“ซื้อ iPhone 15 Pro Max เลยดีไหม แต่ Galaxy S24 Ultra ก็ใกล้จะออกแล้ว” นี่คงเป็นปัญหาใหญ่ที่เวียนมาทุกช่วงปลายปีของคนที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนเรือธงตัวท้อป Apple และ Samsung ซึ่งในรอบนี้ Samsung เตรียมเผยโฉมสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่เร็วกว่าปกติ จากเดือน ก.พ. มาเป็นเดือน ม.ค. 2024 ให้ Galaxy 24 Ultra ได้ออกมาท้าชนกับ iPhone 15 Pro Max ได้เร็วกว่าเคย
ในช่วงเวลา 2 เดือนนิดๆ ก่อนจะได้เห็น Samsung รุ่นใหม่ ในแวดวงเทคโนโลยีก็เริ่มมีทั้งรูป Concept design และคาดการณ์สเปค เผยออกมาให้เห็นมากขึ้นเรื่อยๆ Spotlight รวบรวมสเปคจากคาดการณ์ของกูรูต่างชาติหลายสำนัก มาเทียบกับ iPhone 15 Pro Max เพื่อเป็นตัวช่วยให้คุณ ตัดสินใจถอยสมาร์ทโฟนเครื่องใหม่ได้ง่ายขึ้น
*หมายเหตุ รูป Samsung Galaxy S24 Ultra เป็นภาพ Concept Design จาก Technizo*
ความเห็นกูรู : สาวก Apple หรือแม้แต่ สาวก Android จำนวนมากก็เฝ้ารอการเปลี่ยนพอร์ตชาร์จของ Apple จาก Lightning มาเป็น USB-C ด้านความเร็วในการชาร์จนั้น ฝั่ง Samsung ยังคงทำได้ดีกว่าที่ 45 W ในขณะที่ของ Apple ชาร์จเร็วสุดที่ 27 W (เมื่อชาร์จด้วยอแดปเตอร์ 30 W) แต่ฝั่ง Apple ชูจุดเด่นเทคโนโลยี USB 3 ที่รับส่งข้อมูลอย่างรวดเร็วด้วยเทคโนโลยี Thunderbolt 3 ที่ความเร็ว 40Gbps และ USB 3.1 Gen 2 ที่ความเร็ว 10 Gbps เมื่อใช้กับสายชาร์จเฉพาะจาก Apple
ในด้านความสว่าง Samsung Galaxy S24 Ultra ขยับความสว่างขึ้นไปสูงถึง 2,500 nits ซึ่งจะมีประโยชน์สำหรับผู้ที่ต้องใช้งานกลางแจ้งบ่อยๆ ส่วนวัสดุนั้น ในรุ่นใหม่นี้ มีแววว่าทั้งสองค่ายจะหันมาใช้กรอบไทเทเนียมเหมือนกัน ซึ่งของ Apple นั้นเปิดตัวมาก่อน ด้าน Samsung แม้ไม่ได้ปรับดีไซน์อย่างหวือหวา แต่มีข่าวลือว่าจะลดความมนของขอบจอลงต่อเนื่อง หลังจากที่ลดลงแล้วในรุ่น S23 Ultra รวมถึงอาจนำเทคโนโลยี AI จาก Google หรือ Microsoft มาใช้เพื่อให้กลายเป็น สมาร์ทโฟนสุดล้ำที่ทำงานสารพัด AI ได้ในเครื่องเดียว
ความเห็นกูรู : ณ ขณะนี้ยังไม่มีข่าวว่า Samsung จะขึ้นราคามือถือเรือธงจากปีก่อน ซึ่งอ้างอิงจากราคาของ Samsung Galaxy S24 Ultra แล้ว ในปีหน้านี้ S24 Ultra ก็อาจเปิดตัวเท่ากันที่ 43,900 บาท อย่างไรก็ดี ในสนามการแข่งขันด้านราคานั้น เนื่องจากสมาร์ทโฟนที่ขายดีของ Samsung ถึง 75% เป็นรุ่นราคาระดับกลางถึงล่าง จึงทำให้ราคาขายเฉลี่ย (ASP, Average Selling Price) ของ Samsung อยู่ที่ 295 ดอลลาร์ ในขณะที่ Apple ซึ่งมีกลุ่มสินค้าที่ราคาสูงกว่า มีราคาขายเฉลี่ยอยู่ 988 ดอลลาร์ ในปีหน้า Samsung จึงมีแผนจะดันสินค้าพรีเมียมอย่างซีรีส์ S24 ให้มากขึ้น พร้อมเพิ่มยอดขายสมาร์ทโฟนฝาพับตระกูล Galaxy Z ให้เพิ่มขึ้น
