อัจฉริยะ บุก สคบ.ให้เวลา 48 ชม. เพิกถอนใบอนุญาตดิ ไอคอน กรุ๊ป

15 ต.ค. 67

อัจฉริยะ บุก สคบ.ให้เวลา 48 ชม. เพิกถอนใบอนุญาตดิ ไอคอน กรุ๊ป หากไม่ทำตามจะแจ้งข้อหาตามมาตรา 157

วันที่ 15 ต.ค.67 ที่สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้เดินทางมาที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เพื่อยื่นหลักฐานต่อ นายจิติภัทร์ บุญสม ผอ.กองคุ้มครองผู้บริโภคด้านธุรกิจขายตรงและตลาดแบบตรง โดยให้เวลา 2 วัน ในการเพิกถอนใบอนุญาตตลาดแบบตรง ของบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด ที่ทำธุรกิจไม่ตรงกับใบอนุญาต

1728983622832

นายอัจฉริยะ ระบุว่า สคบ.เป็นนายทะเบียนรับจดทะเบียนให้กับบริษัทดิไอคอนกรุ๊ป ตั้งแต่ 2562 คนที่รับจดคือ เลขาธิการ สคบ. และ ผอ.กองคุ้มครองผู้บริโภคด้านธุรกิจขายตรงและตลาดแบบตรง ซึ่งบริษัทดำเนินการผิดกฎหมายมาตลอด ตั้งแต่ปี 62 จนถึงปัจจุบัน เป็นเวลา 5 ปีแล้ว เลขาธิการและเจ้าหน้าที่ มีอำนาจในการตรวจสอบการดำเนินธุรกิจของบริษัทที่มีการจดทะเบียน แต่ไม่มีการตรวจสอบ ที่ผ่านมาบริษัทดิไอคอนกรุ๊ป มีแผนการตลาดอ้างว่าขายสินค้าให้กับสมาชิกที่เป็นตัวแทนจำหน่าย แต่ความเป็นจริงระยะเวลาที่ผ่านมา บริษัทดังกล่าวเป็นลักษณะชักชวนให้มีการหาเครือข่ายมากกว่าการขายสินค้า ซึ่งบริษัทไม่ได้เน้นการขายสินค้าเพราะสินค้าไม่ได้เป็นที่ต้องการของตลาด และราคาแพง สิ่งที่บริษัททำคือหาเครือข่ายสมาชิกซึ่งจะผิดตาม ม.19 และ ม.46 ส่วนเจ้าหน้าที่จะมีความผิดตาม ม.39 , ม.18 , ม.40 และ ม.42 ที่ไม่มีการตรวจสอบบริษัทไอคอนกรุ๊ปตั้งแต่จดทะเบียน และจะมีความผิดตาม ม.157 เจ้าพนักงานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่

1728983634150

ทางด้านนายจิติภัทร์ ระบุว่า จะนำเรื่องนี้เข้าสู่การพิจารณาว่าเข้าองค์ประกอบตามมาตรา 19 หรือไม่ และจะเสนอให้กับนายทะเบียนในการเพิกถอนใบอนุญาตอีกที โดยในวันพรุ่งนี้ได้มีการนัดหมาย “บอสพอล” มาให้ข้อมูล ส่วน กันต์ กันตถาวร มิน พีชญา แซม ยุรนันท์ นัดหมายมาในวันที่ 17 ต.ค. และในวันที่ 18 ต.ค. จะเชิญบริษัทที่เป็นตัวแทนจำหน่าย 10 บริษัท มาชี้แจงข้อเท็จจริง เมื่อได้ข้อเท็จจริงประกอบกับหลักฐานทั้งหมด คาดว่าจะนำเสนอนายทะเบียนเพิกถอนได้ 

1728983657798

เมื่อถามว่าได้รับการยืนยันจากทางฝั่งของเหล่าบอสหรือยังในการเรียกให้มาให้ข้อเท็จจริง นายจิติภัทร์ ระบุว่า ได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปปิดหมายแล้ว คาดว่าจะมา แต่ว่าไม่รู้ว่าจะมอบอำนาจให้ใครมาแทนหรือไม่ นายอัจฉริยะ ระบุว่า ไม่ต้องมาก็ได้เพราะหลักฐานปรากฏชัดเจนแล้ว มีการชักชวน มีผู้เสียหายชัดเจน ถึงไม่สอบข้อเท็จจริงก็สามารถเพิกถอนใบอนุญาตได้อยู่แล้ว และถ้าภายในวันศุกร์นี้ สคบ.ไม่เพิกถอนใบอนุญาตของดิไอคอนกรุ๊ป จะเดินทางไปแจ้งความกับ บิ๊กเต่า พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ที่ ปปป. เอาผิดเจ้าหน้าที่ สคบ. ตาม ม.157

ส่วนคลิปเสียงเทวดา นายจิติภัทร์ ระบุว่า เทวดาคือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แล้วแต่ความเชื่อ แต่ว่าถ้าเป็นบุคคลที่ว่ามีการเรียกรับผลประโยชน์ เชื่อว่าที่นี่ไม่มี ทั้งนี้ต้องดูเจตนาผู้พูดว่าพูดถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์จริงๆ หรือในลักษณะบุคคล เป็นบุคคลสามารถตรวจสอบได้อยู่แล้วในการขออนุญาตในช่วงปีนั้น

กรณีที่ สคบ.เป็น 1 ใน 4 หน่วยงานที่รับเซ่นไหว้ นั้น ได้มีการหารือกันภายในหน่วยงานแล้ว เพราะว่ากระทบต่อความเชื่อมั่นของประชาชน ขอให้เชื่อมั่นในการทำงานของ สคบ. ส่วนในเรื่องบุคคลที่กระทำผิดกฎหมายที่ลักษณะต่างๆ จะมีการจัดการโดยเด็ดขาด.

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส