่วงที่ราคาทองคำปรับลดลงในปี 2565 (-500 บาท) แต่ภาพรวมยังคงเป็นขาขึ้นอย่างแข็งแกร่ง โดยในปี 2567 ราคาทองคำพุ่งแตะระดับ 44,550 บาท ซึ่งเป็นจุดสูงสุดใหม่
ความสำเร็จของทองคำในปี 2567 มาจากปัจจัยหลายประการ ได้แก่
1. เศรษฐกิจโลกที่ยังไม่แน่นอน
ความขัดแย้งทางการเมืองและความเสี่ยงทางเศรษฐกิจทั่วโลกทำให้นักลงทุนเลือกถือครองทองคำเพื่อป้องกันความเสี่ยง
2. ค่าเงินดอลลาร์อ่อนตัว
การอ่อนค่าของดอลลาร์สหรัฐเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยหนุนราคาทองคำให้ปรับตัวสูงขึ้น
3. ความต้องการทองคำในตลาดโลก
ประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ เช่น อินเดียและจีน มีความต้องการทองคำเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้งในด้านการลงทุนและการบริโภค
บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (YLG) ได้ประเมินว่าในปี 2568 ราคาทองคำยังคงมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อ โดยให้เป้าหมายราคาที่ 3,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ หรือประมาณ 50,000 บาทต่อบาททองคำ แม้จะมีแรงขายทำกำไรในระหว่างทาง แต่ภาพรวมยังถือว่าแข็งแกร่ง
1. กลุ่ม BRICS กับเงินดิจิทัลที่มีทองคำหนุนหลัง
กลุ่ม BRICS (บราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน และแอฟริกาใต้) กำลังพัฒนาเงินดิจิทัลที่หนุนหลังด้วยทองคำ เพื่อสร้างระบบการเงินที่ลดการพึ่งพาดอลลาร์สหรัฐ
2. ธนาคารกลางเข้าซื้อทองคำอย่างต่อเนื่อง
ธนาคารกลางหลายแห่งยังคงสะสมทองคำ โดยเฉพาะจีนที่กลับเข้าซื้อทองคำในปลายปี 2567
3. ปัจจัยด้านภูมิรัฐศาสตร์
ความตึงเครียดในตะวันออกกลางและการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในสหรัฐ ส่งผลให้นักลงทุนหันมาถือสินทรัพย์ปลอดภัย
4. นโยบายดอกเบี้ยขาลง
หากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ลดอัตราดอกเบี้ยต่อเนื่อง จะยิ่งสนับสนุนราคาทองคำให้ปรับตัวสูงขึ้น
ในช่วงเทศกาลต้อนรับปีใหม่ 2568 YLG เปิดตัวโปรโมชั่นพิเศษสำหรับนักลงทุนที่สนใจเปิดบัญชีซื้อขายทองคำ:
1. ลูกค้าใหม่
• ฟรี! กระปุกออมสิน เมื่อเปิดพอร์ตและวางเงินขั้นต่ำ 50,000 บาท
• ฟรี! แก้วน้ำเก็บความเย็น YLG เมื่อซื้อขายทองคำแท่งขั้นต่ำ 100 บาททอง
2. ลูกค้าเก่า
• แนะนำเพื่อนเปิดพอร์ตและซื้อขายทองคำ รับฟรีแก้วน้ำเก็บความเย็น YLG
โปรโมชั่นนี้เริ่มตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคม 2567 ถึง 31 มีนาคม 2568
ทองคำในปี 2567 และแนวโน้มในปี 2568 แสดงให้เห็นว่าเป็นสินทรัพย์ที่มีความมั่นคงและให้ผลตอบแทนสูงในระยะยาว ปัจจัยสนับสนุนที่แข็งแกร่ง เช่น นโยบายกลุ่ม BRICS และแนวโน้มดอกเบี้ยขาลง ยังคงผลักดันให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น
หากคุณกำลังมองหาสินทรัพย์เพื่อสร้างความมั่นคงทางการเงิน ทองคำยังคงเป็นคำตอบที่ดีสำหรับปี 2568!