คู่รักข้าวใหม่ปลามัน บิลลี่และริชาร์ด เดินทางกลับจากฉลองฮันนีมูนหวานชื่นบนเกาะสวรรค์เซเชลส์ ในทวีปแอฟริกา ทั้งคู่ขึ้นเครื่องจากสนามบินโดฮา ประเทศการ์ตา มุ่งหน้ากลับบ้าน จบทริปอันสวยงามที่สนามบินฮีทโธรว์ กรุงลอนดอน ของอังกฤษ บิลลีนอนหลับลึกหลังจากเครื่องบินเทคออฟ เธอตื่นมาอีกครั้งและมองออกไปนอกหน้าต่าง เห็นพระอาทิตย์ขึ้นส่องประกายแสงสีทองเข้าตา และรู้สึกดีใจที่บรรยากาศที่บ้านสดใสต้อนรับการกลับมาของพวกเขา
หลังจากชื่นชมทิวทัศน์และท้องฟ้าได้ไม่นาน ริชาร์ดก็ตบไหล่เธอเบา ๆ และประกาศข่าวสุดช็อตฟีล “เรากำลังจะลงจอดที่เยอรมนีจ้ะ!” เธอหลับไประหว่างที่นักบินประกาศว่าเที่ยวบิน QR011 ของพวกเขาเปลี่ยนเส้นทางเนื่องจากมีปัญหาเกี่ยวกับระบบไฟฟ้าที่สนามบินฮีทโธรว์ จำเป็นต้องระงับเที่ยวบินเข้าออกทั้งหมดตั้งแต่เมื่อวานนี้ (21 มีนาคม 68) ทั้งคู่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของผู้โดยสารหลายพันคน ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุขัดข้องที่เกิดขึ้นทั่วสนามบินฮีทโธรว์
“มันน่าตกใจมาก” บิลลี่กล่าว “ตอนนั้นเราเดินทางกันมาประมาณ 15 ชั่วโมงแล้ว และทั้งคู่ก็มีอาการเจ็ตแล็กและนอนไม่พอ ดังนั้นความคิดที่จะต้องลงจากเครื่องบินและพยายามคิดว่าจะทำอย่างไรต่อไปจึงดูน่ากังวลไปหมด” บนเที่ยวบินของสายการบินกาตาร์แอร์เวยส์ เธอเล่าว่าลูกเรือไม่สามารถให้รายละเอียดเพิ่มเติมใด ๆ ได้เลย
แต่ผู้โดยสารบางคนก็ได้รับผลกระทบหนักอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ คิม มิคเคล สกิเบรก อยู่บนเครื่องบินของสายการบินเดลต้าแอร์ไลนส์ จากมินิโซตาไปยังฮีทโธรว์ ซึ่งเป็นไฟลท์ 3 ชั่วโมง ก่อนที่นักบินจะประกาศว่าเครื่องบินกำลังเดินทางกลับสหรัฐอเมริกา
สกิเบรก ซึ่งเป็นพลเมืองสหรัฐฯ-นอร์เวย์ กำลังพยายามเดินทางไปออสโลโดยต้องไปเปลี่ยนเครื่องที่ลอนดอน เพื่อไปเยี่ยมพ่อของเขาซึ่งเป็นโรคมะเร็ง ในขณะเดียวกัน แอบบี เฮิร์ตซ์ ผู้โดยสารบนเที่ยวบินเดลต้าเที่ยวบินเดียวกัน กำลังมุ่งหน้าไปลอนดอนพร้อมกับสามีและลูกสองคนของเธอเพื่อเข้าร่วมงานแต่งงานในวันนี้ (22 มีนาคม)
ปัญหาไฟฟ้าขัดข้องดังกล่าวเกิดจากเหตุไฟไหม้รุนแรงที่โรงไฟฟ้าสำคัญใกล้เคียง ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าหลักที่จ่ายไฟให้กับสนามบิน ส่งผลให้การจราจรทางอากาศทั้งขาเข้าและขาออกต้องปิดให้บริการ ขณะนี้ มีการเปิดให้บริการบางส่วนแล้ว แต่อีกหลายเที่ยวบินจำต้องเปลี่ยนเส้นทางไปลงสนามบินใกล้เคียง และเรียกได้ว่ากระทบกับเส้นทางบินทั่วโลก เพราะสนามบินฮีทโธรว์เป็นสนามบินนานาชาติที่ใช้เป็นจุดเปลี่ยนเส้นทางสำคัญของทั่วโลก
