สั่งเด้ง 5 ตำรวจ ออกจากพื้นที่ รุมทำร้ายชาวบ้าน  

รองผบช.ภาค3 มาเอง สั่งเด้ง 5 ตำรวจ ออกจากพื้นที่ รุมทำร้ายชาวบ้าน ระหว่างตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง จนกว่าผลจะเสร็จสิ้น 

วันที่ 21 ต.ค. 67 พล.ต.ต.ระพีพงษ์ สุขไพบูลย์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 ในฐานะรักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชัยภูมิ ได้เดินทางจาก จ.นครราชสีมา ลงพื้นที่ สภ.บำเหน็จณรงค์ เพื่อให้ พ.ต.อ.เวชบุตร ชมบุญ ผกก.สภ.บำเหน็จณรงค์ เร่งดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริง หลังเกิดกรณีมีชาวบ้านในพื้นที่ได้นำภาพคลิปหลักฐานวเข้าแจ้งความขอความเป็นธรรมว่ามีตำรวจในพื้นที่ สภ.บำเหน็จณรงค์รุมทำร้ายร่างกายประชาชนได้รับบาดเจ็บ 

เหตุเกิดเมื่อช่วงคืนวันที่ 18 ต.ค. 67 เวลา 00.35 น. 

โดยภาพจากกล้องวงจรปิดริมถนนบริเวณหน้าวัดบ้านชวน ตรงข้ามกับบ้านเลขที่ 3/7-8 หมู่ 1 ต.บ้านชวน ต.บ้านชวน อ.บำเหน็จณรงค์ จ.ชัยภูมิ จับภาพได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นาย เดินเข้ามาหาชาวบ้านที่ยืนอยู่บนฟุตบาทริมถนน ได้มีการพูดคุยกันสักพักแล้ว เหมือนมีปากเสียงกัน และมีตำรวจนายหนึ่งได้เข้าชกต่อยกับชาวบ้านผู้ชายจนล้มคว่ำลงกับพื้น แล้วได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกชุดขับรถยนต์สายตรวจเข้ามาสมทบ และมีเจ้าหน้าที่ลงมาจากรถรวมกว่า 5 นาย หลังจากนั้นก็ได้เกิดการชกต่อยชุลมุนกันขึ้นตามภาพวงจรปิดที่บันทึกช่วงเกิดเหตุไว้ได้ 

ซึ่งมีการนำเสนอข่าวออกไปจำนวนมากในขณะนี้ที่ระบุว่า มีชาวบ้านผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บ 2 ราย อายุ 61 ปี และ 35 ปี 

พล.ต.ต.ระพีพงษ์ สุขไพบูลย์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 ในฐานะรักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชัยภูมิ กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุนั้นเป็นช่วงเวลาหลังเที่ยงคืนที่มีชาวบ้าน และลูกหลานที่ขายของ และขายลูกชิ้นอยู่บริเวณหน้าบ้านตัวเอง วันเกิดเหตุได้ทำการเก็บร้าน เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่ดึกแล้วก่อนที่ลูกหลานจะบอกให้ไปส่ง และตนเองก็เดินไปสตาร์ทรถจักรยานยนต์ หลังจากที่สตาร์ทรถเสร็จแล้ว ตำรวจได้เดินออกจากวัดมาถามตนว่าสตาร์ทรถและเบิ้ลรถจักรยานยนต์เสียงดังทำไม ก่อนเกิดเหตุชกต่อยชุลมุนกันขึ้น ซึ่งก็ต้องไปดูด้วยว่ามีการเบิ้ลรถเสียงดังด้วยหรือไม่ 

รวมทั้งในวันเกิดเหตุก็เป็นวันที่ทางวัดดังกล่าวมีการจัดงานวันออกพรรษาประจำปีทุกปีอยู่แล้ว และภายในงานวันเกิดเหตุทางชุดเจ้าหน้าที่สายตรวจ สภ.บำเหน็จณรงค์ก็มีการจัดกำลังไปดูแลความปลอดภัยภายในงานอยู่แล้ว ซึ่งก็มีการสั่งปิดงาน งดการใช้เสียงดังต่างๆ ภายในงานในวัดกันหมดแล้ว และมีส่วนหนึ่งที่มีกลุ่มคนมาเที่ยวงานไปรวมตัวกันที่บริเวณหน้าวัด ทางเจ้าหน้าที่ชุดสายตรวจก็ต้องออกตรวจตามหน้าที่ เพื่อไม่ให้เกิดความรุนแรงหลังวันเลิกงาน 

ซึ่งในส่วนที่มีผู้บาดเจ็บที่เป็นชาวบ้าน 2 ราย ยืนยันว่าไม่เคยมีเรื่อง และวันที่เกิดเหตุนั้นไม่ได้มีเหตุการณ์รุนแรง หรือมีเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทบริเวณหน้าร้านของตนแต่อย่างใดนั้น ในส่วนที่ครั้งนี้ทางชาวบ้านที่ร้องขอความเป็นธรรมมาว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทำเกินกว่าเหตุในครั้งนี้ด้วยหรือไม่ และมีการเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจพนักงานสอบสวน สภ.บำเหน็จณรงค์แล้ว เพื่อที่จะขอให้มีการดำเนินคดีกับทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และเจ้าหน้าที่อยู่ในที่เกิดเหตุที่รุมทำร้ายชาวบ้านตามคลิปดังกล่าว เพื่อขอความเป็นธรรมต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับชาวบ้านในครั้งนี้แล้วนั้น 

พล.ต.ต.ระพีพงษ์ กล่าวอีกว่า เพื่อความเป็นธรรมทุกฝ่ายและเจ้าหน้าตำรวจเองก็ต้องพร้อมให้ความเป็นธรรมกับชาวบ้านต่อกรณีที่เกิดขึ้นด้วยจึงได้มีคำสั่งตำรวจภูธรจังหวัดชัยภูมิให้ข้าราชการตำรวจมาปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรจังหวัดชัยภูมิที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์กรณีที่เกิดขึ้นแล้วรวม 5 นาย ประกอบด้วยยศ ร.ต.ต. 1 นาย,ส.ต.ต.อีกรวม 4 นาย ทั้งนี้มีผลตั้งแต่วันที่ 21 ต.ค. 67 เป็นต้นไปแล้วจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง 

และให้ทางผกก.สภ.บำเหน็จณรงค์และรองผบก.ภ.จว.ชัยภูมิที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นครั้งนี้ให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว คาดว่าจะใช้เวลาไม่นานภายในไม่เกินสัปดาห์นี้ว่ามีการกระทำเกินกว่าเหตุหรือไม่ที่จะต้องมีการสอบสวนทั้งทางวินัยและอาญาด้วย