ทนายตั้ม แฉอีก คลิปเสียงยัน ท่านประธาน ส. ไม่ได้ไปต่างประเทศ

ทนายตั้ม แฉอีก คลิปเสียงยัน ท่านประธาน ส. ไม่ได้ไปต่างประเทศ หลังมีข่าวนักการเมืองเรียกรับทรัพย์ บอสดิไอคอน กรุ๊ป 

จากกรณี ท่านประธาน ส. ที่ถูกพาดพิง เรื่องคลิปเสียง นักการเมืองเรียกรับทรัพย์จากผู้บริหารบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด ในชั้นกรรมาธิการ (กมธ.) สภาผู้แทนราษฎร ยืนยันว่าไม่ใช่เป็นเสียงของตนเอง และตอนนี้ที่เกิดเหตุอยู่ต่างประเทศ ไม่ได้อยู่ในประเทศไทยนั้น 

ต่อมาเฟซบุ๊กเพจ “ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ”  โพสต์คลิปเสียงท่านประธาน ส. กับพยานที่อ้างว่าเป็นผู้ติดตาม โดยระบุข้อความว่า “คลิปเสียงท่านประธาน ส. กับพยานที่ เป็นผู้ติดตาม ยอมกลับใจมาให้การกับผม เพราะระอากับพฤติกรรมของท่านประธาน ตอนนี้ DSI พาพยานเข้าโครงการคุ้มครองพยานเรียบร้อยครับ แล้วคลิปนี้ท่านประธานจะจำเสียงตัวเองได้ไหมครับ?” 

จากนั้นเพจดังกล่าวโพสต์ข้อความอีกว่า “ขู่ทนายด้วยการใช้กฎหมายเหรอ อยู่ๆก็จำเสียงตัวเองได้เฉยเลย ปฏิเสธมาตั้งนาน ผมมั่นใจว่ามันไม่ผิดกฎหมาย และเป็นเรื่องที่เป็นประโยชน์กับสาธารณชน ไม่งั้นผมไม่เปิดหน้าสู้หรอกครับ” 

ล่าสุดวันที่ 22 ต.ค. 67 นาย ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ได้เผยแพร่คลิปเสียงสนทนาระหว่าง ท่านประธาน ส. กับพยานที่อ้างว่าเป็นผู้ติดตามอีกครั้ง ซึ่งคลิปนี้มีความยาว 1.09 นาที เพื่อยืนยันว่า ท่านประธาน ส. อยู่ไทยนานแล้ว โดยมีใจความการสนทนาดังนี้ 

ประธาน ส. : “ถ้าเขาเป็นตำรวจจริงเขาต้องส่งหมายมาให้คุณ เขาเรียกคุณไป เขาไม่ใช่ตำรวจ คุณจำไว้ 

พยาน : ครับ อ่อ ครับๆ เข้าใจครับ งั้นแสดงว่า เห็นเขาบอกว่าขอทักทาย ขอข้อมูลเบื้องต้นก้อน เขาอยากเจอตัว ประมาณนั้นน่ะครับ เขาบอกแบบนี้ ขอเจอที่ห้างxxxรามอินทรา 

ประธาน ส. : เขาอยากเจอตัวคุณทำไม 

พยาน : ไม่รู้เหมือนกัน ขิเจอที่ห้างXXXรามอินทราเพื่อพาไปที่เหมือนกับแถวสอบสวนกลาง 

ประธาน ส. : ไม่ใช่ แล้วคุณจะไปเหรอ 

พยาน : เปล่าครับ ผมตกใจ ก็รีบโทรหาท่านประธานก่อนนะครับ ผมก็ไม่อยากไป

ประธาน ส. : คุณไม่ต้องไป คุณเปลี่ยนเบอร์เลย แล้วถ้าเขาเป็นตำรวจจริงเขาจะส่งหมายไปที่บ้าน และถ้าเขามีหมายเรียกพยานคุณก็บอกผม เดี๋ยวผมให้ทนายไปด้วย ไม่ใช่ว่าเขาเรียกคุณไปคุณก็ไป คุณอย่าต๊องดิ 

พยาน : ได้ครับ งั้นก็ไม่ต้องไป เดี๋ยวเปลี่ยนเบอร์อีกหนึ่ง 

ประธาน ส. : แล้วคุณก็แจ้งเบอร์ใหม่มาที่ผมด้วย ผมออกจากโรงพยาบาลแล้วเจอกัน