วิธีล้างโคลนหลังน้ำลด เมื่อน้ำลดต้องรีบล้าง ปล่อยไว้นานอันตราย!

16 ก.ย. 67

How To วิธีล้างโคลนหลังน้ำลด เมื่อน้ำลดต้องรีบล้าง ปล่อยไว้นานอันตรายต่อสุขภาพ ด้วยวิธีกำจัดทั้งคราบสกปรก และกลิ่นเหม็นอับไม่ให้เหลือ

สถานการณ์น้ำท่วม 2567 ยังเป็นเรื่องที่ต้องติดตาม จากการประกาศเตือนรับมือ ที่น้ำอาจท่วมสูงเข้าในพื้นที่อื่นใกล้เคียง ถึงแม้จะมีการเตรียมระบายน้ำจากทางหน่วยงานภาครัฐ หากปริมาณน้ำเยอะเกินกว่าที่จะควบคุมได้ การเกิดเหตุ น้ำท่วม 2567 ย่อมเป็นเรื่องที่อาจเกิดขึ้นได้ แม้จะอยู่ในกลางกรุงเทพมหานคร สำหรับผู้ที่ประสบภัยน้ำท่วมในปัจจุบัน Amarin Online ได้รวบรวม วิธีล้างโคลนหลังน้ำลด เมื่อน้ำลดต้องรีบล้าง ปล่อยไว้นานอันตรายต่อสุขภาพ ไว้ให้แล้ว สามารถดูได้เลยที่นี่!

 

วิธีล้างโคลนหลังน้ำลด
หลังสถานการณ์ น้ำท่วม 2567 ที่เริ่มคลี่คลายบางพื้นที่แล้ว การต่อสู้ขั้นแรกสำหรับเจ้าของบ้าน คือการสู้กับโคลน เพราะสภาพบ้านหลังน้ำท่วมหลายหลังจำเป็นต้องล้างบ้าน เพื่อเอาโคลนและคราบโคลนออก ไม่เว้นแม้แต่บนฝ้าเพดาน โดยขั้นแรกที่ต้องจำให้ขึ้นใจคือการล้างตั้งแต่ตอนที่โคลนยังไม่แห้ง ต้องรีบรีดโคลนออกให้ไวที่สุด และไม่ควรใช้วิธีตักหรือเอาไม้ถูพื้นมาถูกโดยเด็ดขาด

1. หลังจากน้ำลด ควรเปิดประตู หน้าต่าง เพื่อให้อากาศถ่ายเท และระบายกลิ่นเหม็นอับออกไป พร้อมกับขนย้ายของออกจากพื้นที่ที่ต้องการทำความสะอาด ก่อนที่จะใช้พลั่วตักโคลนออก หรือหาวิธีรีดโคลนออกไปให้ได้มากที่สุด

2. ควรเตรียมน้ำไว้ก่อนการล้าง โดยการสำรองน้ำใส่ถังขนาดใหญ่ไว้ ถ้าไม่มีน้ำประปาก็ใช้น้ำแม่น้ำที่ขุ่น ๆ ล้างไปได้ก่อน เพื่อการทุ่นแรงควรใช้เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง สายยางฉีดน้ำ หรือไม้ปาดน้ำ ฉีดหรือกวาดโคลนที่ยังเหลืออยู่ออก

3. ก่อนการใช้ไฟบ้าน หรือใช้เครื่องฉีดเพื่อล้างบ้าน ควรเช็กสภาพไฟฟ้าก่อน ด้วยการดูคัตเอาท์ พร้อมใช้ไขควงวัดไฟตรวจสอบให้มั่นใจก่อนการใช้งาน เพื่อลดการเกิดอันตรายแก่สมาชิกที่มาช่วยเหลือ

4. ระหว่างการทำความสะอาด ควรหาอุปกรณ์ปกป้องร่างกาย อาทิ รองเท้าบูท ถุงมือกันไฟ อาจเป็นขอหายากในเวลานี้ แต่เพื่อลดการเกิดเหตุซ้ำซ้อนและลดอันตราย หากใช้งานเสร็จแล้วควรบริจาคให้ผู้อื่นยืม เพื่อความรวดเร็วไม่ต้องรอหน่วยงานรัฐ

