ครั้งแรกของเมืองไทย! ที่มหาเศรษฐีอันดับ 1 ของประเทศ ไม่ใช่ "เจ้าสัวธนินท์-เจ้าสัวเจริญ" แต่เป็น "สารัชถ์ รัตนาวะดี" แห่ง Gulf Energy

คอนเทนต์แนะนำ

ดับแล้ว 5 ศพ! นักท่องเที่ยวต่างชาติสังเวยชีวิตให้เหล้าผสมเมทานอลในลาว

ทำถึง! ทีมเชียร์ลีดเดอร์ขอนแก่นวิทยายน จากไวรัลชุดบอดี้มนุษย์และเปรต

รมช.คลัง แนะเข้าเว็บ Welfare.mof.go.th ยืนยันสิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

เมื่อเดือนเมษายน 2565 ที่ผ่านมา นิตยสารฟอร์บส์ (Forbes) เพิ่งเปิดเผยรายงานมหาเศรษฐีพันล้านทั่วโลกไปหมาดๆ โดยในครั้งนั้น 10 อันดับแรกแทบไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากครั้งก่อนๆ นำโดย 3 เจ้าสัวแห่งอาณาจักร เครือเจริญโภคภัณฑ์ ไทยเบฟเวอร์เรจ และ กัลฟ์เอ็นเนอร์จี

ทว่าผ่านไปเพียงไม่กี่เดือน ล่าสุดอันดับมหาเศรษฐีอันดับ 1 ในเมืองไทยได้มีการ "เปลี่ยนมือ" ไปเรียบร้อยแล้ว เมื่อนาย "สารัชถ์ รัตนาวะดี" กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ สามารถแซงขึ้นมาเป็นมหาเศรษฐีอันดับ 1 ของไทยได้เป็นครั้งแรก และเบียด "เจ้าสัวธนินท์" ลงไปอยู่ในอันดับ 3

รายงานของฟอร์บส์ระบุว่า นายสารัชถ์ เป็นซีอีโอของ Gulf ซึ่งเป็นผู้ผลิตไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย ในภายหลังได้เข้าไปลงทุนในธุรกิจโทรคมนาคม-เทคโนโลยี INTOUCH ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ AIS ค่ายมือถือชื่อดังของไทย และล่าสุดในปี 2565 ยังได้เข้าลงทุนในธุรกิจคริปโทเคอร์เรนซี ด้วยการร่วมมือกับ Binance เพื่อตั้งศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลรายใหม่ขึ้นมาในไทย

จากการจัดอันดับ The World’s Real-time Billionaires โดยนิตยสาร Forbes เมื่อวันที่ 18 ส.ค. 2565 พบการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจ ดังนี้


อันดับ 1

- นายสารัชถ์ รัตนาวะดี กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์
- มีทรัพย์สินรวม 11,800 ล้านดอลลาร์ (ราว 418,500 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 122 ล้านดอลลาร์ (ราว 4,300 ล้านบาท) หรือ +1.04%
- อยู่ในอันดับที่ 161 ของมหาเศรษฐีโลก
- นับเป็นครั้งแรกที่นายสารัชถ์ขึ้นสู่อันดับ 1 มหาเศรษฐีเมืองไทย


อันดับ 2

- นายเจริญ สิริวัฒนภักดี ประธานคณะกรรมการบริหาร บมจ. ไทยเบฟเวอเรจ
- มีทรัพย์สินรวม 11,800 ล้านดอลลาร์ (ราว 418,500 ล้านบาท) ลดลง 27 ล้านดอลลาร์ (ราว 958 ล้านบาท) หรือ -0.23%
- อยู่ในอันดับที่ 162 ของมหาเศรษฐีโลก


อันดับ 3

- นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโสบริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด (CP)
- มีทรัพย์สินรวม 11,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 407,900 ล้านบาท) ลดลง 64 ล้านดอลลาร์ (ราว 2,270 ล้านบาท) หรือ -0.55%
- อยู่ในอันดับที่ 163 ของมหาเศรษฐีโลก


หมายเหตุ: ใช้อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยวันที่ 18 ส.ค. ที่ 35.47 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

เศรษฐีไทย 28 คน ขึ้นทำเนียบมหาเศรษฐีพันล้านของ Forbes (เม.ย. 2565)