ความเห็นกูรู : Tom’s Guide เผยว่า มีความเป็นไปได้สูงที่ Samsung Galaxy S24 Ultra จะใช้ชิปเซ็ตรุ่นใหม่ Snapdragon Gen 3 จาก Qualcomm ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา โดยมาพร้อมกับเครื่องที่วางขายในสหรัฐและเกาหลีใต้ ส่วนในภูมิภาคอื่นจะได้ชิป Exynos 2400 ที่พัฒนาโดย Samsung เอง ซึ่งแม้ในรุ่นก่อนๆ จะแฟนคลับจะถวิลหา Snapdragon มากกว่า แต่ผลการทดสอบประสิทธิภาพของ Exynos 2400 ที่หลุดออกมา ก็แสดงให้เห็นว่าน่าจะทำให้แฟนคลับ Samsung ประทับใจได้มากขึ้น
ด้าน Nano Review พูดถึงจุดเด่นของชิปทั้งสองชนิด จากการทดสอบประสิทธิภาพของหลากหลายสำนัก ว่า Qualcomm Snapdragon 8 Gen 3 นั้น มีจุดเด่นอยู่ที่การประมวลผลโดยรวมที่เร็วกว่า การทำงานที่ลื่นไหล รองรับการทำงานหลายแอปพร้อมๆ กัน ในขณะที่ Apple A 17Pro นั้นมีจุดเด่นที่กราฟฟิก เหมาะสำหรับสายเกมมิ่งคืองานที่ต้องใช้กราฟฟิก และจัดการกับความร้อนได้ดีกว่า อย่างไรก็ตาม ทั้งสองถือเป็นชิปที่ดีที่สุดของตลาดในขณะนี้แล้ว
ความเห็นกูรู : จุดเด่นของ Samsung เรื่องเลนส์ซูมยังคงน่าจับตามอง แม้ว่า iPhone 15 Pro Max จะอัพเกรดเลนส์ซูมเป็นแบบ Periscope เหมือนกับของ Saumsung แล้ว แต่ Samsung ก็อาจแก้เกมด้วยการเพิ่มระดับความคมชัดให้กับเลนส์ซูมให้กับทาง Galaxy S24 Ultra ยกระดับคุณภาพของภาพถ่ายระยะไกล ซึ่งสำหรับกล้องหลัก นั้น Samsung ก็เตรียมขยายขนาดเซอร์รับแสง ซึ่งจะทำให้ได้ภาพที่มีคุณภาพดีขึ้น ถ่ายภาพในที่มืดได้ดีขึ้นไปอีก
ด้านภาพถ่ายวิดีโอนั้น Apple นั้นถือเป็นผู้นำอยู่เสมอ แม้จะเป็นการแข่งขันกันของรุ่นก่อน Apple ก็ยังถ่ายได้ใสกว่า ซึ่งต้องรอติดตามว่า S24 Ultra จะออกมาแก้เกมตรงจุดนี้หรือไม่ หนึ่งฟีเจอร์ของ S24 Ultra คือการถ่ายวิดีโอที่ความคมชัดถึง 8K ซึ่งอาจเกิดความจำเป็นสำหรับผู้ใช้ส่วนใหญ่ เพราะมีขนาดวิดีโอขนาดมหึมา และยังมีอุปกรณ์รองรับได้น้อย
นี่เป็นเพียงข่าวลือของสมาร์ทโฟนเรือธง Samsung Galaxy S24 Ultra ที่โผล่ออกมาให้เห็นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในอีก 2 เดือนต่อจากนี้ เราก็จะได้ยลโฉมกับ S24 Ultra แล้ว ซึ่ง Spotlight จะตามติดความเคลื่อนไหวของโลกสมาร์ทโฟนอย่างใกล้ชิด เพื่อให้คุณมีข้อมูลครบถ้วนในการตัดสินใจเลือกสมาร์ทโฟนคู่กาย
ที่มา : Apple, Samsung, Tom’s guide, Phone Arena, Nanoreview, Sammobile, Hindustan Times Tech, Forbes, Laptopmag, Technizo