โรงโม่หินบุก ป.ป.ช. โอด 4 หน่วยงานรัฐกลั่นแกล้ง ยกพวกตัดกุญแจทางเข้า

26 มิ.ย. 67

 

โรงโม่หินบุก ป.ป.ช. โอด 4 ​หน่วยงานรัฐกลั่นแกล้ง​ ยกพวกตัดกุญแจทางเข้า อ้างชาวบ้านต้องการใช้เส้นทาง​ ทั้งที่บริษัทมีเอกสารสิทธิ์​ถูกต้อง

วันที่​ 26 มิ.ย.67 ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สนามบินน้ำ​ ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.นนทบุรี ตัวแทนผู้บริหารโรงโม่หิน ในพื้นที่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา พร้อมทนาย เข้ายื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่อ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อขอให้ตรวจสอบเจ้าหน้าที่ 4 หน่วยงานภาครัฐ 

ประกอบด้วย นายอำเภอปากช่อง นายกอบต.หนองน้ำแดง เจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.และเจ้าหน้าที่ ปปท. ว่าใช้อำนาจหน้าที่เกินกว่าเหตุหรือไม่ กรณีที่นำกำลังกว่า 50 นาย บุกรุกเข้าไปตัดกุญแจประตูรั้วทางเข้าโรงโม่หิน​ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 30 พ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นพื้นที่ของบริษัท ที่ถือครองตามโฉนดที่ดินที่ระบุชัดเจนว่าที่ดินติดเขา โดยอ้างว่าทำตามเอกสารราชการ แต่เมื่อทางโรงโม่​ขอดูเอกสาร​พบว่า​ไม่มีหนังสือคำสั่งราชการมาแสดง และไม่มีการแจ้งให้ทราบล่วงหน้า​แต่อย่างใด​ 

ซึ่งพื้นที่ดังกล่าว​เป็นทางเข้าของโรงโม่​มีมานานกว่า​ 30 ปีแล้ว​ เป็นเส้นทางที่บริษัทฯใช้ลำเลียงวัสดุอุปกรณ์ เข้าออกโรงโม่​ ที่ผ่านมาไม่เคยมีชาวบ้านร้องเรียนหรือใช้เส้นทางนี้ เพราะเป็นเพียงทางเข้าของโรงโม่ ไม่สามารถใช้สัญจรได้ ที่สำคัญยังเป็นพื้นที่อันตราย หากประชาชน สัญจรเข้าไป เสี่ยงถูกหินล่วงหล่นใส่ได้​ 

วันนี้ที่เดินทางมาร้อง​ ป.ป.ช.​และร้องสื่อ​ เพราะทุกวันนี้บริษัทอยู่ด้วยความระแวง ต้องให้พนักงานเฝ้ายามตลอด 24 ชั่วโมง กลัวเกิดความเสียหายหากมีคนบุกรุกเข้าไป เบื้องต้นทางบริษัทได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับ เจ้าหน้าที่ 4 หน่วยงานรัฐ ข้อหาร่วมกันบุกรุกพื้นที่ ที่สภ.ปากช่อง​ไว้แล้ว​ เชื่อว่ากรณีที่เกิดขึ้น​ น่าจะถูกกลั่นแกล้ง​ แต่ไม่ทราบว่าคนที่กลั่นแกล้งต้องการอะไร 

ตัวแทนผู้บริหารโรงโม่หิน ระบุเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้บริษัทโรงโม่หิน และหน่วยงานภาครัฐได้มีข้อพิพาทเรื่องที่ดิน ที่ผ่านมาทางบริษัทได้แจ้งสิทธิ์ในการครอบครองกรรมสิทธิ์ที่ดินติดเขาถูกต้องตามกฏหมาย ในอดีตเอกสารเป็น ส.ค.1 เมื่อปี 2498 ต่อมาเปลี่ยนเป็น น.ส.3 น.ส.3 ก และเป็นโฉนดเมื่อปี 2550 จึงเป็นที่ดินของบริษัทอย่างถูกต้อง เมื่อมีการออกเป็นโฉนด ซึ่งระบุพื้นที่ติดเขา หน่วยงานราชการแจ้งว่าถนนที่ทางบริษัทปิดไว้ ตามสิทธิ์การครอบครอง และเกรงว่าอาจเกิดอันตรายหากเปิดให้มีการสัญจรไปมาเป็นทางสาธารณะตามกฎหมายของกระทรวงมหาดไทย ที่ออกมาตั้งแต่ปี 2499 ที่ให้พื้นที่ไหล่เขา กว้าง 40 เมตร เป็นทางสาธารณะ ซึ่งตามความเป็นจริง บริษัทถือครองที่ดินมาก่อนกฏหมายดังกล่าว และใช้งบประมาณของทางบริษัททำเป็นถนนราดยางมะตอย ให้รถขนาดใหญ่เข้า-ออก 

นอกจากนั้นทางบริษัทยื่นคำร้องต่อศาล ขออำนาจคุ้มครอง และยื่นเอกสารการครอบครองต่อกรมที่ดิน ซึ่งอาจจะเกิดข้อผิดพลาดการออกโฉนดให้ทางบริษัทขาดพื้นที่ไปส่วนหนึ่ง ซึ่งร้องเรียนขอให้ออกโฉนดเพิ่ม แต่ภาครัฐหลายหน่วยงาน กลับเร่งรัดให้ทางบริษัทรื้อถอนรั้วที่ปิดไว้ เพื่อเปิดให้ประชาชนสัญจรไปมา โดยอ้างว่ามีประชาชนมาร้องเรียนขอให้เปิดทางพยายามกดดัน และส่งเอกสารราชการขอความร่วมมือให้เปิดทางตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาผ่านทางไลน์ ซึ่งขั้นตอนและข้อพิพาทยังไม่จบ มีประเด็นที่ทางบริษัทสงสัย คือทำไมเจ้าหน้าที่ ปปท.เข้ามาตรวจสอบ กดดันให้ภาครัฐเร่งดำเนินการทั้งที่เป็นข้อพิพาทของภาครัฐกับเอกชน ไม่ใช่ข้อพิพาทเรื่องทุจริตระหว่างภาครัฐด้วยกัน 

เมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา มีคนนำระเบิดมาวางไว้ที่ป้อมยาม แต่ไม่รู้ว่าเป็นฝีมือใคร ยืนยันบริษัทไม่เคยมีปัญหากับใคร ประกอบกับข้อพิพาทที่เกิดขึ้นสร้างความเสียหายให้กับบริษัทและส่งผลกระทบกับพนักงาน ไม่สามารถเข้าไปทำงานได้ ส่วนสาเหตุคาดว่าอาจจะเกิดจากปัญหาความขัดแย้งของคู่กรณีเกี่ยวกับเส้นทางเข้าไปในพื้นที่

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส