Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
‘ทองคำ’ สินทรัพย์ร้อนแรงที่สุดแห่งปี 2567
โดย : มนันพัทธ์ ธนนันท์พร

‘ทองคำ’ สินทรัพย์ร้อนแรงที่สุดแห่งปี 2567

31 ธ.ค. 67
15:58 น.
|
527
แชร์

ในโลกของการลงทุน ทองคำได้พิสูจน์ตัวเองว่า เป็นสินทรัพย์ที่มั่นคงและคุ้มค่าในระยะยาว โดยเฉพาะในปี 2567 ที่ราคาทองคำทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดใหม่อย่างน่าประทับใจ ทำให้นักลงทุนทั้งมือใหม่และมืออาชีพต้องจับตามอง

การเปลี่ยนแปลงของราคาทองคำในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา แสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่โดดเด่นและความสำคัญของทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ในบทความนี้ เราจะมาสำรวจปัจจัยสำคัญที่ทำให้ทองคำกลายเป็น “สินทรัพย์ร้อนแรง” แห่งปี 2567

การเปลี่ยนแปลงของราคาทองคำในรอบ 10 ปี

ตั้งแต่ปี 2558 ราคาทองคำในประเทศไทยเริ่มต้นที่ระดับ 18,450 บาท ต่อบาททองคำ และเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในระยะยาว โดยในปี 2567 ราคาทองคำได้พุ่งสูงสุดถึง 44,550 บาท สะท้อนถึงการเติบโตที่น่าประทับใจถึง 48.5% ในช่วงเวลา 10 ปี

จุดเด่นในแต่ละช่วงเวลา

1. ปี 2558-2560:

ในช่วงนี้ ทองคำฟื้นตัวจากภาวะราคาลดลง โดยในปี 2560 ราคาปิดที่ 21,650 บาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าถึง 1,850 บาท

2. ปี 2561-2562:

ช่วงเวลานี้ถือเป็นก้าวกระโดดสำคัญ ราคาทองคำพุ่งสูงถึง 27,050 บาท ในปี 2562 เพิ่มขึ้นถึง 5,300 บาท จากปี 2561

3. ปี 2563-2564:

ในช่วงที่โลกเผชิญวิกฤตโควิด-19 ราคาทองคำแตะจุดสูงสุดใหม่ที่ 33,400 บาท ในปี 2564 ซึ่งสะท้อนถึงความมั่นใจของนักลงทุนในทองคำ

4. ปี 2565-2567:

แม้จะมีช่วงที่ราคาทองคำปรับลดลงในปี 2565 (-500 บาท) แต่ภาพรวมยังคงเป็นขาขึ้นอย่างแข็งแกร่ง โดยในปี 2567 ราคาทองคำพุ่งแตะระดับ 44,550 บาท ซึ่งเป็นจุดสูงสุดใหม่

ปัจจัยที่ทำให้ทองคำร้อนแรงในปี 2567

ความสำเร็จของทองคำในปี 2567 มาจากปัจจัยหลายประการ ได้แก่

1. เศรษฐกิจโลกที่ยังไม่แน่นอน

ความขัดแย้งทางการเมืองและความเสี่ยงทางเศรษฐกิจทั่วโลกทำให้นักลงทุนเลือกถือครองทองคำเพื่อป้องกันความเสี่ยง

2. ค่าเงินดอลลาร์อ่อนตัว

การอ่อนค่าของดอลลาร์สหรัฐเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยหนุนราคาทองคำให้ปรับตัวสูงขึ้น

3. ความต้องการทองคำในตลาดโลก

ประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ เช่น อินเดียและจีน มีความต้องการทองคำเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้งในด้านการลงทุนและการบริโภค

แนวโน้มทองคำปี 2568: ลุ้นแตะ 3,000 ดอลลาร์

บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (YLG) ได้ประเมินว่าในปี 2568 ราคาทองคำยังคงมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อ โดยให้เป้าหมายราคาที่ 3,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ หรือประมาณ 50,000 บาทต่อบาททองคำ แม้จะมีแรงขายทำกำไรในระหว่างทาง แต่ภาพรวมยังถือว่าแข็งแกร่ง

4 ปัจจัยสนับสนุนหลักที่หนุนราคาทองคำในปี 2568

1. กลุ่ม BRICS กับเงินดิจิทัลที่มีทองคำหนุนหลัง

กลุ่ม BRICS (บราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน และแอฟริกาใต้) กำลังพัฒนาเงินดิจิทัลที่หนุนหลังด้วยทองคำ เพื่อสร้างระบบการเงินที่ลดการพึ่งพาดอลลาร์สหรัฐ

2. ธนาคารกลางเข้าซื้อทองคำอย่างต่อเนื่อง

ธนาคารกลางหลายแห่งยังคงสะสมทองคำ โดยเฉพาะจีนที่กลับเข้าซื้อทองคำในปลายปี 2567

3. ปัจจัยด้านภูมิรัฐศาสตร์

ความตึงเครียดในตะวันออกกลางและการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในสหรัฐ ส่งผลให้นักลงทุนหันมาถือสินทรัพย์ปลอดภัย

4. นโยบายดอกเบี้ยขาลง

หากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ลดอัตราดอกเบี้ยต่อเนื่อง จะยิ่งสนับสนุนราคาทองคำให้ปรับตัวสูงขึ้น

โปรโมชั่นพิเศษสำหรับนักลงทุนทองคำ

ในช่วงเทศกาลต้อนรับปีใหม่ 2568 YLG เปิดตัวโปรโมชั่นพิเศษสำหรับนักลงทุนที่สนใจเปิดบัญชีซื้อขายทองคำ:

1. ลูกค้าใหม่

• ฟรี! กระปุกออมสิน เมื่อเปิดพอร์ตและวางเงินขั้นต่ำ 50,000 บาท

• ฟรี! แก้วน้ำเก็บความเย็น YLG เมื่อซื้อขายทองคำแท่งขั้นต่ำ 100 บาททอง

2. ลูกค้าเก่า

• แนะนำเพื่อนเปิดพอร์ตและซื้อขายทองคำ รับฟรีแก้วน้ำเก็บความเย็น YLG

โปรโมชั่นนี้เริ่มตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคม 2567 ถึง 31 มีนาคม 2568

สรุป: ทองคำยังคงเป็นสินทรัพย์ที่น่าลงทุน

ทองคำในปี 2567 และแนวโน้มในปี 2568 แสดงให้เห็นว่าเป็นสินทรัพย์ที่มีความมั่นคงและให้ผลตอบแทนสูงในระยะยาว ปัจจัยสนับสนุนที่แข็งแกร่ง เช่น นโยบายกลุ่ม BRICS และแนวโน้มดอกเบี้ยขาลง ยังคงผลักดันให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น

หากคุณกำลังมองหาสินทรัพย์เพื่อสร้างความมั่นคงทางการเงิน ทองคำยังคงเป็นคำตอบที่ดีสำหรับปี 2568!

แชร์
‘ทองคำ’ สินทรัพย์ร้อนแรงที่สุดแห่งปี 2567