การปิดสนามบินชั่วคราวเป็นเวลาหลายวัน และยิ่งตรงกับช่วงสุดสัปดาห์ อาจส่งผลให้อุตสาหกรรมการบินสูญเสียเงินหลายร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ผู้เชี่ยวชาญด้านการบินเผยว่า ความโกลาหลในครั้งนี้ คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อเที่ยวบินมากกว่า 1,300 เที่ยวบินและบริษัทวิเคราะห์สายการบิน Cirium ประเมินว่าผู้โดยสารมากกว่า 145,000 คน อาจได้รับผลกระทบ ด้านชูกอร์ ยูซอฟ ผู้ก่อตั้ง Endau Analytics บริษัทที่ปรึกษาอุตสาหกรรมการบิน ซึ่งมีฐานอยู่ในสิงคโปร์ กล่าวกับ CNN ว่าความสูญเสียทางการเงินจากการปิดหน่วยงานดังกล่าวอาจสูงถึงหลายร้อยล้านปอนด์
จากข้อมูลล่าสุด สนามบินฮีทโธรว์เป็นสนามบินที่มีผู้ใช้บริการมากที่สุดเป็นอันดับ 4 ของโลกในปี 2023 โดยมีผู้โดยสารใช้บริการสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 83.9 ล้านคนเมื่อปีที่แล้ว ด้านจอห์น แกรนท์ นักวิเคราะห์อาวุโสจาก OAG ซึ่งเป็นผู้ให้บริการข้อมูลการเดินทาง ประเมินว่าอาจต้องใช้เวลานานถึง 4 วันจึงจะสามารถแก้ไขปัญหาเที่ยวบินหยุดชะงักได้สมบูรณ์
นอกจากนี้ การปิดสนามบินในลักษณะนี้อาจส่งผลกระทบต่อหน่วยงานและบุคคลอื่น ๆ นอกเหนือจากสายการบินและนักเดินทาง เพราะเครือข่ายและบุคคลทั้งหมดที่เกี่ยวข้องในการดำเนินการต่าง ๆ ของสนามบิน ไม่ว่าจะเป็นผู้ค้าปลีก บริษัทขนส่งสินค้า ซัพพลายเออร์เชื้อเพลิงเครื่องบิน และชุมชนโดยรอบที่ต้องพึ่งพาสนามบินในการดำรงชีพ ก็จะได้รับผลกระทบไปด้วย
หุ้นของ International Airlines Group (IAG) บริษัทแม่ของสายการบินบริติชแอร์เวย์ส ร่วงลงมากถึง 5% ในช่วงเช้าวันศุกร์ หลังจากสนามบินฮีทโธรว์ต้องปิดให้บริการ ก่อนที่จะปรับตัวลดลงมาเหลือ 2.2% ในช่วงบ่ายเมื่อวานนี้ นักวิเคราะห์จาก Jefferies ซึ่งเป็นธนาคารเพื่อการลงทุน กล่าวในบันทึกว่า การชดเชยให้กับผู้เดินทางน่าจะเป็นต้นทุนโดยตรงที่ใหญ่ที่สุดสำหรับสายการบิน หุ้นของสายการบิน Lufthansa ของเยอรมนีลดลง 2.1% ในช่วงเวลาเดียวกัน ขณะที่ Air France-KLM ลดลง 2.5% หุ้นของสายการบิน Qantas ของออสเตรเลียปิดตลาดลดลง 2.4%