จีนจัดการประชุม China Development Forum ซึ่งเป็นเวทีสำคัญสำหรับการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างเจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีนและผู้นำภาคธุรกิจจากทั่วโลกเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา และปิดฉากลงเมื่อวานนี้ (24 มีนาคม 2025) นอกจากการประชุมครั้งนี้มีความสำคัญ เพราะมีเหล่าซีอีโอบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลกเข้าร่วมในจีน การประชุมดังกล่าวยังกลายเป็นเวทีการทูตอย่างไม่เป็นทางการระหว่างจีนและสหรัฐฯ ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและสงครามการค้าโลกที่กำลังเริ่มปะทุขึ้นจากนโยบายกำแพงภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ หลังเขากลับมาดำรงตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ อีกครั้ง
การประชุมดังกล่าวเปิดฉากโดยนายหลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีจีน โดยเขาระบุว่า จีนเตรียมพร้อมรับมือกับแรงสั่นสะเทือนที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่คาดคิด พร้อมกระตุ้นให้ภาคธุรกิจทั่วโลกต่อต้านการปกป้องทางการค้า และปกป้องแนวคิดโลกาภิวัตน์ เพราะแยกตัวออกจากกันและตัดขาดห่วงโซ่อุปทานจะยิ่งทำให้วิกฤตรุนแรงขึ้น พร้อมให้คำมั่นว่า จะขยายการเข้าถึงตลาดในหลายภาคส่วนสำหรับนักลงทุนต่างชาติ
ผู้นำจีนระบุว่า หากโลกย้อนกลับไปใช้กฎของป่า ซึ่งผู้แข็งแกร่งเท่านั้นจะอยู่รอด จะเป็นการทำให้ประวัติศาสตร์เดินถอยหลังและเป็นโศกนาฏกรรมของมนุษยชาติ และจีนได้เตรียมพร้อมรับมือกับแรงสั่นสะเทือนที่คาดไม่ถึง ซึ่งส่วนใหญ่แล้วมาจากภายนอก และถ้าหากจำเป็น รัฐบาลจีนจะออกนโยบายใหม่ เพื่อทำให้แน่ใจว่าเศรษฐกิจจีนจะดำเนินไปอย่างราบรื่น
คำกล่าวของนายกฯหลี่มีขึ้น ในช่วงเวลาที่จีนต้องพยายามสร้างความเชื่อมั่นและดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติ ท่ามกลางเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวลง เมื่อทั้งรัฐบาลจีน และการทำธุรกิจระหว่างจีน-สหรัฐฯ กำลังได้รับผลกระทบจากมาตรการภาษีของทรัมป์ ซึ่งอาจจะมีการยกระดับขึ้นอีกในเดือนเมษายน
อย่างไรก็ตาม การจัดประชุมดังกล่าวยังมีขึ้น ท่ามกลางช่วลเวลาที่บริษัทต่างชาติบางแห่งเริ่มระมัดระวังมากขึ้นในการทำธุรกิจในจีน เนื่องจากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์และมาตรการด้านความมั่นคงของจีน ขณะที่หลายประเทศแสดงความกังวลเกี่ยวกับการส่งออกจำนวนมากของจีนในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าและเทคโนโลยีสีเขียว โดยมองว่า นโยบายเงินอุดหนุนของรัฐบาลจีนทำให้การแข่งขันไม่เป็นธรรม
เป็นที่ทราบกันดีว่า การประชุมดังกล่าว China Development Forum จัดขึ้นเพื่อเป็นโอกาสอันดีให้เจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีนและผู้นำธุรกิจจากต่างชาติได้มาเจอกัน และในปีนี้ มีผู้บริหารระดับโลก เช่น ทิม คุก ซีอีโอของแอปเปิล, ราช สุบรามาเนียม ซีอีโอของเฟดเอ็กซ์ และอัลเบิร์ต บัวร์ลา ซีอีโอของไฟเซอร์ รวมถึงผู้บริหารจาก Qualcomm, IKEA, Siemens และ Boeing ก็เข้าร่วมการประชุมครั้งนี้เช่นกัน
นายกฯ หลี่ ได้พบกับ สตีฟ เดนส์ วุฒิสมาชิกสหรัฐฯ และพันธมิตรคนสำคัญของทรัมป์ นอกรอบการประชุม ซึ่งเดนส์ให้สัมภาษณ์กับ Wall Street Journal ว่า นี่เป็นก้าวแรกที่อาจนำไปสู่การพบกันระหว่างทรัมป์และประธานาธิบดี สี จิ้นผิง
ขณะที่นายหลี่เน้นย้ำว่า สหรัฐฯ และจีนมีผลประโยชน์ร่วมกันในวงกว้างและมีพื้นที่สำหรับความร่วมมืออย่างมหาศาล พร้อมเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายยึดหลักความร่วมมือแบบได้ประโยชน์ร่วมกัน
ในขณะเดียวกัน หวัง เหวินเทา รัฐมนตรีพาณิชย์ของจีน ได้หารือกับ ทิม คุก ซีอีโอของ Apple เมื่อวันจันทร์ โดยหวังย้ำจุดยืนของจีนว่า ไม่มีผู้ชนะในสงครามการค้า และยินดีหาก Apple ขยายการลงทุนและบูรณาการให้เข้ากับเศรษฐกิจจีนมากขึ้น
แม้ทรัมป์จะตั้งกำแพงภาษีต่อจีนอย่างต่อเนื่อง แต่ทรัมป์ระบุหลายต่อหลายครั้งว่า เขาหวังว่าจะสามารถบรรลุข้อตกลงกับจีนและประธานาธิบดี สี จิ้นผิงได้ โดยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ทรัมป์ส่งสัญญาณว่า เจ้านห้าที่การค้าระดับสูงของสหรัฐฯ และจีนอาจเปิดการเจรจาการค้าในสัปดาห์นี้