‘ความไม่แน่นอน’ คือ คำที่เราได้ยินบ่อยที่สุดในปี 2025 (เเม้เพิ่งผ่านไปเเค่ 2 เดือน) แต่หากถามว่าไม่แน่นอนเรื่องอะไร? แน่นอนว่าสิ่งแรกคือ The Return of Donal Trump หรือ การกลับมาของประธานธิบดีสหรัฐหน้าเก่าอย่าง โดนัล ทรัมป์ การที่ทรัมป์กลับมาส่งผลต่อการค้าและเศรษฐกิจโลกในแบบที่เราอาจจะคาดการณ์ได้ยาก หรือหลายๆคนมองว่าเราอยู่ในยุคของ ‘สงครามการค้า’ จากการตั้งกำแพงภาษี นี่ยังไม่รวมเรื่องปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ สงครามระหว่างประเทศ หรือปัญหาอาชญากรรมที่คนไทยหวาดกลัวกันอยู่ตอนนี้ อย่าง ‘แก๊งคอลเซ็นเตอร์’
คำถามคือ สำหรับนักลงทุน ปี 2025 นี้หากมองเป็นวิกฤตจากความไม่แน่นอน เราก็ควรรักษากระแสเงินสด เพราะการลงทุนในช่วงนี้อาจมีความเสี่ยงที่สูงเกินไป แต่หากเรามองเป็นโอกาส ผ่านการศึกษาและจับตามองอย่างใกล้ชิด เราก็อาจสามารถตัดสินใจลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพและลดความเสี่ยงได้
บทความนี้ SPOTLIGHT จึงอยากชวนทุกคนมาดู 4 เทรนด์ที่ต้องจับตาในปี 2025 เเละเจาะลึกอนาคตสินทรัพย์ดิจิทัลในปี 2025 โดยได้สรุปสาระสำคัญมาจากงานสัมมนา MERKLE MAGNIFICENCE: Potential Unlocked: Investing in Tomorrow's Wealth
คุณกวี ชูกิจเกษม ประธานเจ้าหน้าที่ สายการบริหารพอร์ตการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ พาย ได้มองว่าปี 2025 มาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่ที่คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อทุกภาคส่วนของโลก การทำความเข้าใจแนวโน้มและโอกาสที่กำลังจะเกิดขึ้นจึงเป็นสิ่งสำคัญยิ่งสำหรับผู้ประกอบการ นักลงทุน และผู้กำหนดนโยบาย โดย มี 4 เทรนด์ที่เราควรต้องจับตามองในปี 2025 ดังนี้ :
ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อต้นทุนทางการเงินและอาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลง Economic Landscape อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่าผลตอบแทนจากการลงทุนในสินทรัพย์ทุกประเภทจะยังคงเป็นบวกในระยะยาว
ซึ่งประกอบด้วยบราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน และแอฟริกาใต้ กำลังท้าทายบทบาทของสหรัฐฯ ในฐานะผู้นำเศรษฐกิจโลก การเปลี่ยนแปลงนี้เห็นได้จากการที่กลุ่ม BRICS มีบทบาทมากขึ้นในการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น เทคโนโลยีควอนตัม ซึ่งอาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างลึกซึ้ง
เทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น คอมพิวเตอร์ควอนตัมและพลังงานหมุนเวียน กำลังเป็นตัวขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจที่สำคัญ คอมพิวเตอร์ควอนตัมมีศักยภาพในการปฏิวัติอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น การแพทย์ การเงิน และวิทยาศาสตร์ ในขณะที่พลังงานหมุนเวียนกำลังกลายเป็นแหล่งพลังงานที่สำคัญมากขึ้น เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้สร้างโอกาสใหม่ๆ สำหรับธุรกิจและนักลงทุน
การเปลี่ยนแปลงนี้สร้างความท้าทายทางเศรษฐกิจและสังคม เช่น การเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายด้านการดูแลสุขภาพและการขาดแคลนแรงงาน อย่างไรก็ตาม สังคมผู้สูงอายุยังสร้างโอกาสใหม่ๆ สำหรับธุรกิจที่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้สูงอายุได้
ทั้งนี้ ประเทศไทยมีศักยภาพในการได้รับประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจเหล่านี้ การทำความเข้าใจ การปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลง และการใช้ประโยชน์จากจุดแข็งเหล่านี้จะช่วยให้ประเทศไทยเติบโตทางเศรษฐกิจและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน เป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จในอนาคต
ในขณะที่โลกของเรากำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม และนำไปสู่การลงทุน ซึ่งเป็นช่วงเวลาแห่งการถ่ายโอนความมั่งคั่งครั้งยิ่งใหญ่ ส่งผลให้สินทรัพย์ดิจิทัลเข้ามามีบทบาทสำคัญในโลกการเงินมากขึ้น
