หน่วยข่าวกรองทหารของยูเครน เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 14 และ 15 ธันวาคม หน่วยทหารจากเกาหลีเหนือ และรัสเซียถูกโจมตีอย่างหนักบริเวณหมู่บ้านเพลคโฮโว โวรอซช์บา และ มาร์ตีนอฟกา ในแคว้นเคิร์สค์ของรัสเซีย ทำให้มีทหารเสียชีวิตรวม 200 นาย ในจำนวนนี้เป็นทหารเกาหลีเหนืออย่างน้อย 30 นาย รวมถึงมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก
ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ของยูเครน ยังได้เผยแพร่ภาพวิดีโอแสดงให้เห็นถึงร่างไร้ชีวิตของทหารเกาหลีเหนือ ในพื้นที่ที่พวกเขาถูกสังหาร จากนั้นจึงเผยให้ทหารรัสเซียกำลังจุดไฟเผาร่างเหล่านั้นบนพื้นดินที่เต็มไปด้วยหิมะ โดยเขาอ้างว่าอาจเป็นการอำพรางศพ เพื่อไม่ให้กองกำลังยูเครนระบุสัญชาติได้ว่าเป็นชาวเกาหลีเหนือ ซึ่งเป็นการดูแคลนต่อมนุษย์ด้วยกันและไร้ซึ่งมนุษธรรม
สอดคล้องกับโฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ พลเอกแพต ไรเดอร์ ที่ออกมากล่าวว่า สหรัฐฯ มีสิ่งบ่งชี้ว่ากองกำลังเกาหลีเหนือได้รับความสูญเสีย โดยมีทั้งทหารที่เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ แต่ไม่สามารถระบุจำนวนทหารที่สูญเสียไปได้อย่างชัดเจน
ประธานาธิบดียูเครน กล่าวเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า รัสเซียกำลังใช้ทหารเกาหลีเหนือจำนวนมากเป็นครั้งแรก เพื่อโจมตีในแคว้นเคิร์สต์ ทางตอนใต้ของรัสเซีย โดยรัฐบาลเกาหลีเหนือได้ส่งกองทัพทหารเกาหลีเหนือเข้ามาประจำในหลายเมืองของรัสเซีย ซึ่งเป็นนวนมากกว่า 11,000 นาย ด้านรัฐบาลรัสเซียไม่ได้ยืนยันหรือปฏิเสธว่ามีชาวเกาหลีเหนืออยู่ฝ่ายตน ขณะที่รัฐบาลเกาหลีเหนือกลับแถลงว่าการส่งทหารไปประจำการที่รัสเซียนั้นเป็นเพียงข่าวปลอม
เกาหลีเหนือได้รับอาหาร น้ำมัน และเงินสนับสนุนจากรัสเซีย เพื่อเป็นการตอบแทนในการส่งกองกำลังทหารสนับสนุนการสู้รบกับยูเครน นอกจากนี้ เกาหลีเหนือยังต้องการความช่วยเหลือจากรัสเซียในการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์และองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีการบิน ซึ่งก่อนหน้านี้ คณะผู้แทนเกาหลีเหนือจำนวนมากได้ไปเยี่ยมชมสถาบันการบินของรัสเซีย
นับตั้งแต่สหภาพโซเวียตยุติการให้ความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจในปี 1990 รัฐบาลเกาหลีเหนือก็พยายามสานสัมพันธ์กับรัสเซียมาโดยตลอด เพื่ออ้าแขนรับความช่วยเหลือจากรัสเซีย ดังนั้น การส่งทหารนับหมื่นนายไปประจำการที่รัสเซียจึงเป็นความใกล้ชิดที่สุดครั้งหนึ่งหลังปี 1990 ซึ่งแน่นอนว่าเกาหลีเหนือจะได้รับผลประโยชน์ทางการค้า การท่องเที่ยว และการแลกเปลี่ยนทรัพยากรและบุคลากร ไปจนถึงการส่งทหารและคนงานไปยังรัสเซีย
หน่วยข่าวกรองของเกาหลีใต้ เปิดเผยว่า กองกำลังทหารเกาหลีเหนือที่ถูกส่งไปยังรัสเซียนั้น เป็นกองกำลังพิเศษที่ได้รับการฝึกฝนเป็นอย่างดี มีความสามารถมากกว่าหน่วยทหารราบทั่วไป ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อรัสเซียอย่างมากในการเดินเกมรุกคืบยูเครน อย่างไรก็ตาม ข้อเสียของการจัดตั้งกองกำลังผสมของรัสเซียและเกาหลีเหนือ อาจสร้างความสับสนใจด้านการสั่งการ เนื่องจากมีกองบัญชาการที่ซ้ำซ้อน