ครม.รับทราบ ข้อสังเกต กมธ.วิสามัญ แก้ไขเพิ่มเติม กฎหมายสมรสเท่าเทียม 

13 ส.ค. 67

 

ครม.รับทราบ ข้อสังเกต กมธ.วิสามัญ แก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์เกี่ยวกับครอบครัว 

วันที่ 13 ส.ค. 67 ที่ทำเนียบรัฐบาล นาย คารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (สมรสเท่าเทียม) ตามที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เสนอ 

สาระสำคัญเป็นการการแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์เกี่ยวกับครอบครัว เพื่อให้บุคคล 2 ท่าน ไม่ว่าเพศใด สามารถทำการหมั้นและสมรสกันได้ ซึ่งยังคงหลักการสำคัญเรื่องชายหญิง โดยกำเนิดและความเป็นสามีภริยาระหว่างชายและหญิงในปัจจุบันไว้ และได้เพิ่มเนื้อหา โดยมีเจตนารมณ์สำคัญที่ต้องการให้การก่อตั้งครอบครัว การอุปการะเลี้ยงดูและความสัมพันธ์ในด้านอื่นๆ ตามกฎหมายของชายหญิง และบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศในฐานะที่เป็นสามี ภริยา หรือคู่สมรส 

โดยมีเนื้อหาที่กว้างขวางและครอบคลุม เพื่อรับรองและคุ้มครองสิทธิ หน้าที่ และสถานะทางครอบครัวของบุคคลดังกล่าวในฐานะที่เป็นสามี ภริยา คู่สมรส บิดา มารดา และบุตร ให้มีความเท่าเทียมกัน โดยคำนึงถึงวิถีเพศ อัตลักษณ์ทางเพศสภาพ การแสดงออกทางเพศสภาพ และคุณลักษณะทางเพศของบุคคล และไม่ให้นำเอาความแตกต่างทางเพศดังกล่าวมาเป็นข้อจำกัดในทางกฎหมาย ซึ่งร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวได้ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา และอยู่ระหว่างการดำเนินการนำขึ้นทูลเกล้าฯ และประกาศใช้บังคับเป็นกฎหมายต่อไป 

คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ของสภาผู้แทนราษฎร เห็นควรแก้ไขเพิ่มเติมเหตุผลประกอบร่าง พ.ร.บ.บางประการ และมีข้อสังเกตเกี่ยวกับการเร่งรัดให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณา ศึกษา และทบทวนการออกกฎหมายที่กำหนดสิทธิ หน้าที่ สถานะทางกฎหมาย การรับรองอัตลักษณ์ทางเพศสภาพหรือเรื่องอื่นใดเกี่ยวกับเด็กที่เกี่ยวข้องกับคู่สมรสที่มีความหลากหลายทางเพศ เช่น การสร้างครอบครัว รวมทั้งการดูแลและอุปการะเลี้ยงดู “เด็ก” ซึ่งเป็นบุตรของผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศ 

การแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ พ.ศ. 2558 เพื่อให้ครอบคลุมถึงผู้มีมีความหลากหลายทางเพศ การแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับเพศในประมาลกฎหมายอาญาและกฎหมายอื่น เพื่อให้ครอบคลุมบุคคลทุกเพศ รวมทั้งการส่งเสริมและสนับสนุนให้หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง จดการอบรม เผยแพร่ความรู้ และสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับ พ.ร.บ.ฉบับนี้ให้แก่บุคลากรของตน รวมทั้งการจัดให้มีแนวปฏิบัติที่ชัดเจนเพื่อคุ้มครองสิทธิของคู่สมรสและครอบครัวที่มีความหลากหลายทางเพศ ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นไปตามเจตนารมณ์ของ พ.ร.บ.ฉบับนี้ 

โดยให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี นำเหตุผลของร่างฯ ตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป และให้กระทรวงยุติธรรมเป็นหน่วยงานหลักรับข้อสังเกตไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงการคลัง กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานคณะกรรมการกฤฎีกา สำนักงานศาลยุติธรรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาศึกษาแนวทาง และความเหมาะสมของข้อสังเกตดังกล่าว และสรุปผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวในภาพรวมแล้วส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่ง เพื่อนำเสนอครม.ต่อไป

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม