สำหรับธุรกิจแล้ว ‘อุปสรรค’ อาจเป็นสิ่งที่ทำให้ธุรกิจชะงักไปต่อได้ยาก แต่หากมีหลักคิดที่ถูกต้อง ประกอบปัจจัยที่เหมาะสม ธุรกิจไม่เพียงเอาชนะอุปสรรคได้ แต่ยังสามารถสร้างเป็นธุรกิจใหม่ได้ด้วย
โดยเฉพาะในจุดที่มลพิษกำลังกลายเป็น ‘ตัวร้าย’ ที่ธุรกิจจะต้องถอยห่างให้ไกล บางธุรกิจกำลังทุลักทุเลในการเปลี่ยนผ่านจากการทำธุรกิจแบบทำร้ายโลกสู่ความยั่งยืน หลายธุรกิจได้ใช้โอกาสนี้ แตกไลน์ธุรกิจใหม่ที่ช่วยให้ธุรกิจของตนและธุรกิจอื่น เปลี่ยนผ่านสู่ความยั่งยืน สร้างเม็ดเงินใหม่ให้กับองค์กร
คุณเฉลิมพงษ์ ฮุนพงษ์สิมานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ กลุ่มงานธุรกิจใหม่ กลุ่มมิตรผล เสนอแนวคิด 3 แรงขับเคลื่อน สร้าง S-Curve ให้ธุรกิจ ได้แก่
ไม่เพียงแนวคิดที่ถูกต้องเท่านั้น เทรนด์ของโลกที่เหมาะสม จะช่วยเร่งการเติบโตให้ธุรกิจพันธุ์ใหม่ที่รักษ์โลก ไม่ได้เร็วยิ่งขึ้น เช่น เทรนด์สังคมสูงวัยแบบสุขภาพดี (Healthy Aging Society), เทรนด์ความยั่งยืนสำหรับธุรกิจ, เทรนด์ธุรกิจที่ดูแลด้านความยั่งยืนโดคยเฉพาะ เป็นต้น
ด้านคุณประภาดา ประพันธ์ ผู้จัดการส่วนพัฒนาธุรกิจ บริษัทสยามคูโบต้าคอร์เปอเรชั่น จำกัด ได้ยกตัวอย่างการเกิด New S-Curve ของคูโบต้า ซึ่งแต่ละจังหวะเกิดจากการเอาชนะความท้าทาย และนำมาสร้างเป็นธุรกิจ ได้แก่ เมื่อธุรกิจหัวจักรเพื่อการเกษตรเริ่มเติบโตช้า คูโบต้าก็ได้ขยายธุรกิจจากการจำหน่ายหัวรถจักร สู่การทำ ‘Modern Farming’ (เครื่องช่วยทุ่นแรงเกษตรกร) และบริการสินเชื่อเพื่อเกษตรกร และปัจจุบัน กำลังทำการศึกษาวิจัยรถแทร็กเตอร์ EV รวมถึงรถแทร็กเตอร์พลังงานไฮโดรเจน หลังจากการที่ภาคเกษตรถูกจับจ้องในฐานะผู้ผลิตคาร์บอนรายใหญ่ของโลก
ส่วนคุณเฉลิมพงษ์จากมิตรผล ได้ยกตัวอย่างการนำกากของเสียต่างๆ จากธุรกิจน้ำตาล แป้งมันสำปะหลัง มาทำเป็นพลังงานสะอาดใช้ภายในโรงงาน, นำกากผลผลิตทางการเกษตรมาสร้างเป็นธุรกิจผลิตพลังชีวมวล ทั้งไบโอแมส, ไบโอดีเซล รวมถึงเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องบินสำหรับพลังงานสะอาดอีกด้วย
หากธุรกิจนำ 3 หลักคิดนี้มาใช้ พร้อมกับอาศัยการจับจังหวะเทรนด์ของโลก ก็อาจเกิดเป็น S-Curve ใหม่ๆ พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส และสร้างธุรกิจใหม่ที่เป็นมิตรต่อโลกขึ้นมาได้