ราคาหุ้นของบริษัทชิปยักษ์ใหญ่ 2 แห่ง อย่าง ‘Qualcomm’ และ ‘ARM’ เพิ่มขึ้นประมาณ 2% เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา หลังประกาศผลประกอบการไตรมาสล่าสุดออกมา บ่งชี้ว่า ความต้องการตลาดสมาร์ทโฟนมีการฟื้นตัวเล็กน้อย โดยเฉพาะอุปกรณ์รุ่นไฮเอนด์ที่กลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้ง แม้ไม่ได้ส่งสัญญาณว่า อุตสาหกรรมโดยรวมกำลังอยู่ในจุดที่มั่นคงก็ตาม
สัญญาณของการใช้จ่ายโทรศัพท์มือถือราคาแพง โดยเฉพาะในประเทศจีน ช่วยให้รายได้และกำไรของทั้งสองบริษัทเพิ่มสูงขึ้น โดยรายได้จากโทรศัพท์ของ ARM เพิ่มขึ้น 40% แม้ว่ายอดจัดส่งโดยรวมจะเพิ่มขึ้นเพียง 4% ส่วน Qualcomm ยังมีส่วนแบ่งตลาดในประเทศจีนมากขึ้น จากรายได้จากการขายโทรศัพท์ Android เพิ่มขึ้น 40%
โดยในปีหน้า บริษัทคาดว่า จำนวนหน่วยโทรศัพท์โดยรวมจะเติบโตประมาณ 5% หรือต่ำกว่านั้น ซึ่งเป็นสัญญาณว่า บริษัทไม่ได้คาดการณ์การฟื้นตัวในวงกว้าง ผู้บริโภคจำนวนมากไม่ได้อัปเกรดอุปกรณ์ของตนบ่อยนัก ซึ่งเป็นปัญหาที่สร้างความเดือดร้อนให้กับอุตสาหกรรมส่วนใหญ่
Rene Haas ซีอีโอ ARM กล่าวกับ Bloomberg Television ว่า การใช้ส่วนประกอบระดับไฮเอนด์ในสมาร์ทโฟนนั้น ส่งผลให้รายได้ค่าลิขสิทธิ์ได้รับ ’ประโยชน์มหาศาล’ การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวเกิดจากความต้องการคอมพิวเตอร์ที่มากขึ้นในโทรศัพท์ เพื่อรันซอฟต์แวร์ AI
ถึงแม้ทั้งสองบริษัทเป็นพันธมิตรกันมายาวนาน แต่ก็กลายมาเป็นศัตรูกันมากขึ้น และถือเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมสมาร์ทโฟนด้วย โดย Qualcomm เป็นผู้ขายโปรเซสเซอร์ที่ขับเคลื่อนอุปกรณ์มากที่สุด และยังประสบความสำเร็จในการบุกเบิกชิปสำหรับยานยนต์ ส่วน ARM ก็เป็นผู้พัฒนาเทคโนโลยีพื้นฐานจำนวนมากที่ใช้ในอุตสาหกรรม
นอกจากนี้ Qualcomm และ ARM ยังเผยแพร่ผลประกอบการรายไตรมาสห่างกันเพียงไม่กี่นาที และจัดการประชุมทางโทรศัพท์กับนักลงทุนในเวลาที่ทับซ้อนกัน นับเป็นช่วงเวลาสำคัญที่บริษัททั้งสองแห่งกำลังต่อสู้ในทางกฎหมายกันอย่างดุเดือด
เมื่อเดือนที่ผ่านา ARM ได้ดำเนินการยกเลิกใบอนุญาตที่ให้ Qualcomm สามารถใช้ทรัพย์สินทางปัญญาเพื่อออกแบบชิป การดำเนินการดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่ ARM ฟ้องร้อง Qualcomm ในข้อหาละเมิดสัญญา และละเมิดเครื่องหมายการค้าในปี 2022
แม้ว่า Haas จะมั่นใจว่า บริษัทจะชนะการพิจารณาคดี ซึ่งจะเริ่มขึ้นในช่วงกลางเดือนธันวาคม แต่ ARM ก็ได้คาดการณ์ทางการเงินโดยตั้งสมมติฐานว่า ‘จะแพ้คดี’ โดยเขากล่าวว่า บริษัทกำลังมีท่าที ‘มองโลกในแง่ร้าย’ โดยเจตนา ด้วยการคาดการณ์รายได้ไว้ที่ 920-970 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (31,316.80-33,018.80 ล้านบาท) สำหรับไตรมาสเดือนธันวาคม
ในขณะที่ Qualcomm คาดการณ์ยอดขายในช่วงนี้ที่ 10,500 - 11,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (357,420-384,652 ล้านบาท) ส่วนนักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 10,500 ล้านดอลลาร์โดยเฉลี่ย ตามข้อมูลที่รวบรวมโดย Bloomberg
ถึงแม้ตลาดยานยนต์ ซึ่งเป็นแหล่งทำเงินสำหรับ Qualcomm จะตกต่ำลง ส่งผลกระทบต่อผู้ผลิตชิปรายอื่น แต่รายได้ของ Qualcomm เพิ่มขึ้น 55% ในปีงบประมาณ 2024 ตามที่ Cristiano Amon ซีอีโอ กล่าวว่า รายได้จากธุรกิจยานยนต์ของบริษัท ได้รับผลกระทบจากความผันผวนของตลาดน้อยลง และขึ้นอยู่กับการเปิดตัวรุ่นใหม่ๆ มากกว่า