โกลเบล็กมองหุ้นไทยSideway Upรับข่าวเฟด-กนง.ลดดอกเบี้ยจับตาหุ้นซ่อมบ้าน

ตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้มีแนวโน้มสดใส โดย บล. โกลเบล็ก คาดการณ์ว่าดัชนีจะปรับตัวขึ้นในลักษณะ Sideway Up รับปัจจัยบวกจากทั้งในและต่างประเทศ ทั้งสัญญาณการลดดอกเบี้ยของเฟดและ กนง. รวมถึงสถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลางที่เริ่มผ่อนคลาย นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมองโอกาสลงทุนในหุ้นกลุ่มซ่อมแซมบ้านหลังน้ำท่วม ขณะที่ราคาทองคำมีแนวโน้มแกว่งตัวในกรอบแคบ รับปัจจัยบวกจากเฟดและสถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์

คอนเทนต์แนะนำ

ดับแล้ว 5 ศพ! นักท่องเที่ยวต่างชาติสังเวยชีวิตให้เหล้าผสมเมทานอลในลาว

ทำถึง! ทีมเชียร์ลีดเดอร์ขอนแก่นวิทยายน จากไวรัลชุดบอดี้มนุษย์และเปรต

รมช.คลัง แนะเข้าเว็บ Welfare.mof.go.th ยืนยันสิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

บล. โกลเบล็ก ประเมินแนวโน้มตลาดหุ้นไทยมีโอกาสปรับตัวขึ้นแบบ Sideway Up โดยคาดการณ์ว่าเฟดอาจลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายน และคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) อาจลดอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในไตรมาส 4 ปี 2567 เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจไทยยังคงเปราะบาง บริษัทฯ ประเมินกรอบดัชนีไว้ที่ 1,330-1,370 จุด และแนะนำกลยุทธ์การลงทุนในหุ้น 7 ตัว ที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์จากการซ่อมแซมบ้านเรือนหลังสถานการณ์น้ำท่วมคลี่คลาย ได้แก่ TASCO, DOHOME, GLOBAL, DCC, DRT, TOA และ DPAINT

โกลเบล็กมองหุ้นไทยสัปดาห์นี้ Sideway Up รับข่าวเฟดลดดอกเบี้ย-กนง.ส่งสัญญาณลดดอกเบี้ย Q4/67

นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด ประเมินว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นในลักษณะ Sideway Up โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่ส่งสัญญาณชัดเจนถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในเดือนกันยายน นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยบวกจากสถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลางที่เริ่มคลี่คลาย และราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งส่งผลดีต่อหุ้นในกลุ่มพลังงาน บริษัทฯ ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของดัชนีไว้ที่ 1,330-1,370 จุด

ในขณะเดียวกัน ศูนย์วิจัยธนาคารไทยพาณิชย์ประเมินว่า แม้คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งล่าสุด แต่เริ่มมีสัญญาณบ่งชี้ถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในอนาคต โดยคาดว่าจะเริ่มปรับลดครั้งแรกในไตรมาส 4 ของปี 2567 เนื่องจากเศรษฐกิจไทยยังคงมีความเปราะบาง นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่ควรติดตาม อาทิ ความคืบหน้าของร่างกฎหมายสถานบันเทิงครบวงจร หรือ เอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ และนโยบายส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ของรัฐบาล ซึ่งอาจส่งผลต่อภาพรวมเศรษฐกิจและตลาดหุ้นในระยะต่อไป

ปัจจัยขับเคลื่อนตลาดหุ้น จับตาหุ้นรับอานิสงส์ซ่อมแซมหลังน้ำท่วม

สำหรับปัจจัยภายในประเทศที่นักลงทุนควรให้ความสำคัญในสัปดาห์นี้ ได้แก่ การประกาศยอดผลิตและส่งออกรถยนต์โดยสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย, ภาวะการค้าระหว่างประเทศโดยกระทรวงพาณิชย์, ภาวะเศรษฐกิจการคลัง ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค และดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาคโดยสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะสังคมไทยไตรมาส 2/2567 โดยสภาพัฒน์, และดัชนีอุตสาหกรรมโดยสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม นอกจากนี้ ยังมีงาน Thailand Focus 2024 ที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยจัดขึ้น และรายงานภาวะเศรษฐกิจไทยโดยธนาคารแห่งประเทศไทย

ในส่วนของปัจจัยต่างประเทศที่สำคัญ ได้แก่ ตัวเลขเศรษฐกิจจากจีนและสหรัฐฯ, ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจากสหภาพยุโรป, ตัวเลขเศรษฐกิจเพิ่มเติมจากสหรัฐฯ, การดีเบตรอบสองของผู้เข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ และวันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ด้วยปัจจัยที่หลากหลายเหล่านี้ กลยุทธ์การลงทุนที่น่าสนใจในขณะนี้อาจเป็นการพิจารณาหุ้นที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์จากการซ่อมแซมและฟื้นฟูหลังสถานการณ์น้ำท่วมคลี่คลาย เช่น TASCO, DOHOME, GLOBAL, DCC, DRT, TOA และ DPAINT

สรุปได้ว่า บล. โกลเบล็ก มองแนวโน้มตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้เป็นไปในทิศทางบวก โดยมีปัจจัยหนุนทั้งจากสัญญาณการลดดอกเบี้ยของเฟดและ กนง. รวมถึงสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางที่เริ่มคลี่คลาย นอกจากนี้ ยังแนะนำให้จับตาหุ้นกลุ่มซ่อมแซมบ้านที่อาจได้รับประโยชน์จากสถานการณ์น้ำท่วม สำหรับตลาดทองคำ บริษัทฯ คาดว่าราคาจะแกว่งตัวในกรอบแคบ โดยได้รับแรงหนุนจากแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของเฟดและความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงต้องจับตาข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ ที่จะประกาศออกมาในสัปดาห์นี้