โดยคุณพีระสิทธิ์ จิวะพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมอร์เคิล แคปปิตอล เชื่อว่า ภายใน 5 ปี ข้างหน้า (พ.ศ. 2573) เจนเนอเรชันมิลเลนเนียลจะก้าวขึ้นมาเป็นผู้ถือครองความมั่งคั่งรายใหญ่ คิดเป็นสัดส่วนมากกว่าคนรุ่นก่อนหน้าถึง 5 เท่า ปรากฏการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคมที่กำลังส่งผลกระทบต่อรูปแบบการลงทุน
Bitcoin ETF เปิดประตูสู่ยุคใหม่ของสินทรัพย์ดิจิทัล การอนุมัติ Bitcoin ETF โดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐอเมริกา (SEC) เมื่อเดือนมกราคม 2567 ถือเป็นหมุดหมายสำคัญที่เปิดโอกาสให้นักลงทุนเข้าถึง Bitcoin ได้อย่างสะดวกและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้มูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการ (AUM) ของ Bitcoin ETF พุ่งสูงขึ้นแตะระดับ 115 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (3.89 ล้านล้านบาท) ในปัจจุบัน
ซึ่งจากข้อมูลของ Companiesmarketcap, บิทคอยน์ (Bitcoin) ได้รับการจัดอันดับให้เป็นสินทรัพย์ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 7 ของโลก ด้วยมูลค่าตลาดรวมประมาณ 1.912 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (64.77 ล้านล้านบาท) เป็นรองเพียงสินทรัพย์อย่างทองคำ หุ้นของบริษัท Apple (AAPL) หุ้นของบริษัท Nvidia (NVDA) หุ้นของบริษัท Microsoft (MSFT) หุ้นของบริษัท Amazon (AMZN) และหุ้นของบริษัท Google (GOOG) เท่านั้น
คุณพีระสิทธิ์ ได้แชร์มุมมองต่อว่า ตอนนี้ความสนใจในสินทรัพย์ดิจิทัลไม่ได้จำกัดอยู่เพียงนักลงทุนรายย่อยอีกต่อไป สถาบันการเงินขนาดใหญ่ทั่วโลกกำลังให้ความสนใจและเริ่มเข้ามามีส่วนร่วมในตลาดนี้ คำถามสำคัญคือ การเพิ่ม Bitcoin และ Ethereum เข้ามาในพอร์ตโฟลิโอการลงทุนแบบดั้งเดิมจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและผลตอบแทนให้กับพอร์ตโฟลิโอได้อย่างไร ?
ส่วนโอกาสในประเทศไทยนั้น ประเทศไทยมีศักยภาพในการเป็นศูนย์กลางทางการเงินของภูมิภาค รัฐบาลไทยได้เล็งเห็นถึงโอกาสนี้และมีมติเห็นชอบหลักการของร่างพระราชบัญญัติศูนย์กลางการประกอบธุรกิจทางการเงิน เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2568 โดยมีเป้าหมายเพื่อดึงดูดผู้ประกอบธุรกิจทางการเงินเข้ามาลงทุนในประเทศไทย ซึ่งรวมถึงธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลด้วย
อนาคตของสินทรัพย์ดิจิทัลและบทบาทของสินทรัพย์ดิจิทัลในปี 2568 เต็มไปด้วยความท้าทายและโอกาส ความเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี กฎระเบียบ และนโยบาย จะเป็นปัจจัยสำคัญที่กำหนดทิศทางของตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลในอนาคต การตัดสินใจว่าจะ "เสี่ยง" หรือ "เสียโอกาส" อยู่ในมือของนักลงทุนทุกคน
คุณพีรพัฒน์ หาญคงแก้ว ประธานเจ้าหน้าที่แนะนำการลงทุน บริษัท คริปโตมายด์ แอดไวเซอรี่ จำกัด ได้เล่าว่าสถานการณ์ปัจจุบันของตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลในปีนี้กำลังเป็นที่จับตามองอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับราคา Bitcoin ที่ปัจจุบันอยู่ที่ 43,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ข้อมูล ณ วันที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568) นักวิเคราะห์กำลังพิจารณาถึงความเป็นไปได้ที่ตลาดจะเข้าสู่ช่วง"Roundtrip" หรือภาวะที่ราคาปรับตัวขึ้นไปถึงจุดสูงสุดแล้วกลับลงมาที่จุดเดิมอีกครั้ง
ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลในปี 2025 กำลังเผชิญกับความท้าทายและความไม่แน่นอนหลายประการ นักลงทุนควรจับตาดูสัญญาณต่างๆ อย่างใกล้ชิด
สัญญาณที่ต้องจับตา ได้แก่
สำหรับกลยุทธ์การลงทุนที่เหมาะสม หากปี 2025 เป็นตลาดขาขึ้นเต็มตัว สิ่งสำคัญที่สุดคือการเก็บกำไร นักลงทุนควรพิจารณาช่วงเวลาที่อัตราส่วน MVRV สูงกว่า 3 ซึ่งโดยเฉลี่ยแล้วจะมีระยะเวลาประมาณ 100 วันให้เก็บกำไร สิ่งที่น่าสนใจคือ Altcoin Season ในครั้งนี้มีความแตกต่างจากครั้งก่อน ๆ เนื่องจากตลาดมีผลิตภัณฑ์ที่คล้ายกันมากเกินไป ทำให้มี Altcoinจำนวนน้อยมากที่สามารถสร้างความแตกต่างได้อย่างโดดเด่น