ไลฟ์สไตล์

แอบฟัง CEO คุยกัน เพราะชีวิต CEO ไม่ใช่เรื่องง่าย เมื่อตำแหน่ง มาพร้อมภาระหน้าที่

5 ก.ค. 67
แอบฟัง CEO คุยกัน เพราะชีวิต CEO ไม่ใช่เรื่องง่าย เมื่อตำแหน่ง มาพร้อมภาระหน้าที่

dsd_3630

บทความนี้ ทีม SPOTLIGHT ได้สรุปการเสวนา แอบฟัง CEO คุยกัน: เคล็ดลับบริหารงานของ CEO ที่ไม่เคยบอกใคร โดย คุณอนุพงษ์ อัศวโภคิน CEO, AP Thailand และคุณรวิศ หาญอุตสาหะ CEO, Srichand & Mission To The Moon Media จากงาน Creative Talk Conference 2024

1.CEO ต้องเลือกบริหารงาน ตามสถานการณ์

คุณอนุพงษ์ ได้แบ่งการบริหาร AP Thailand 3 Stage ด้วยกัน

Stage1 ช่วงที่ยังเป็นบริษัทเล็กๆ

:  ผู้นำต้องลงไปทำเอง บทบาทจะวางไว้หลวม ๆ คนนึงต้องทำได้หลายอย่าง

Stage2 เมื่อบริษัทโตขึ้น

: CEO ต้องเปลี่ยนแนวทางการบริหารและแนวคิด โดยต้องคิดแบบ Process (กระบวนการ) + Structure (โครงสร้าง) แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ การหาคน ที่เหมาะสมกับตำแหน่งและหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ

Stage3 เมื่อบริษัท กลายเป็นองค์กร

: นอกจากแนวคิด และแนวการบริหารที่มีแบบแผน เมื่อบริษัทเติบโตเป็นองค์กรขนาดใหญ่ขึ้น CEO ต้องสร้าง Culture ขององค์กร เพื่อให้พนักงานมีแนวคิดแบบเดี่ยวกันตามเป้าหมายของผู้นำ โดยCEO จะเป็นคนตัดสินเรื่องใหญ่ๆ

เช่นเดียวกับ ในวันที่องค์กรใหญ่ขึ้น คุณอนุพงษ์เองไม่สามารถรู้จักพนักงานได้ทุกคน ผู้นำจะมีหน้าที่กำหนด 2S2P แทน คือ Process, People, Structure และ System (Monitoring)

dsc_1276

คุณรวิศ ได้เปรียบเทียบการบริหารงานของตนเหมือนโค้ชฟุตบอล

ฟุตบอล ก็คือ กีฬาที่ที่ใช้ผู้เล่นจำนวนมาก ทั้งผู้เล่นทั้งกองหน้า กองกลาง กองหลัง ผู้รักษาประตู อีกทั้ง ยังมีผู้เล่นตัวสำรองต่างๆ เช่นเดียวกันกับ แฟนบอล (ที่ทำหน้าที่เหมือนผู้บริโภค ลูกค้า) แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับฟุตบอลนอกเหนือจากนักกีฬา คือ โค้ช เพราะโค้ช จะเป็นผู้ที่มองเกมส์ให้ขาด เตรียมวางแผน ออกแบบกลยุทธ์ทั้งแผน A B C D เพื่อก้าวสู่ชัยชนะ

และแน่นอนว่าหน้าที่ CEO เปรียบเสมือนโค้ช ที่คอยไกด์พนักงานอยู่ข้างสนาม ตั้งแผนรุก-แผนรับที่ชัดเจน ภายใต้การเข้าใจกติการ่วมกัน (แนวคิดการทำงาน – วิธีการทำงาน) ซึ่งหากเวลาต้องลงสนามจริง ก็จะปล่อยให้แต่ละคนแสดงความสามารถ แต่หากต้องการความช่วยเหลือก็ให้ส่งสัญญาณมาที่โค้ด เพราะหน้าที่ของ CEO คือ ต้องพร้อม Stand by รอช่วยเหลือในยามวิกฤต

หลักการบริหาร Tight – Loose - Tight

  • Tight คือ การตั้งเป้าหมายให้ชัดเจน แต่ไม่จำเป็นต้องตีกรอบ หากเปรียบเทียบกับทีมฟุตบอล ทุกคนในทีมรู้เป้าหมาย คือ การได้ประตู
  • Loose คือ วิธีการทำงาน ในบางครั้งต้องปล่อยเพื่อให้แต่ละคนได้แสดงฝีมือ เพียงแค่ว่ากำหนดให้ชัดเจนว่าใครอยู่ตำแหน่งไหน หน้าที่รับผิดชอบคืออะไร
  • Tight คือ การวัดผล หรือ KPI ซึ่งในฐานะ CEO วิธีการวัดผลแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน เหมือนกับ ฟุตบอล League กับฟุตบอล FA Cup เองก็วัดผลไม่เหมือนกัน

dsc_1231

2.CEO ต้องตัดสินใจอย่างไร

คุณอนุพงษ์ CEO AP Thailand

  • ลูกค้า คือ คนตัดสินใจ

เนื่องจาก AP Thailand ประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เลยยึดหัวใจอยู่ที่ผู้บริโภคเป็นส่วนหลัก ทำให้การตัดสินใจไม่ได้ขึ้นอยู่กับ CEO เพียงคนเดียว แต่คุณอนุพงษ์ให้สิทธิการตัดสินใจอยู่ที่คนที่ใกล้ลูกค้ามากที่สุด รวมถึงคนที่อยู่หน้างานด้วย

  • ให้อิสระทางความคิด แต่ต้องยอมรับ หากผิดพลาด  

คุณอนุพงษ์ให้ อิสระให้ทางความคิดให้แก่พนักงานของ AP Thailand ทุกคน แต่หากเกิดสิ่งผิดพลาดคุณต้องกล้าที่จะยอมรับมัน “ถ้าสิ่งที่ทำสำเร็จ คุณจะได้รับสิ่งนั้น แต่ถ้ามันผิดพลาด คุณก็ต้องรับผิดเช่นกัน” แต่ CEO จะเป็นคนที่คอยกำหนดขอบเขตเอาไว้

  • ไม่เน้น Effort (ความพยายาม) แต่เน้นผลลัพธ์ (Outcome)

Work Smart ไม่ใช่ Work hard องค์กรที่ประความสำเร็จต้องวัดจาก ผลลัพธ์ หรือ KPI เพราะความพยายาม มันไม่สามารถวัดผลๆ ได้

dsc_1288

คุณรวิศ CEO, Srichand & Mission To The Moon Media

  • CEO ต้องตัดสินใจ ในวันที่ ข้อมูลไม่พร้อม

หน้าที่ของ CEO คือ คนที่ต้องตัดสินใจ ในวันที่ทีมอาจจะยังไม่มีข้อมูลที่มากพอ หรือยังไม่มีความชัดเจน

  • เลือกความถูกต้อง ตามธุรกิจ ไม่ใช่ถูกต้องทางใจเรา

ธุรกิจที่จะประสบความสำเร็จได้ คือ ธุรกิจที่เดินตามแบบแผนที่ชัดเจน และไม่ปล่อยให้น้ำหนักการตัดสินใจอยู่ที่ตัว CEO คนเดียว เพราะหากถ้า Bias ในการตัดสินใจ ก็จะทำให้แผนพัง แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการทดลองทำ เช่น Prototype แล้วเราจะรู้ว่าตลาดชอบหรือไม่ชอบ เพราะลูกค้าเป็นคนบอก

dsc_1139

3.เป็น CEO แล้ว Burn out หมดไฟได้ไหม?  

คุณรวิศ CEO, Srichand & Mission To The Moon Media

  • CEO พูด 1 ครั้ง พนักงานจำตลอดไป

คุณรวิศ ได้เผยว่า การดูแลร่างกายนั้นสำคัญ แต่การดูแลจิตใจนั้นก็สำคัญไม่แพ้กัน คุณรวิศ ได้ข้อคิดนี้ เมื่อคนในที่ประชุมพูดว่า ‘ความสำเร็จขององค์กรขึ้นอยู่กับการควบคุมอารมณ์ของ CEO มากกว่าการบริหารงาน’ ทำให้คุณรวิศ ได้มาตกตะกอนความคิด ว่า การรู้เท่าทันอารมณ์นั้นเป็นสิ่งสำคัญ เพราะคำพูดของผู้บริหาร (หากอยู่ในอารมณ์โมโห) พูดเสร็จแล้วก็ลืมไป แต่จงอย่าลืมว่าผู้ฟังนั้นไม่เคยลืม ทำให้ การบริหารจิตใจและความเครียดจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องดูแลให้ดีและไม่ไปทำร้ายจิตใจคนอื่น

  • สุขภาพใจที่ดี ต้องเริ่มจาก สุขภาพกายที่ดี

คุณรวิศ ได้เผย เทคนิคสุขภาพใจที่ดี คือ การดูแลสุขภาพกาย เนื่องจาก การ Burnout มาจากนร่างกายที่ไม่พร้อม นอนไม่พอ พักผ่อนไม่พอ และถ้าเรานอนพอ IQ ก็จะดี EQ ก็จะดี

dsc_1485

คุณอนุพงษ์ CEO AP Thailand

  • สุขภาพที่เสียไปแล้ว เอากลับมาไม่ได้

สุขภาพเป็นสิ่งสำคัญ ยิ่งสุขภาพกาย เป็นมันไม่สามารถย้อนกลับไปสร้างได้ แต่ในด้านจิดใจ เราต้องเป็นคนสร้างมัน

  • การทำงาน ต้องสนุก

ต้องเข้าใจธรรมชาติของมนุษย์ มนุษย์ไม่สามารถโฟกัสกับสิ่งหนึ่งได้นานๆ หากไม่ได้รู้สึกสนุก เพลินเพลิดไปกับมัน เพราะฉะนั้น เราหางานที่ทำให้เราสนุก อยากตื่นไปทำงาน จริงอยู่ว่างานจะต้องมีเรื่องเครียดเข้ามาบ้าง แต่เราต้องมองเป็นสิ่งท้าทายที่ทำให้เราพัฒนา และเก่งขึ้น

dsc_1369

4.AI มาแล้ว CEO รับมืออย่างไร?

คุณอนุพงษ์ CEO AP Thailand / คุณรวิศ CEO, Srichand & Mission To The Moon Media

  • โลกหมุนไปไว แล้ว เราเปลี่ยนหรือยัง ?

ทั้งคุณอนุพงษ์ และ คุณรวิศ ได้กล่าวว่า เทคโนโลยีที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะการเข้ามาของ AI ทำให้เราต้องตั้งคำถามกับตัวเองว่า เราจะทำงานอย่างไรให้มีประสิทธิภาพ ? เราจะใช้งาน AI อย่างไรให้เกิดประโยชน์สูงสุด? AI ต้องเข้ามาเป็น co-pilot ไม่ใช่ auto-pilot ในชีวิตเรา

dsd_3630_1

advertisement

Relate Post

SPOTLIGHT