รับมือกับหัวหน้าตัวร้ายสุด Toxic อย่างไร ที่ไม่ทำให้คุณเสียสติไปก่อน
เป็นเรื่องที่ทราบกันโดยทั่วไปว่า “หัวหน้า” มีผลต่อประสบการณ์การทำงานของคุณ หัวหน้าที่ดีจะช่วยเปิดประตูสู่โอกาส และช่วยให้คุณก้าวหน้าในอาชีพ แต่สำหรับเหล่าหัวหน้าที่เป็นพิษแล้ว พวกเขาก็สามารถทำให้คุณร้องไห้ในทุกเช้าที่ตื่นไปทำงานได้เลย ถ้าหากคุณรู้สึกว่า ตอนนี้กำลังเป็นแบบหลัง ลองมาหาวิธีรับมือกับเหล่าบอสตัวร้ายกันหน่อยว่า จะทำอย่างไรไม่ให้ตัวเองเสียสติไปก่อนที่เราจะสามารถย้ายตำแหน่งหรือหางานใหม่แล้วลาออกได้
คอนเทนต์แนะนำ
ประเมินว่าบอสต้องการอะไร
มันอาจจะยากที่จะรู้ว่าบอสต้องการอะไรจากคุณ เมื่อต้องเจอกับหัวหน้าที่เป็นพิษ แต่มีสองวิธีที่สามารถช่วยคุณได้ วิธีแรกคือการขอความชัดเจน หาเวลาพูดคุยกับผู้บังคับบัญชาของคุณ ตรวจสอบว่าพวกเขาให้ความสำคัญกับอะไรเป็นอันดับแรก แต่ถ้าเคยลองคุยแล้ว ไม่ได้ผล ก็ลองสังเกตแทนว่าหัวหน้าของคุณมีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น ๆแบบไหน สังเกตว่าทำอะไรแล้วเขาจะชอบ หรือเมื่อใดที่หัวหน้าจะเครียดที่สุด การสังเกตจะช่วยให้คุณเข้าใจวิธีการทำงานร่วมกับหัวหน้า
อย่างไรก็ตาม หากคุณมั่นใจว่าคุณทำงานได้ดีเยี่ยมแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถตอบสนองความต้องการของหัวหน้าได้อยู่ดี ก็ข้ามไปข้อแนะนำข้ออื่นได้เลย
อย่าไปเอาคำพูดทั้งหมดเก็บมาคิดมาก
อย่าเอาคำพูดทั้งหมดของเจ้านายกลับมาคิดมาก เมื่อคุณมั่นใจว่าคุณทำงานได้ดีและตอบสนองตามความคาดหวังแล้ว ก็สามารถสันนิษฐานได้ว่าไม่ใช่คุณที่มีปัญหา แต่เป็นหัวหน้านั่นแหละ หากหัวหน้าของคุณมีท่าทางดูหมิ่น วิจารณ์มากเกินไป ให้รับรู้ว่า เขาอาจจะเป็นแบบนี้กับคนอื่นด้วย และคุณอาจจะสังเกตเห็นว่า เขาปฏิบัติต่อเพื่อนร่วมงานคนอื่น ๆ ในลักษณะเดียวกันกับที่ปฏิบัติต่อคุณ
ดังนั้น อย่าไปเอาคำพูดของหัวหน้ามาคิดมากเป็นการส่วนตัว ฝึกกรองคำพูดของเขา โดยเก็บเฉพาะความคิดเห็นที่ช่วยให้คุณพัฒนาการทำงานของคุณ และทิ้งคำพูดเชิงลบหรือคำวิจารณ์ที่ไม่มีคุณค่าใด ๆ ทิ้งไป
สร้างกลุ่มสนับสนุนของคุณขึ้นมา
การทำงานกับหัวหน้าที่เป็นพิษอาจทำให้คุณหงุดหงิดและหมดพลังใจ การสร้างเครือข่ายสนับสนุนในที่ทำงานเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยเสริมกำลังใจและช่วยเหลือทั้งการทำงานและการสร้างประสบการณ์ในแต่ละวันของคุณ เมื่อสร้างเครือข่ายนี้ คุณควรมองหาสามตำแหน่งสำคัญ คือพันธมิตร ที่ปรึกษา และผู้สนับสนุน
พันธมิตรอาจจะเป็นเพื่อนร่วมทีมที่ทำงานใกล้ชิดกับคุณและหัวหน้าคนเดียวกัน ที่ปรึกษาควรเป็นคนที่สามารถช่วยคุณแก้ปัญหาในที่ทำงานด้วยปัญญา ส่วนผู้สนับสนุนคือบุคคลที่สามารถพูดถึงการทำงานของคุณในที่ประชุมหรือเข้าถึงโอกาสที่คุณเข้าไม่ถึง รวมถึงสามารถรับรองความสามารถและงานของคุณได้
แม้ว่าการสร้างความสัมพันธ์เหล่านี้อาจต้องใช้เวลาและความตั้งใจ แต่ก็คุ้มค่า
เสริมสร้างความมั่นใจในตัวเอง
การทำงานในสภาพแวดล้อมที่เป็นพิษสามารถกัดกร่อนความมั่นใจของคุณได้อย่างมาก หากไม่มีการดูแลสภาพจิตใจ สิ่งนี้อาจทำให้คุณเริ่มสงสัยในทักษะและความสามารถของตนเอง นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมการปกป้องความมั่นใจในตัวเองจึงเป็นเรื่องสำคัญ เพราะมันจะช่วยป้องกันไม่ให้วันหนึ่งคุณตื่นขึ้นมาพร้อมความรู้สึกว่า คุณไม่เชื่อมั่นในตัวเอง และทักษะที่คุณอุตส่าห์พัฒนามาอย่างหนักเอาเสียเลย
วิธีแนะนำอย่างหนึ่งในการช่วยเสริมสร้างความมั่นใจคือ แยกตัวตนของคุณออกจากอาชีพการงาน โดยการสร้างชีวิตที่คุณเพลิดเพลินนอกเวลางาน ลองหางานอดิเรกใหม่ ๆ ใช้เวลาอยู่กับคนที่คุณรักมากขึ้น หรือหาอะไรที่สนุกหรือผ่อนคลายหลังเลิกงานทำ แม้จะเป็นเพียงสัปดาห์ละครั้งก็ตาม สิ่งเหล่านี้อาจจะฟังดูทำได้ยากในขณะที่งานกำลังส่งผลกระทบเชิงลบต่อชีวิตของคุณ แต่มันเป็นสิ่งจำเป็น หากคุณต้องการรักษาความสงบทางจิตใจและคุณค่าในตัวเองเอาไว้
หาทางออกไว้รอ เปลี่ยนตำแหน่งหรือเปลี่ยนบริษัทไปเลย
แม้ว่าคุณอาจจะสามารถรับมือกับหัวหน้าที่เป็นพิษได้ แต่ถ้าคุณพบว่า หัวหน้าเป็นอุปสรรคต่อความก้าวหน้าในอาชีพการงานของคุณ อาจถึงเวลาที่ต้องวางแผนสำหรับการก้าวไปข้างหน้า หากคุณยังคงชอบบริษัทปัจจุบัน คุณอาจลองสำรวจโอกาสภายในองค์กรที่ให้คุณได้ทำงานกับผู้จัดการที่ดีกว่า แต่ถ้าคุณไม่เห็นคุณค่าในการอยู่ต่อ อาจถึงเวลาที่จะเริ่มต้นใหม่ในที่อื่น
แน่นอนว่าการรับมือกับหัวหน้าที่เป็นพิษไม่ใช่เรื่องง่าย และก่อนที่คุณจะสามารถหนีจากปัญหาเหล่านั้นได้ คำแนะนำเหล่านี้ก็อาจจะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อย
