โดนัลด์ จอห์น ทรัมป์ เกิดที่ย่านควีนส์ รัฐนิวยอร์ก เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 1946 ปัจจุบันอายุ 78 ปี บิดาของเขาคือ เฟรด ทรัมป์ เป็นนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ประสบความสำเร็จ ทรัมป์จบการศึกษาจากสถาบันการทหารนิวยอร์ก และวิทยาลัยวอร์ตันด้านการเงินและการพาณิชย์ มหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย
เมื่อปี 1971 ทรัมป์เข้ามารับช่วงต่อบริษัทอสังหาริมทรัพย์ของผู้เป็นบิดา และเปลี่ยนชื่อใหม่เป็นบริษัททรัมป์ออร์แกไนเซชัน (Trump Organization) ซึ่งในเวลาต่อมา ธุรกิจของเขาก็เริ่มแตกสาขาออกเป็นโครงการต่างๆมากมาย ทั้งโรงแรม รีสอร์ต ที่พักอาศัย อาคารสำนักงาน คาสิโน และสนามกอล์ฟ ทรัมป์ยังเขียนหนังสือมากมาย โดยเล่มแรกคือ The Art of the Deal หรือศิลปะแห่งการเจรจาต่อรอง ถูกตีพิมพ์เมื่อปี 1987 ก่อนที่เมื่อปี 2004 ทรัมป์จะเปลี่ยนบทบาทจากนักธุรกิจมาเป็นพิธีกร ด้วยการจัดรายการเรียลลิตี The Apprentice บนโทรทัศน์
ปี 2005 ทรัมป์สมรสกับแมลาเนีย ทรัมป์ มีบุตรชายด้วยกันหนึ่งคนคือ บาร์รอน ทรัมป์ แต่ทรัมป์มีบุตร 4 คนก่อนหน้านั้นกับภรรยาคนอื่นๆ
เมื่อปี 2016 ทรัมป์ชนะการเลือกตั้งได้นั่งเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐฯคนที่ 45 โดยครั้งนั้นเขามาพร้อมสโลแกนหาเสียงที่โด่งดังคือ “Make America Great Again.” หรือทำให้อเมริกายิ่งใหญ่ขึ้นมาอีกครั้ง ถึงแม้จะไม่มีประสบการณ์ทางการเมืองมาก่อนหน้านั้นเลย แต่ทรัมป์ก็สามารถทำงานในฐานะผู้นำสหรัฐฯจนครบวาระ
ในขณะที่เขาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี ทรัมป์ลงนามในกฎหมายปฏิรูปภาษี 6 ฉบับ และเขายังโด่งดังในเรื่องนโยบายกีดกันทางการค้ากับต่างชาติ แต่ในขณะเดียวกัน ทรัมป์ก็กลับไปเจรจาข้อตกลงทางการค้ากับเม็กซิโก แคนาดา จีน ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ ทรัมป์ยังใช้นโยบายควบคุมชายแดนที่เด็ดขาด และสร้างกำแพงกั้นพรมแดนสหรัฐฯกับเม็กซิโกขึ้นด้วย
ส่วนนโยบายต่างประเทศ รัฐบาลทรัมป์ย้ายสถานทูตสหรัฐฯในอิสราเอลจากกรุงเทลอาวีฟ ไปยังนครเยรูซาเลม ซึ่งกรณีดังกล่าวสร้างความไม่พอใจให้แก่ปาเลสไตน์และหลายประเทศ เพราะมองว่า สหรัฐฯออกโรงสนับสนุนอิสราเอลอย่างเต็มตัวเกินไป เนื่องจากนครเยรูซาเล็มถือเป็นนครศักดิ์สิทธิ์ของชาวปาเลสไตน์ การที่สถานทูตสหรัฐฯประจำอิสราเอลไปตั้งอยู่ที่นั่น เหมือนเป็นการประกาศว่า สหรัฐฯยอมรับว่า อิสราเอลเป็นเจ้าของนครศักดิ์สิทธิ์ดังกล่าว
แต่เมื่อปี 2018 เขาก็สร้างปรากฏการณ์ด้วยการเป็นผู้นำสหรัฐฯคนแรกที่เข้าพบปะหารือในการประชุมสุดยอดผู้นำกับคิม จองอึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ
ถัดมาในปี 2019 สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯยื่นถอดถอนทรัมป์ออกจากตำแหน่ง โดยกล่าวหาว่าเขาใช้อำนาจในทางที่มิชอบ และกีดขวางการทำงานของสภาคองเกรส แต่ในปี 2020 วุฒิสภาของสหรัฐฯก็ตัดสินว่าทรัมป์ไม่มีความผิดในสองประเด็นดังกล่าว
ในปี 2020 เกิดการระบาดของโควิด 19 ในสหรัฐฯ โดยทรัมป์ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในการรับมือกับโรคระบาดที่ล่าช้า และไม่ได้บังคับใช้มาตรการทางสาธารณสุขอย่างเข้มข้น เพื่อลดการแพร่ระบาด และเมื่อตอนที่ทรัมป์พ้นวาระ มีรายงานชาวอเมริกันกว่า 400,000 คนเสียชีวิตจากโควิด 19
ในปลายปี 2020 ทรัมป์พ่ายแพ้การเลือกตั้งให้กับโจ ไบเดน แต่ทรัมป์ก็ออกมาอ้างว่ามีการโกงการเลือกตั้งเกิดขึ้น เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2021 ขณะที่สภาคองเกรสกำลังลงมติรับรองผลการเลือกตั้ง ผู้สนับสนุนทรัมป์เดินทางเข้ากรุงวอชิงตันดีซี เพื่อบุกอาคารรัฐสภา เหตุการณ์ครั้งนั้น ทำให้มีผู้เสียชีวิต 5 ราย และอาคารรัฐสภาได้รับความเสียหายคิดเป็นมูลค่าหลายล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ถัดมาในวันที่ 13 มกราคม 2021 การไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งของทรัมป์ และการที่ทรัมป์ถูกกล่าวหาว่าเป็นคนยุยงจนผู้สนับสนุนเขาบุกอาคารรัฐสภา ทำให้สภาผู้แทนราษฎรยื่นถอดถอนทรัมป์อีกครั้ง ดังนั้นทรัมป์จึงเป็นประธานาธิบดีเพียงคนเดียวในประวัติศาสตร์ของสหรัฐฯที่ถูกสภาคองเกรสยื่นถอดถอนถึงสองครั้ง
และในวันที่ 21 มกราคม 2021 เมื่อโจ ไบเดนสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทรัมป์ไม่ได้เดินทางไปเข้าร่วมในฐานะประธานาธิบดีคนก่อนหน้า ปิดฉากหน้าประวัติศาสตร์ประธานาธิบดีคนที่ 45 ของโดนัลด์ ทรัมป์