ตลาดหุ้นไทยเปิดทำการวันแรกหลังหยุดยาว (8/4/68) เปิดมาดัชนี SET ร่วงลงทันที 51 จุด หรือ 4.57% มาอยู่ที่ 1,073 จุด สะท้อนแรงกดดันจากตลาดหุ้นต่างประเทศที่ร่วงหนักก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะตลาดหุ้นฮ่องกงและจีน ซึ่งทรุดตัวอย่างรุนแรงจากความตึงเครียดด้านนโยบายการค้า และกระแสคาดการณ์เศรษฐกิจโลกชะลอตัว
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2568 ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้ออกมาตรการฉุกเฉินเพื่อรองรับความผันผวนในตลาด ได้แก่
โดยมาตรการดังกล่าวมีผลตั้งแต่วันที่ 8–11 เมษายน 2568 และจะมีการประเมินสถานการณ์ตลาดทุกวัน เพื่อปรับใช้ให้เหมาะสมต่อไป
ขณะที่วันนี้รัฐบาลไทย จะมีการหารือถึงแนวทางในการไปเจรจากับสหรัฐอเมริกา ซึ่งนายกรัฐมนตรี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร จะเป็นประธานการประชุม
ส่วนบรรยากาศตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่ ฟื้นตัวขึ้นแล้ว หลังจากดิ่งหนักเมื่อวาน โดยเฉพาะตลาดหุ้นฮ่องกที่ลงถึง13%
- ดัชนีนิกเกอิ ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เปิดที่ระดับ 31,729.11 จุด เพิ่มขึ้น 592.53 จุด หรือ +1.90%
- ดัชนีฮั่งเส็ง ตลาดหุ้นฮ่องกง เปิดที่ระดับ 20,157.52 จุด เพิ่มขึ้น 329.22 จุด หรือ +1.66%
- ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิต ตลาดหุ้นจีน เปิดที่ 3,094.26 จุด ลดลง 2.32 จุด หรือ -0.07%
บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) ประเมินว่าตลาดหุ้นไทยกำลังเผชิญแรงกดดันจากปัจจัยมหภาคหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ล่าช้า ความเข้มงวดของนโยบายการเงิน และประสิทธิภาพของนโยบายการคลังที่ลดลง ประกอบกับแรงกดดันจากมาตรการภาษีศุลกากรระหว่างประเทศ จึงได้ปรับลดเป้าหมายดัชนี SET ปี 2025 ลงจาก 1,460 จุด เหลือ 1,230 จุด ซึ่งสะท้อนอัพไซด์จากระดับปัจจุบันเพียงราว 5%
นอกจากนี้ KKP เตือนว่า มีความเสี่ยงที่ดัชนี SET จะปรับตัวลงไปทดสอบระดับ 1,000 จุด หากเศรษฐกิจไทยยังคงชะลอตัว โดยเฉพาะในไตรมาส 2/2025 ที่อาจเกิด "growth shock" จากภาคการท่องเที่ยวที่ซบเซา การบริโภคที่อ่อนแรง การส่งออกที่ถูกกระทบจากมาตรการภาษี และการลงทุนที่ไม่ฟื้นตัว
KKP ระบุว่าเศรษฐกิจไทย (ไม่รวมภาคท่องเที่ยว) อยู่ในภาวะถดถอยต่อเนื่อง ถึง 9 ไตรมาส ขณะที่การเติบโตของ EPS และ GDP ยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในระยะยาวหลังโควิด นำไปสู่การประเมินว่า “นโยบายการเงินและการคลังต้องเข้ามาช่วยประคองภาวะเศรษฐกิจในทันที”
KKP แนะนำให้นักลงทุนเน้นกลุ่ม “หุ้นปลอดภัย” ที่มีแนวโน้มทนทานต่อภาวะเศรษฐกิจอ่อนแอ ได้แก่:
ขณะเดียวกัน หากการประชุม กนง. วันที่ 30 เม.ย. 2568 มีการส่งสัญญาณผ่อนคลายนโยบายการเงินเร็วกว่าคาด หรือนโยบายการคลังเริ่มขยับจริงจัง ก็อาจกระตุ้นการหมุนเวียนเงินทุนกลับไปสู่ หุ้นกลุ่มเสี่ยง ที่ได้รับประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ยขาลง เช่น:
อย่างไรก็ตาม ดัชนี SET ที่ระดับ P/E 12.2 เท่า ยังไม่ถือว่า "ถูกจริง" เท่าระดับ 10–11 เท่า ที่ KKP มองว่าเหมาะสมในภาวะเศรษฐกิจนี้ จึงคาดว่าความผันผวนจะยังคงอยู่สูง โดยเฉพาะในช่วงไตรมาส 2/2025 ซึ่งมีปัจจัยเสี่ยงสำคัญหลายด้าน เช่น การเจรจาภาษี, ผลประกอบการ และตัวเลขเศรษฐกิจที่จะส่งสัญญาณว่า “รัฐต้องเร่งออกนโยบายแล้วหรือยัง”