กองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ หรือ REIT เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์โดยไม่ต้องซื้อ ขาย หรือบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์ด้วยตนเอง REIT ช่วยเปิดโอกาสให้นักลงทุนสามารถเข้าถึงการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์หลากหลายประเภท เช่น อาคารสำนักงาน ศูนย์การค้า โรงแรม หรือโรงงาน
WHAIR เป็น REIT ชั้นนำที่มุ่งเน้นการลงทุนในโรงงานและคลังสินค้าให้เช่า โดยมี WHA Group ผู้พัฒนานิคมอุตสาหกรรมรายใหญ่เป็นผู้บริหารจัดการ ปัจจุบัน WHAIR มีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารมูลค่ากว่า 1.3 หมื่นล้านบาท และมีแผนจะเพิ่มทุนอีก 1,118 ล้านบาท เพื่อขยายการลงทุนใน EEC ซึ่งเป็นพื้นที่เศรษฐกิจที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว
บทความนี้ SPOTLIGHT จะพาคุณไปเจาะการลงทุนใน WHAIR พร้อมวิเคราะห์ปัจจัย และโอกาสในการเติบโต เพื่อประกอบการตัดสินใจ สำหรับนักลงทุนที่กำลังมองหากอง REIT ที่มีคุณภาพ
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้ประกาศรับ filing ของกองทรัสต์ WHART (WHAIR) เพื่อดำเนินการเพิ่มทุนครั้งที่ 4 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยกองทรัสต์มีแผนระดมทุนไม่เกิน 1,118 ล้านบาท ผ่านการออกและเสนอขายหน่วยทรัสต์เพิ่มเติมจำนวนไม่เกิน 120 ล้านหน่วย ซึ่งจะนำไปลงทุนในสิทธิการเช่าที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างอาคารโรงงานและคลังสินค้า คิดเป็นพื้นที่รวมทั้งสิ้น 40,172 ตารางเมตร ในนิคมอุตสาหกรรม WHA Group ซึ่งตั้งอยู่ในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC)
การลงทุนในทรัพย์สินครั้งนี้ นับเป็นการเสริมศักยภาพเชิงกลยุทธ์ให้แก่กองทรัสต์ เนื่องจากทำเลที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ EEC ซึ่งเป็นเขตเศรษฐกิจที่ได้รับการส่งเสริมเป็นพิเศษจากภาครัฐ และเป็นพื้นที่นำร่องในการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ (Smart City) โดยคาดว่าจะส่งผลให้มูลค่าทรัพย์สินรวมของกองทรัสต์ WHAIR เพิ่มขึ้นเป็น 14,000 ล้านบาท ภายหลังการลงทุนแล้วเสร็จในปี 2567
นางสาวจารุชา สติมานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล รีท แมนเนจเม้นท์ จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ WHART (WHAIR) กล่าวถึงภาพรวมของกองทรัสต์ว่า WHAIR เป็นกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ (REIT) ประเภททรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ โดยมุ่งเน้นการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ประเภทโรงงานและคลังสินค้าให้เช่า ซึ่งตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมชั้นนำภายใต้การบริหารงานของ WHA Group
ณ ไตรมาสที่ 2 ของปี 2567 กองทรัสต์ WHAIR มีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการเป็นพื้นที่รวมทั้งสิ้น 428,818 ตารางเมตร คิดเป็นมูลค่าสินทรัพย์รวม 13,121.56 ล้านบาท โดยมีอัตราการเช่าพื้นที่สูงถึง 93.5% สะท้อนให้เห็นถึงความสามารถในการบริหารจัดการสินทรัพย์ของกองทรัสต์ได้เป็นอย่างดี และตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้ลงทุนที่มีต่อ WHA Group ในฐานะผู้พัฒนานิคมอุตสาหกรรมชั้นนำของประเทศ
การเพิ่มทุนในครั้งนี้ กองทรัสต์ WHAIR มุ่งเน้นการลงทุนในสินทรัพย์คุณภาพสูงที่พัฒนาโดย WHA Group ซึ่งตั้งอยู่ในทำเลที่มีศักยภาพสูง พร้อมด้วยโครงสร้างพื้นฐานที่สมบูรณ์แบบ โดยสินทรัพย์ดังกล่าวตั้งอยู่ในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งเป็นศูนย์กลางการคมนาคมขนส่งที่สำคัญของประเทศ ใกล้กับท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าเรือแหลมฉบัง และระบบโครงข่ายถนนสายหลัก ซึ่งเอื้ออำนวยต่อการขนส่งและกระจายสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ทั้งในด้านของระยะเวลาและต้นทุน
สำหรับการลงทุนในสิทธิการเช่าที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ประกอบด้วยอาคารโรงงานและคลังสินค้ารวม 10 ยูนิต ใน 4 โครงการ คิดเป็นพื้นที่รวมทั้งสิ้น 40,172 ตารางเมตร โดยสามารถจำแนกตามที่ตั้งโครงการได้ ดังนี้
