อนาคตคริปโต...กับการเลือกตั้งสหรัฐฯ 

การเลือกตั้งประธานาธิปดีสหรัฐฯ ในปี 2024 นี้ มีสิ่งหนึ่งที่แตกต่างไปจากครั้งก่อนๆ คือ การที่คริปโตฯ กลายเป็น Topic สำคัญที่ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีนำมาใช้ในการหาเสียง โดยผู้ที่ออกตัวสนับสนุนคริปโตฯ และธุรกิจที่เกี่ยวข้องอย่างชัดเจนก็คือ Donald Trump จากฝ่ายพรรค Republican

คอนเทนต์แนะนำ

เปิดใจ น้องเฟิร์น นิสิตคณะเภสัชศาสตร์ ผู้ชนะเลิศออกแบบโลโก้ "หมูเด้ง"

"ใหม่ ดาวิกา" ไม่ทน! ฟ้องคนด่าแรง เอาเงินมาช่วยเหลือสัตว์

ตำนาน นางนพมาศ จากพิธี "จองเปรียง" สมัยสุโขทัย สู่ประเพณี "ลอยกระทง"

เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2024 ทาง Donald Trump ได้ขึ้นพูดหาเสียงที่ Libertarian National Convention ใน Washington, DC. และมีการพูดถึงคริปโตฯ​ ได้อย่างน่าสนใจคือ

• การสนับสนุนเรื่องคริปโตฯ และบิตคอยน์ รวมถึงธุรกิจต่างๆ ที่เกี่ยวข้องให้สามารถเกิดขึ้นใน US ได้อย่างสะดวก ซึ่งหลักๆคาดว่าเป็นการปรับเรื่องกฎหมายต่างๆ ให้เป็นมิตรกับผู้ประกอบการมากขึ้น
  
  
• การสนับสนุนสิทธิในการ Self Custody หรือการเก็บสินทรัพย์ดิจิทัลด้วยตัวเอง สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่า Trump ทำการบ้านมาเป็นอย่างดีว่าการเก็บแบบ Self Custody กับการเก็บใน Exchange หรือตัวกลางต่างๆ มีความแตกต่างกันอย่างไร และเข้าใจว่าทำไม Self Custody ถึงเป็นสาระสำคัญที่สามารถนำมาใช้หาเสียงได้
  
  
• จะกีดกัน Elizabeth Warren ไม่ให้มายุ่งกับคริปโตหรือบิตคอยน์ของชาวสหรัฐฯ (Elizabeth Warren เป็นวุฒิสมาชิกของสหรัฐที่มีแนวคิดต่อต้านคริปโต)
  
  
• การขัดขวางเรื่อง Central Bank Digital Currency (CBDC) ที่จะมาทำลายความเป็นส่วนตัวในการใช้เงินของคนสหรัฐฯ 

นอกจากนี้ Trump ก็มีการเปิดรับบริจาคเป็นคริปโตฯ​ และมีการโพสต์สนับสนุนอุตสาหกรรม Bitcoin Mining ในสหรัฐฯ บนแพลตฟอร์ม Truth Social อีกทั้ง Trump ก็ได้ไปพูดที่งาน Bitcoin Conference 2024 ที่ Nashville ที่จัดขึ้นเมื่อ 25-27 กรกฎาคมที่ผ่านมา

โดยสิ่งที่ Trump พูดในงานนั้นมีหลายสิ่งที่น่าสนใจ เช่น 

• ในวันแรกที่ได้นั่งตำแหน่งประธานาธิปดีสหรัฐฯ​ จะไล่ Gary Glensler ที่เป็น Chairman ของ SEC คนปัจจุบันออกเพราะเป็นคนที่คอยขัดขวางเรื่องคริปโตฯ มาโดยตลอด
• จะนำ Bitcoin มาเป็นสินทรัพย์สำรองของประเทศควบคู่กับทองคำ
• บิตคอยน์ที่ทางรัฐบาลยึดมาได้จะถูกเก็บไว้ทั้งหมดโดยไม่มีการเทขาย

จะเห็นได้ว่าทางฝั่ง Trump ดูมีความแน่วแน่ในการผลักดันนโยบายที่เกี่ยวกับคริปโตฯ​ อย่างมาก ผิดกับทางด้าน Democrat ที่ไม่ว่าจะเป็นตอนยุคของ Joe Biden หรือตอนที่ Kalama Harris ขึ้นมาแทนก็ยังไม่มีการพูดสนับสนุนคริปโตฯ เลย มีเพียงข่าวลือว่าทีมงานของ Kamala Harris ติดต่อไปที่งาน Bitcoin Conference แต่สุดท้ายแล้วก็ไม่ได้ไป

เมื่อเป็นเช่นนี้หาก Trump ได้รับเลือกให้เป็นประธานาธิปดีคนต่อไปและมีการผลักดันนโยบายได้ตามที่พูดจริงก็จะเป็นผลบวกต่อคริปโตฯ อย่างมาก ทำให้การเลือกตั้งประธานาธิปดีสหรัฐฯ ในปีนี้มีชาวคริปโตฯ จับตามองอยู่ทั่วโลกและสิ่งต่างๆ ที่ทำให้ผลการเลือกตั้งหรือผลการคาดการณ์เปลี่ยนก็จะสามารถนำความผันผวนมาสู่ตลาดคริปโตฯ​ ได้

สังเกตได้จากตอนที่ Trump ปลอดภัยจากการโดนลอบสังหารและผลการคาดการณ์ที่ Trump จะชนะก็พุ่งแซง Biden แบบขาดลอย ตลาดก็มีการปรับตัวรับในฝั่งบวก แต่พอทาง Democrat ประกาศว่า Kalama Harris จะขึ้นมาแทนและผลการคาดการณ์ขึ้นมาสูสีและแซง Trump ได้ ตลาดก็มีการปรับตัวในเชิงลบ

แล้วทำไมคริปโตถึงกลายมาเป็น Topic สำคัญในการหาเสียงได้ ?

คำตอบก็คือพลเมืองสหรัฐฯ จำนวน 50 ล้านคนที่ถือคริปโตฯ และถ้าไปดูจำนวนประชากรของสหรัฐฯ ทั้งหมดจะอยู่ที่ประมาณ 340 ล้านคน ทำให้คนถือคริปโตฯ​คิดเป็นเกือบ 15% เลยทีเดียวที่ซึ่งสามารถชี้ชะตาผลการเลือกตั้งได้นั่นเอง