Colin Huang (โคลิน หวัง) เจ้าของ TEMU แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่สัญชาติจีน ตกอันดับในฐานะบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศจีน หลังจากครองตำแหน่งได้เพียง 18 วันเท่านั้น เนื่องจากหุ้นของ PDD Holdings ร่วงกว่า 29%
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา หุ้นของ PDD Holdings ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ TEMU ร่วงลงอย่างหนัก ส่งผลให้ทรัพย์สินของ Huang ลดลงกว่า 1.41 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 4.79 แสนล้านบาท เป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ที่สุดในวันเดียวของเขา
โดยในปัจจุบัน หวัง เป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดเป็นอันดับ 4 ของจีน ด้วยทรัพย์สินสุทธิเพียง 3.52 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 1.195 ล้านล้านบาท ตามดัชนี Bloomberg Billionaires Index หลังจากวันที่ 8 สิงหาคม ที่ผ่านมา เขาได้กลายมาเป็นเจ้าพ่อเทคโนโลยีรายแรกที่ครองอันดับความมั่งคั่งของจีนในรอบกว่า 3 ปี แซงหน้า Zhong Shanshan มหาเศรษฐีผู้ผลิตน้ำดื่มบรรจุขวด
โดยสาเหตุที่มูลค่าหุ้นลดลงในครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากที่ PDD รายงานผลประกอบการประจำไตรมาส ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ และเตือนว่า การเติบโตของยอดขายจะชะลอตัวลง กระทบถึงมูลค่าหุ้นของบริษัทร่วงลง 29% ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
Chen Lei (เฉิน เล่ย) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวกับนักวิเคราะห์หลังจากการประกาศผลประกอบการว่า แนวโน้มปัจจุบันของบริษัทไม่ยั่งยืน ในช่วงเวลาที่คู่แข่ง อย่าง TikTok ของ ByteDance และ Alibaba Group Holding กำลังแข่งขันเพื่อชิงกลุ่มลูกค้าที่ควบคุมการใช้จ่าย ทำให้ PDD ยังไม่มีแผนในการซื้อหุ้นคืนหรือจ่ายเงินปันผลให้กับนักลงทุนในอนาคตข้างหน้า
สำหรับผลประกอบการในเดือนเมษายนถึงมิถุนายน 2024 ยอดขายรวมของ TEMU เพิ่มขึ้น 86% แตะ 9.706 หมื่นล้านหยวน หรือประมาณ 4.63 แสนล้านบาท และกำไรสุทธิแตะ 3.2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 1.53 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นมากถึง 144% จากช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมา
หวังก่อตั้ง PDD ในปี 2015 หลังจากเปิดตัวกิจการเกมและอีคอมเมิร์ซไม่กี่แห่ง ทำให้เขาไต่อันดับขึ้นสู่ตำแหน่งมหาเศรษฐีของโลกอย่างรวดเร็ว โดยมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิสูงถึง 7.15 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 2.43 ล้านล้านบาทในช่วงต้นปี 2021
TEMU ขึ้นชื่อเรื่องการขายสินค้าราคาถูก พร้อมโปรโมชั่นสุดอลังการ ดึงดูดผู้บริโภคได้จำนวนมาก ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อทั่วโลกพุ่งสูงขึ้น แพลตฟอร์มดังกล่าวได้ขยายกิจการออกนอกประเทศจีน และกลายเป็นหนึ่งในแอปของสหรัฐฯ ที่มีการดาวน์โหลดมากที่สุดอย่างรวดเร็ว หลังจากเปิดตัวในปี 2022 ตั้งแต่นั้นมา แพลตฟอร์มดังกล่าวก็เริ่มท้าทายยักษ์ใหญ่ด้านการช้อปปิ้งออนไลน์ของจีนอย่าง Shein และแม้แต่ Amazon ในกลุ่มผลิตภัณฑ์บางกลุ่ม
แต่บริษัทต้องเผชิญกับพ่อค้ารายย่อยหลายร้อยราย ที่ได้จัดการชุมนุมที่สำนักงานของ PDD ทางตอนใต้ของจีนในช่วงฤดูร้อนนี้ เพื่อเรียกร้องให้เปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์ในการลงโทษร้านค้า ที่ส่งผลให้บางร้านต้องปิดตัวและล้มละลาย ในขณะเดียวกัน สหภาพยุโรปกำลังดำเนินการเสนอเพื่อปิดช่องโหว่ด้านภาษีนำเข้าสำหรับสินค้าราคาถูกที่ซื้อทางออนไลน์
ทั้งนี้ ราคาหุ้นของ PDD Holdings อยู่ที่ 100.25 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อหุ้น และมูลค่าตลาดเหลือเพียง 1.39 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 4.72 ล้านล้านบาท
ที่มา Bloomberg, Nikkei Asia