จุดเด่นของกองทรัสต์ WHAIR คือ การกระจุกตัวของสินทรัพย์ในทำเลทอง โดยกว่า 90% ของพอร์ตสินทรัพย์ภายหลังการลงทุนเพิ่มเติม จะตั้งอยู่ในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งรัฐบาลกำลังเร่งผลักดันให้เป็นพื้นที่ต้นแบบในการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ (Smart City) ปัจจัยนี้ส่งผลให้นักลงทุนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ต่างให้ความสนใจเช่าโรงงานและคลังสินค้าในพื้นที่ EEC เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นโอกาสในการสร้างรายได้ระยะยาวให้แก่กองทรัสต์ เนื่องจาก EEC คือ ศูนย์กลางการดำเนินธุรกิจและโลจิสติกส์ที่สำคัญที่สุดของประเทศไทย
ยิ่งไปกว่านั้น นิคมอุตสาหกรรมของ WHA Group ในพื้นที่ Eastern Seaboard ยังเป็นฐานการผลิตที่สำคัญของอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน โดยเป็นที่ตั้งของโรงงานผลิตรถยนต์ชั้นนำมากมาย เช่น BYD, Changan, Mazda, Ford, Isuzu, Great Wall Motor และ MG การเติบโตอย่างก้าวกระโดดของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ในพื้นที่นี้ ย่อมส่งผลดีต่อ WHAIR โดยตรง เนื่องจากความต้องการเช่าโรงงานและคลังสินค้าที่เพิ่มสูงขึ้น จากธุรกิจต่างๆ ในห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) ของผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ๆ
นางสาวจิตติสา เจริญพานิช ผู้บริหารงานวาณิชธนกิจ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายหน่วยทรัสต์ WHAIR กล่าวถึงการเพิ่มทุนของกองทรัสต์ WHAIR ในครั้งนี้ว่า เกิดขึ้นท่ามกลางปัจจัยบวกจากแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในตลาดโลก ซึ่งคาดว่าจะส่งผลดีต่อการฟื้นตัวของดัชนีราคาในกลุ่ม Property Fund & REIT
สำหรับทรัพย์สินที่ WHAIR เตรียมเข้าลงทุน ประกอบด้วยอาคารโรงงานและคลังสินค้าสำเร็จรูป ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมของ WHA Group ในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งปัจจุบันเป็นพื้นที่ที่ได้รับอานิสงส์จากการย้ายฐานการผลิต และการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ปัจจัยดังกล่าวส่งผลเชิงบวกโดยตรงต่ออสังหาริมทรัพย์ประเภทโรงงานและคลังสินค้าให้เช่า โดย WHAIR มีอัตราการเช่าพื้นที่สูงถึง 93.5% ณ สิ้นไตรมาสที่ 2 ที่ผ่านมา ขณะที่ทรัพย์สินที่เตรียมเข้าลงทุนเพิ่มเติมมีอัตราการเช่าเต็มพื้นที่ 100% สะท้อนให้เห็นถึงคุณภาพของทรัพย์สิน และศักยภาพในการสร้างรายได้
ทั้งนี้ ภายหลังการเพิ่มทุน คาดว่า WHAIR จะมีมูลค่าทรัพย์สินรวมเพิ่มขึ้นเป็น 14,000 ล้านบาท และมีพื้นที่เช่าภายใต้การบริหาร 468,990 ตารางเมตร ซึ่งจะช่วยเพิ่มรายได้ให้แก่กองทรัสต์ และสร้างผลตอบแทนที่มั่นคงให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนในระยะยาว
ในปัจจุบัน สำนักงาน ก.ล.ต. ได้รับ filing ของ WHAIR เพื่อพิจารณาอนุมัติการเพิ่มทุน โดยคาดว่าจะสามารถเสนอขายหน่วยทรัสต์ได้ภายในปลายเดือนพฤศจิกายน 2567
การเพิ่มทุนของ WHAIR ในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญที่จะผลักดันให้กองทรัสต์เติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนในระยะยาว โดยการลงทุนในสินทรัพย์คุณภาพสูง ซึ่งตั้งอยู่ในทำเลศักยภาพ ย่อมช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้ และผลตอบแทนที่งอกงามให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุน
WHAIR เป็นกองทรัสต์ประเภท Freehold คือ ลงทุนในกรรมสิทธิ์ของทรัพย์สิน ซึ่งมีความมั่นคงสูง และสร้างผลตอบแทนในรูปแบบของค่าเช่า โดยมีจุดเด่นคือ การลงทุนในสินทรัพย์ประเภทโรงงาน และคลังสินค้า ซึ่งมีความต้องการสูง และมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในพื้นที่ EEC
ด้วยปัจจัยสนับสนุนและโอกาสการเติบโต ที่กล่าวมาข้างต้น WHAIR จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่กำลังมองหา REIT ที่มีศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนที่มั่นคงและยั่งยืนในระยะยาว โดยสามารถติดตามข้อมูลการเสนอขายหน่วยทรัสต์เพิ่มเติม ได้ในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2567 นี้