5. เมื่อเตรียมพื้นที่ทำความสะอาดบ้านเรียบร้อย ให้ใช้ไม้รีดน้ำรีดโคลนออก กรณีที่โคลนสูงควรใช้เครื่องทุ่นแรงในการทำความสะอาด ที่สำคัญควรทำทางน้ำเพื่อให้ดินไหลออกจากบ้านได้ทุกส่วน โดยเริ่มจากการล้างชั้นบนไล่ลงมาชั้นล่าง และควรฉีดจากด้านในออกไปด้านนอก

6. หลังจากการล้างคราบดินออกรอบแรก สามารถใช้คลอรีนผสม 1 ซีซี. ต่อน้ำสะอาด 1 ลิตร ฉีดพ่นให้ทั่วพื้นบ้านหรือบริเวณที่ต้องการ จากนั้นสามารถใช้น้ำยาล้างจานหรือผงซักฟอกถูให้ทั่วแล้วขัดออก เมื่อครบแล้วให้ใช้น้ำร้อนราดคราบสกปรกออก หรือใช้น้ำยาทำความสะอาดขัดซ้ำอีกรอบ แล้วล้างด้วยน้ำสะอาด และต้องไม่ลืมทดสอบก่อนการใช้งานจริง เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาภายหลัง

7. เมื่อล้างบ้านสะอาดแล้ว ต้องล้างสิ่งของที่จะขนเข้ามาไว้ในบ้านให้สะอาดก่อนขนเข้าบ้าน หากเป็นเฟอร์นิเจอร์จำพวกพรม หรือผ้า หรืออะไรที่สามารถขึ้นราได้ ควรทิ้งทันที เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายภายหลัง

 

วิธีทำความสะอาดเชื้อราในบ้าน
น้ำท่วม 2567 นอกจากต้องทำความสะอาดโคลนออกจากบ้านแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่ต้องรีบกำจัดออกจากบ้านคือ เชื้อรา หากภายในบ้านมีเชื้อราบนพื้นหรือผนังหลังน้ำลด ควรทำความสะอาดภายใน 1-2 วัน โดยสามารถสังเกตคราบเชื้อราได้จาก รอยเปื้อนจุดสีดำและกลิ่นเหม็นอับ รวมไปถึงคราบตะไคร่ด้วยเช่นกัน

  • ใช้ทิชชูหรือหนังสือพิมพ์พรมน้ำเล็กน้อย แล้วเช็ดบริเวณที่มีคราบ โดยวิธีการคือให้เช็ดไปในทางเดียวกัน จากนั้นนำกระดาษที่ใช้แล้วใส่ถุงขยะ
  • เมื่อเช็ดรอบแรกเสร็จแล้ว ให้เช็ดซ้ำครั้งที่สอง โดยการใช้ทิชชูหรือหนังสือพิมพ์ ชุบน้ำสบู่หรือน้ำยาล้างจาน เช็ดไปในทิศทางเดียวกันซ้ำ นำกระดาษที่ใช้แล้วใส่ถุงขยะเดียวกันและปิดปากถุงให้มิดชิด
  • ขั้นตอนสุดท้าย ให้ทำความสะอาดอีกครั้ง ด้วยน้ำส้มสายชูความเข้มข้น 5-7% หรือแอลกอฮอล์ความเข้มข้น 60-90%

 

ทั้งนี้เฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ หลังจากทำความสะอาด หมั่นสังเกตด้วยว่ามีเชื้อรากลับมาอีกหรือไม่ หากยังมีเชื้อราขึ้นให้นำมาทำความสะอาดซ้ำ และที่สำคัญระหว่างการทำความสะอาด ไม่ควรเปิดแอร์หรือพัดลม เพื่อป้องกันไม่ให้สปอร์เชื้อราฟุ้งกระจาย

หากต้องตกเป็นผู้ประสบภัยน้ำท่วม การกลับเข้าสู่สภาพเดิมที่คล่องตัวโดยเร็วเป็นเรื่องสำคัญ นอกจากการจัดการที่เกิดขึ้นจากน้ำพักน้ำแรงของตนเอง วิธีรับมือน้ำท่วม หลังน้ำลด ลำดับต่อไปคือ การพยายามเข้าถึงและสิทธิ์ที่ควรได้รับการเยียวยาจากรัฐบาล เพื่อให้ทุกอย่างดีขึ้นอย่างรวดเร็ว สามารถใช้ชีวิตต่อได้ ทั้งที่เพิ่งเป็นเหยื่อจากเหตุการณ์ทางธรรมชาติ การรับความช่วยเหลือจึงเป็นส่วนที่สำคัญที่สุด

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

สกู๊ปพิเศษ เป็นกระแส