ถึงแม้เศรษฐกิจของประเทศไทยในไตรมาสที่ 2/2567 มีการขยายตัวจากความต้องการในประเทศ ภาคการท่องเที่ยวที่ขยายตัว และการเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐที่กลับมาเร่งขึ้น แต่กลับพบว่า กำไร ‘เซ็นทรัล รีเทล’ ลดลงในอัตราเลขสองหลัก เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 1/2567
ผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 2/2567 ของ ‘เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น’ หรือ CRC พบว่า ถึงแม้ภาพรวมจะมีการเติบโตเมื่อเทียบกับช่วงปี 2566 แต่กลับพบว่า รายได้และกำไรลดลงอย่างมีนัยจากไตรมาสที่ 1/2567 จากปัจจัยทางฤดูกาล ในขณะที่ภาคการท่องเที่ยวประเทศไทยมีการขยายตัวต่อเนื่อง
โดยรายได้รวมในไตรมาสที่ 2/2567 อยู่ที่ 63,169 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.3% จากช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมา แต่ลดลง 6.1% จากไตรมาสก่อนหน้า ส่วนกำไรสุทธิ อยู่ที่ 1,660 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.91% จากปีที่ผ่านมา แต่ลดลงฮวบมากถึง 23.5% จากไตรมาสที่ 1/2567
ในขณะที่ภาพรวมครึ่งปีแรก 2567 สามารถกวาดรายได้อยู่ที่ 130,424 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.9% จากปีทีผ่านมา และกำไรสุทธิ 3,830 ล้านบาท เพิ่มขึ้ 2.5% จากการดำเนินธุรกิจด้วยแนวคิด ‘CRC OMNI-Intelligence’ สร้างการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ผ่านอีโคซิสเต็มที่มีความยืดหยุ่นและปรับตัวได้เร็ว และมีการขยายพอร์ตโฟลิโอในกลุ่มธุรกิจหลัก ครอบคลุมทั้งในไทย เวียดนาม และอิตาลี
นอกจากนี้ เซ็นทรัล รีเทล ยังได้รับการยอมรับให้เป็นผู้นำธุรกิจค้าปลีก-ค้าส่งระดับโลก จากการคว้ารางวัลทั้งในประเทศและต่างประเทศ ครอบคลุมในทุกมิติธุรกิจ และยังติดอันดับ 2 ในกลุ่มบริษัทค้าปลีกของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จากการจัดอันดับ FORTUNE Southeast Asia 500
สำหรับครึ่งปีหลัง 2567 นายญนน์ โภคทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น มั่นใจเร่งเดินหน้าธุรกิจตามแผนที่วางไว้ ผ่าน 5 แนวทางในการดำเนินงานเพื่อสร้างธุรกิจอย่างยั่งยืน พร้อมรองรับช่วงไฮซีซั่น และนักท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น ดังนี้
ซึ่งการเข้าซื้อธุรกิจ Rev Edition ในครั้งนี้ ช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้กับกลุ่มธุรกิจกีฬาของเซ็นทรัล รีเทล และต่อยอดซูเปอร์สปอร์ต ให้เป็นผู้นำด้านกีฬาอย่างครบวงจร โดยเซ็นทรัล รีเทล มั่นใจว่าการร่วมมือกับ Rev Edition จะสร้างการเติบโตร่วมกัน และตอกย้ำความเป็นเบอร์ 1 ผู้นำด้านรองเท้าวิ่งในประเทศไทย
สำหรับประเทศไทย เซ็นทรัล รีเมล วางแผนโฉมห้างสรรพสินค้าในเครือ และขยายร้านค้าแบรนด์ต่างๆ ดังนี้:
ส่วนในประเทศเวียดนาม เซ็นทรัล รีเทล เตรียมขยายสาขาทั้งศูนย์การค้า GO! และ ไฮเปอร์มาร์เก็ต GO! อีก 3 สาขาในปีนี้ ทำให้จะปิดปีด้วยจำนวน 42 สาขา พร้อมทั้งเตรียมรีโนเวทอีก 2 สาขาใหญ่ ได้แก่ สาขา Thang Long ในเมืองฮานอย และ Dong Nai ในเมืองโฮจิมินห์ เพื่อรองรับเทศกาล Tet (เทศกาลตรุษจีนของเวียดนาม) ที่จะมีขึ้นในช่วงต้นปีหน้า
โดยคาดว่า สามารถทำให้เซ็นทรัล รีเทล รักษาอันดับความน่าเชื่อถือของบริษัทที่ระดับ ‘AA-‘ ด้วยแนวโน้ม ‘Stable’ หรือ คงที่ จากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้ถึง 2 ปีซ้อน
บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) หรือ Pi Securities คาดการณ์ว่า ผลประกอบการปี 2567 เติบโตต่อเนื่อง ด้วยมุมมองเชิงบวกต่อการเติบโด จากการปรับปรุงสาขาธุรกิจใหม่ โก โฮลเซลล์ และไทวัสดุ และเน้นการควบคุมต้นทุน ทำให้ยังคงคำแนะนำ ‘ซื้อ’ เนื่องจากไทวัสดุ คือ พระเอกในครึ่งปีหลัง 2567 ด้วยมูลค่าพื้นฐาน 40.00 บาท
ส่วนบริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) หรือ Krungsri Securities มองว่า โมเมนตั้มในไตรมาสที่ 3/2567 คาดว่ายังไม่น่าตื่นเต้น และกำไรปกติจะปรับลงต่อ เนื่องจากฤดูฝนและกำลังซื้อที่ยังไม่ฟื้น แต่ในไตรมาสที่ 4/2567 อาจกลับมาเติบโตตามฤดูท่องเที่ยว และเปิดสาขาชิดลมเต็มรูปแบบ ดังนั้น กรุงศรีประเมินระยะสั้น ยังขาดปัจจัยบวก จึงยังไม่ใช่จังหวะลงทุน และประเมินจังหวะลงทุน คือ ช่วงไตรมาสที่ 4/2567
ด้าน AIRA Research เผยว่า เนื่องจาก SSSG ยังติดลบ 1-2% เทียบจากปีที่ผ่านมา จากการจับจ่าย หรือกำลังซื้อชะลอ ไทยและเวียดนามเขข้าสู่หน้ำฝน ขณะที่ส่วนแบ่งกำไรบริษัทร่วมลดลงต่อ จาก Grab และ Gucci จึงคาดว่ากำไรไตรมาสที่ 3/2567 ชะลอ และเป็นจุดต่ำสุดของปี ก่อนที่จะฟื้นตัวอีกครั้งในไตรมาสที่ 4/2567 ทั้งนี้ ประเมินราคาเป้าหมายปี 2567 ที่ 40.00 บาท แนะนำให้ ‘ซื้อเมื่อย่อตัว’